ถ้าเว็บไซต์นับว่าเป็น ‘บ้าน’ ลิงก์ก็ถือว่าเป็น ‘ที่อยู่’ บนทะเบียนบ้านของเราที่ระบุว่า เว็บไซต์ของเราอยู่ที่ไหน และไปรษณีย์หรือแขกจะมาเยี่ยมเยียนเราได้อย่างไร ซึ่งถ้าที่อยู่ของเรายาวเหยียด อ่านไม่เป็นภาษา คนก็อ่านหาบ้าน ของเราไม่เจอ ทำให้คนไม่อยากคลิกลิงก์ และเราก็จะเสียโอกาสได้คนเข้าเว็บไซต์ไป

วิธีการแก้นั้นง่ายนิดเดียว นั่นคือการ ย่อลิงค์ URL ให้สั้น เพื่อความกระชับ

เพราะนอกจาก ตัด URL ให้สั้นลง กระชับ ดูดี และสามารถฝังเข้าไปในฟีเจอร์ที่จำกัดความยาวลิงก์ได้แล้ว การแปลง URL ให้สั้น ยังมีประโยชน์ในแง่ที่เราสามารถเปลี่ยนชื่อหรือ “Rename” URLที่อ่านไม่รู้เรื่องของเราให้อ่านออก สื่อสารถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ที่ชวนคลิก และยังสามารถติดตามข้อมูลและยอดคลิกได้อีกด้วย

แนะนำ 5 เว็บย่อลิงก์ ตัด URL ให้สั้น พร้อมฟีเจอร์ขั้นเทพ [ฟรี|เสียเงิน]

แน่นอนว่า เครื่องมือช่วยเหลือที่โด่งดังสำหรับคนที่อยากย่อลิงก์คงจะเป็นใครไม่ได้ นอกจาก Bitly.com เพราะไม่ว่าเราจะค้นหาด้วย Keyword ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะ “ย่อลิงก์” หรือ “Shorten URL” เราก็จะเจอเว็บไซต์ ย่อลิงก์ Bitly.com เด้งขึ้นมาให้เห็นอันแรกเสมอ

แต่เว็บย่อลิงก์ยังมีอีกหลายเจ้าที่น่าใช้ มีทั้งดี พรีเมี่ยม ฟรี แถมยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจน่าลองมาใช้งานกันด้วยค่ะ

Shifu แนะนำ
ข้อสงสัย? ย่อลิงก์แล้วส่งผลเสียกับ SEO หรือเปล่า ตอบเร็วๆ ได้ว่า ไม่ได้ส่งผลเสียต่อ การทำ SEO ให้สำเร็จ เท่าไร (คืออาจมีเสียบ้าง) แต่ไม่น่ากังวล ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ให้เราพิจารณาในการเลือกใช้ URL Shortener ที่ปลอดภัย อ่านต่อเรื่องนี้ในบทความ ย่อลิงก์ส่งผลเสียกับ SEO ไหม? ค่ะ

1. Cutt.ly เว็บย่อ URL ให้สั้น ฟรีก็ดี พรีเมี่ยมก็เยี่ยม

 Cutt.ly คือ เว็บย่อลิงค์ฟรี ไม่มีหมดอายุ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยฟีเจอร์คุณภาพที่ดี Cutt.ly เสนอฟีเจอร์ให้เราสามารถ Custom ชื่อและสร้าง QR Code จากลิงก์ย่อส่วนของเราได้ รวมถึงการ Tracking ข้อมูลจากการคลิก

Rebrandly เว็บย่อเว็บง่ายๆ คล้าย Bitly

ก่อนการใช้งานฟีเจอร์ของ Cutt.ly ผู้ใช้งานจำเป็นต้อง Sign up หรือ Log in ก่อน เพราะว่า Home page ของเว็บไซต์ย่อลิงก์ไม่มีช่องไว้ให้แปลงลิงก์ ย่อเว็บง่ายๆ เท่านั้น แต่มีรายละเอียดของฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้ได้อย่างละเอียดเพื่อช่วยให้การตัดสินใจนั้นดียิ่งขึ้น 

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Cutt.ly แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ คือ

