“ความสามารถในการออกแบบกราฟิกเป็นศูนย์”
“ทำสไลด์ไม่สวย ต้องปรับแก้แล้ว ปรับแก้อีก”
“อยากทำรูปขึ้นมาด้วยตัวเองง่าย ๆ เร็ว ๆ โดยยังไม่ต้องพึ่งพาดีไซเนอร์”
ปัญหาเหล่านี้ถูก Canva แก้ไขให้แล้ว!
มิหนำซ้ำ Canva ยังกลายเป็น MarTech กลุ่ม Content Design ที่กำลังมาแรงสุดขั้ว เพราะสามารถเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก จนหลายคนเริ่มรู้จัก Canva ในนาม “เครื่องมือออกแบบงานกราฟิกออนไลน์ ที่เหมาะกับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกแบบงานกราฟิกมาก่อน รวมถึงผู้ที่ยังไม่ต้องการจ้างกราฟิกดีไซเนอร์ด้วย”
กลยุทธ์การตลาดอะไรที่ทำให้ Canva ซื้อใจนักลงทุนจนมีมูลค่าบริษัทมากถึง 40 พันล้านเหรียญในเวลาเพียง 5 ปี พร้อมทั้งครองใจผู้ใช้งานหลายล้านคน วันนี้ Content Shifu เลยถอดสูตรความสำเร็จของ Canva มาให้ทุกคนดูกัน
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
- จุดเริ่มต้นของ Canva
- กลยุทธ์การตลาดแบบผู้ให้ที่ทำให้ Canva เติบโตอย่างรวดเร็ว
- 1. Canva ใช้งานฟรีแบบไม่หวงฟีเจอร์
- 2. ออกแบบหน้าแรกของเว็บไซต์ที่ทำให้เกิด Conversion
- 3. Design Anything + ใช้งานง่าย = ได้งานคุณภาพ
- 4. ทดลองใช้ Canva Pro ฟรี! ถึง 30 วัน
- 5. ตอบโจทย์ Remote Working
- 6. สื่อสารกับ (ว่าที่) ผู้ใช้ผ่านโซเชียลมีเดีย
- Shifu แนะนำ
- 7. สร้างคอนเทนต์ที่ทรงพลังเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้
- 8. ใช้ SEO ผลักดันผลิตภัณฑ์ของตนเอง
- ความสำเร็จจากไอเดียที่อยากแก้ปัญหา
- สรุป
- ตาคุณแล้ว
จุดเริ่มต้นของ Canva
Canva เป็นสตาร์ตอัปสัญชาติออสเตรเลียที่ก่อตั้งโดยคุณ “เมลานี เพอร์กินส์” (Melanie Perkins) โดยในปี 2007 เมลานีได้ไปสอนการออกแบบกราฟิกให้กับนักศึกษากลุ่มหนึ่งและรู้สึกว่าต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะทำเป็น เธอจึงเกิดไอเดียสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำให้การออกแบบงานกราฟิกเป็นเรื่องง่าย
เมื่อเข้าสู่ปี 2008 เมลานีกับคลิฟฟ์ โอเบรชต์ (Cliff Obrecht) แฟนของเธอก็ได้ร่วมกันสร้าง Fusion Books โปรแกรมออกแบบหนังสือรุ่นออนไลน์ขึ้นมา เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมกันออกแบบ เมื่อรู้ว่าหนทางนี้เริ่มไปได้สวย พวกเขาก็ตั้งใจรวบรวมและสร้างเทมเพลตงานออกแบบที่ครอบคลุมทั้งหมด จนกระทั่งปี 2013 Canva ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
หลังจากเปิดตัวได้เพียง 4 เดือน Canva มีผู้ใช้งานไปแล้วกว่า 150,000 คน หลังจากนั้นก็เริ่มขยับเป็น 1,000,000 คน จนปี 2015 มีผู้ใช้งาน 4,000,000 คน
ที่น่าตกใจ คือ ปี 2018 Canva ได้กลายเป็น Unicorn มีมูลค่าบริษัท 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เรียกได้ว่าเป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก
แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้บอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเมลานีต้องงัดทุกกลยุทธ์ที่จะทำให้นักลงทุนสนใจไอเดียเธอให้ได้ จนเธอต้องเริ่มเล่นกีฬาเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับนักลงทุนและหาจังหวะพิชไอเดีย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชนะใจนักลงทุนได้ คือ การออกแบบซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่ายของ Canva ที่ทุกคนสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการออกแบบมาก่อน