1) การย่อลิงก์ 

  • ย่อและเปลี่ยนชื่อ URL ในแบบที่ผู้ใช้งานต้องการ 
  • การสร้าง QR Code หลังจากย่อลิงก์เพื่อความสะดวกในการเพิ่มยอด engagement ให้ลิงก์ โดยที่ทาง Cutt.ly จะส่งไฟล์มาเป็น PNG Format 
  • สามารถติดตาม statistic ของลิงก์
  • เช็คลิงก์จาก Preview Mode เพื่อหลีกเลี่ยง spam และลิงก์ที่ไม่ต้องการ
  • สำหรับผู้ที่ register จะมีฟีเจอร์ UTM code generator ไว้ให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

2) การติดตาม ซึ่งจะเป็นการติดตามแบบ Real time ของลิงก์

  • ติดตามจำนวนคลิกบนลิงก์ 
  • ติดตามจากแหล่งที่มาของคลิก เช่น Social Media หรือ Search Engine 
  • ติดตามจาก Browser ที่คลิกลิงก์
  • ติดตามจากเครื่องมือและอุปกรณ์ที่คลิกลิงก์ 
  • ติดตามจากระบบปฏิบัติการที่คลิกลิงก์ เช่น Android หรือ IOS
  • ติดตามจากพื้นที่ที่คลิกลิงก์ 

2. Rebrandly เว็บย่อเว็บง่ายๆ คล้าย Bitly

Rebrandly.com บอกมาว่าเขาคือแพลตฟอร์มการจัดการลิงก์ชั้นนำสำหรับการทำแบรนด์ นอกจากเป็นเว็บไซต์สำหรับแปลงลิงก์แล้ว Rebrandly ยังมีฟีเจอร์อีกหลากหลายประเภทให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการ Optimize แบรนด์เพื่อขยายฐานลูกค้า หรือการ Collaboration สำหรับทีม

Rebrandly เว็บย่อเว็บง่ายๆ คล้าย Bitly

วิธีย่อ URL ด้วย Rebrandly 

นี่คือหน้าตาของเว็บไซต์โดยรวม และจะเห็นว่า Rebrandly ยกฟีเจอร์ย่อ URL ขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นได้อย่างง่ายดาย 

แค่กด Copy URL ของเราและ Paste ลงไปในช่องนี้ก็ได้ลิงก์ฉบับย่อส่วนเรียบร้อย 

แต่สังเกตกันไหมว่าลิงก์ย่อส่วนที่เราได้รับมานั้นดูคล้ายกับเวลาใช้งานเว็บ Bitly เพราะว่าชื่อของลิงก์ย่อนั้นขึ้นต้นด้วยอักษรของเว็บไซต์ เช่น RB.gy โดยที่เราไม่สามารถ Custom ได้ เพราะว่าข้อจำกัดของเว็บไซต์นี้ก็คือการที่เราต้อง sign up หรือเชื่อมบัญชี และจ่ายเงิน 

มาดูตารางราคาของ Rebrandly กันว่าฟีเจอร์ไหนใช้ฟรีหรือฟีเจอร์ไหนต้องเสียเงิน  

สำหรับ Rebrandly นั้นเปิดโอกาสให้ใช้งานฟรีกับเฉพาะแค่บางฟีเจอร์ เช่น 

  • Fast Redirects (Unlimited) สำหรับผู้ใช้งานฟรีและเสียเงิน
  • Clicks tracked per month จะมีการจำกัดการติตตามแค่ 5,000 (Free)  
  • Total Branded links จำกัดแค่ 500 ลิงก์ต่อเดือน (Free) 
  • Custom Domain Names จำกัดแค่ 5 ลิงก์ต่อเดือน (Free) 
  • Custom Report per month สำหรับผู้ใช้งานที่เสียเงิน 
  • Active teammate สำหรับผู้ใช้งานที่เสียเงิน 

3. BL.INK ระบบจัดการลิงก์สำหรับทีม

BL.INK เป็นอีกหนึ่ง เว็บย่อลิงก์ ที่จำเป็นจะต้อง Register และจ่ายเงินเพื่อเข้าใช้งาน และทาง BL.INK ได้บอกว่าเขาคือผู้จัดการลิงก์ที่สามารถติดตามทุกการคลิก และวิเคราะห์ insight ของลิงก์ได้อย่างแม่นยำเพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของลิงก์ รวมถึงยังปกป้องข้อมูลของคุณอีกด้วย

BL.INK เว็บ ย่อ url และระบบจัดการลิงก์สำหรับทีม

หน้าตาของเว็บไซต์ย่อลิงก์ BL.INK ที่มีดีไซน์สวยงามนี้ ไม่ได้มีช่องไว้ให้สำหรับ Paste URL เพื่อมาย่อเว็บให้สั้นลงอย่างเดียว แต่กลับมีปุ่ม Learn more ให้ผู้ใช้งานได้เข้าไปศึกษาฟีเจอร์ที่ทางเว็บไซต์มีให้ ก่อนตัดสินใจ Register เพื่อใช้งาน 

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ BL.INK แบ่งออกเป็น 7 ประเภททางฝั่งซ้ายมือ ไล่ตั้งแต่

  • การจัดการย่อลิงก์และจัดการทุกคลิกที่เข้ามามีส่วนร่วมกับลิงก์
  • การวิเคราะห์ข้อมูลแบบ Real Time
  • การเชื่อม BLINK สู่เครื่องมือต่าง ๆที่เคยใช้ เพื่อย่อลิงก์จากแพลตฟอร์มนั้นได้อย่างรวดเร็ว 
  • การเติบโตของแบรนด์ 
  • การควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้งาน
  • การเปิดโอกาสให้ทีมได้ร่วมปรับปรุง แก้ปัญหาปัญหาของลิงก์
  • การช่วยเหลือที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งาน โดยจะแบ่งออกเป็นแบบหลาย Section เพื่อครอบคลุมปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกฟีเจอร์ 

ราคาที่ต้องจ่ายเพื่อสมัครใช้ฟีเจอร์ของ BL.INK เป็นรายเดือนและมีให้เลือกตามความสะดวกและความสมัครใจ 

นอกจากนี้ทาง BL.INK ยังแจกแจงแพลนไว้อย่างละเอียดภายในเว็บไซต์เพื่อประกอบการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น! 

4. T2Mio ย่อเว็บ พร้อมฟีเจอร์จัดการลิงก์

T2M หรือ Text to Marketing เป็นแพลตฟอร์มย่อและจัดการลิงก์สัญชาติแคนาดาที่ส่วนใหญ่จะสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับธุรกิจ และตัวแทนมหาวิทยาลัยและผู้ทำงานด้านเซอร์เวย์ 

T2Mio ย่อเว็บ พร้อมฟีเจอร์จัดการลิงก์

T2M จะเด้งหน้านี้ขึ้นมาบน Home Page โดยที่ผู้เข้าใช้งานจำเป็นต้อง Register เพื่อใช้งาน ต่อให้จะมี Tab ให้วางลิงก์ก็ตาม 

แล้วทำไมเว็บไซต์ย่อ URL สีเขียวนี้ถึงไม่ฟรี มีฟีเจอร์เด็ดอะไรมาเสนอให้เราต้องยอมจ่ายกัน มาดูกันเลยค่ะ 

ฟีเจอร์ของเว็บย่อ URL นี้ เป็นทั้ง URL Shortener และผู้ช่วยจัดการลิงก์ของแบรนด์ตัวนี้ครอบคลุมหลายฟีเจอร์ คือ

  • การจัดการลิงก์ โดยที่ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขชื่อลิงก์ สร้าง QR Codes กำหนดระยะเวลาเข้าถึงลิงก์ เป็นต้น
  • การจัดการแบรนด์ ผู้ใช้งานสามารถ Custom ชื่อโดเมน หรือสร้างโดเมนได้อย่างหลอกหลาย เป็นต้น
  • การวิเคราะห์ข้อมูล จะมีการรายงานผลตามช่วงเวลาต่อวัน สัปดาห์และทั้งปี รวมถึงสามารถเข้าถึงผลข้อมูลได้แบบยังไม่ต้อง Log in 
  • การทำแคมเปญ T2M จะช่วยเรื่องการจัดการแคมเปญ และแบ่งประเภทลิงก์ตาม Tag เป็นต้น
  • การใช้บริการ Dedicated instance, Load balancer, และ IP address 
  • ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้ แบบ Single sing-on ที่ผู้ใช้งานสามาถไม่จำเป็นต้องเข้าระบบซ้ำ ๆ เป็นต้น 

5. Shorte.st ย่อเว็บฟรี แถมรับค่าส่วนแบ่ง 

เว็บไซต์ตัวสุดท้ายที่จะแนะนำให้ลองเยี่ยมเยือนและทดลองใช้คือ Shorte.st ที่ผลิตขึ้นโดยเหล่าผู้ชื่นชอบอินเตอร์เนทจากฝั่งยุโรป เว็บย่อ URL ตัวนี้มีฟีเจอร์ที่แตกต่างจากเว็บไซต์ด้านเป็นอย่างมาก เพราะว่าทุกครั้งที่ผู้ใช้งานเลือกย่อลิงก์และเกิด Engagement บนลิงก์นั้น ผู้ใช้งานจะได้รับส่วนแบ่งจากทางเว็บไซต์ (หรือก็คือ การได้ “ค่าบอกต่อ” หรือ “Affiliate” นั่นเอง)

หน้าตาของเว็บไซต์ย่อลิงก์ตัวนี้จะมี Tab ด้านบนเพื่อให้ใส่ URL และย่อลิงก์ให้สั้น โดยที่มีการอธิบายการทำงานของเว็บไซต์ว่าผู้ใช้งานจะสามารถได้รับส่วนแบ่งได้อย่างไร 

ฟีเจอร์การทำงานของเว็บไซต์กำหนดว่าการที่จะได้รับส่วนแบ่งจะเกิดขึ้นได้จาก

  • ทาง Shorte.st จะเพิ่ม ad layer เข้ามาในลิงก์ที่เราย่อไว้
  • เมื่อมี users เข้ามาดูเว็บไซต์ของเราและคลิกบนลิงก์
  • หน้าต่างจะ pop up หน้าจอโฆษณา
  • ได้รับส่วนแบ่งจากการกดเข้าหน้าโฆษณา 

สรุปได้ว่าเราจะได้รับเงินต่อเมื่อ User ของเราได้กดเข้าไปที่ลิงก์ที่เจอหน้าโฆษณาก่อนเข้าถึง Home page ที่แท้จริงของลิงก์ 

Shorte.st ยังบอกอีกว่าจะได้รับประโยชน์อะไรจากการใช้งานเว็บไซต์ย่อลิงก์นี้ นั่นคือ

  • การขยายโอกาสในการสร้างรายได้ เพราะว่าทาง Shorte.st จะมีเครื่องมือช่วยเหลือ เช่น Scripts ที่พร้อม plug in ในเว็บไซต์ของเรา 
  • การให้โฆษณาระดับพรีเมี่ยม ระดับ Global
  • การสร้าง ad layout ที่น่าดึงดูด เพื่อเพิ่มยอด CPM หรือ Click Per Impression 
  • การติดต่อช่วยเหลือกับทางทีมได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา
  • การติดตามข้อมูลแบบ Real Time 

สรุป

เว็บไซต์ย่อลิงก์นั้นมีหลากหลายเว็บไซต์และแต่ละเว็บไซต์ยังให้ฟีเจอร์ต่างกัน รวมถึงการเข้าใช้งานที่มีทั้งแบบใช้ฟรีและเสียเงิน โดยเว็บไซต์ 5 ตัวที่เอามาแนะนำวันนี้ล้วนมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจและชวนให้ใช้งานแตกต่างกันออกไป นับว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ เจ้าของ Social Media Page หรือนักการตลาดที่ต้องการเว็บไซต์ที่ให้มากกว่าการย่อลิงก์ และต้องการค้นหาลูกเล่นใหม่ๆ นอกเหนือจากเว็บย่อลิงก์ Bit.ly อันโด่งดัง

ตาคุณแล้ว

มีตัวไหนที่คุณใช้แล้วว่าดี หรือมีเจ้าไหนที่อยากแนะนำเราเพิ่ม คอมเมนต์แบ่งปันกับเราได้ด้านล่างเลยนะคะ