กลยุทธ์การตลาดแบบผู้ให้ที่ทำให้ Canva เติบโตอย่างรวดเร็ว
1. Canva ใช้งานฟรีแบบไม่หวงฟีเจอร์
การตลาดของ Canva เริ่มจากแก้ปัญหาให้ผู้ใช้ด้วยการเปิดให้ใช้งานฟรี! ไม่จำกัดระยะเวลาในการใช้งาน แถมฟีเจอร์ยังหลากหลาย มีเทมเพลตฟรีกว่า 250,000+ แบบ ทำให้ผู้ใช้ใหม่บางคนรู้สึกว่าการใช้เวอร์ชันฟรีเพียงพอต่อการความต้องการ
อีกอย่าง คือ พวกเขาไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียดให้ใช้ Canva Pro จนเกินไป หากเป็นซอฟต์แวร์อื่น ๆ เรามักจะเจอให้ใช้งานเพียง 2-3 ครั้ง แล้วก็ให้จ่ายเงินเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์การใช้งานที่มากขึ้น และนี่เป็นเหตุผลที่อาจทำให้ผู้ใช้ไม่อยากใช้อีก แต่ Canva สามารถทำให้คนกลับมาใช้งานได้อีกเรื่อย ๆ
2. ออกแบบหน้าแรกของเว็บไซต์ที่ทำให้เกิด Conversion
หลายแบรนด์อาจมองข้ามส่วนนี้ไป แต่ Canva ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง โดยคิดมาแล้วว่า Homepage จะต้องดึงดูดผู้ใช้ให้ใช้งานได้ทันที เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ใช้และลูกค้า
หากลองสังเกต Homepage ของ Canva จะเห็นว่ามีความเรียบง่าย ใช้คำสั้นกระชับแต่เข้าใจได้ทันที มีการโชว์ Design Ideas เพื่อปูทางให้คนเริ่มใช้งาน และสิ่งสำคัญที่ Canva ไม่พลาด! คือ การลงทะเบียนที่แสนง่ายเพียง 1 คลิก หรือกรอกแค่อีเมลเท่านั้น มองเหมือนเรื่องธรรมดาเล็กน้อย แต่ถูกใจผู้ใช้ยิ่งนัก
3. Design Anything + ใช้งานง่าย = ได้งานคุณภาพ
Canva สร้างการรับรู้ให้ผู้ใช้ทราบว่าซอฟต์แวร์นี้แก้ปัญหาการสร้างงานกราฟิกได้ทุกรูปแบบ ตั้งแต่หน้าแรกเราจะเห็นว่ามีเทมเพลตทุกประเภท ทั้งงานกราฟิกสำหรับโซเชียลมีเดีย พรีเซนเทชัน โปสเตอร์ เรซูเม่ หรือโลโก้ เป็นต้น
ที่สำคัญ คือ ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องมีพื้นฐานการแต่งรูป เพียงแค่ลาก + วาง ซึ่งช่วยลดชั่วโมงการเรียนรู้ Photoshop หรือเครื่องมือออกแบบงานกราฟิกต่าง ๆ ได้มาก แถมไม่ต้องเสียเวลาดูวิดีโอแนะนำการใช้งาน แต่สุดท้ายก็ยังได้งานสวยและมีคุณภาพเทียบเท่ากับการจ้างกราฟิกดีไซน์เนอร์
ตรงนี้เองที่ทำให้ Canva แตกต่างจากโปรแกรมออกแบบงานกราฟิกทั่ว ๆ ไป และเข้าถึงผู้ใช้ได้จำนวนมาก เพราะแก้ Pain Point ได้อย่างตรงจุดและครอบคลุมแทบทุกอย่าง
4. ทดลองใช้ Canva Pro ฟรี! ถึง 30 วัน
ซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่มักจะให้ใช้งานฟีเจอร์แบบโปรหรือพรีเมียมฟรีแค่ 5 วัน บ้างก็ 7 วัน หรือ 15 วัน บางคนยังไม่ทันได้ใช้ก็ถูกหักเงินไปเสียแล้ว แถมยังยุ่งยากในการติดต่อขอรับเงินคืนอีกด้วย นับถือใจ Canva ที่เปิดให้ทดลองใช้แบบ Pro ฟรีถึง 30 วัน ซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นแบรนด์ไหนเปิดให้ใช้งานฟรีนานขนาดนี้
แต่เชื่อว่ากลยุทธ์การตลาดของ Canva อันนี้สามารถทำให้คนเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของ Canva ได้มากพอสมควร เนื่องจากระยะเวลา 30 วันนั้นนานพอที่จะทำให้ผู้ใช้ติดใจ Canva Pro และเปรียบเทียบความแตกต่างได้ชัดว่าดีกว่าแบบฟรียังไง
ขณะเดียวกันราคา 229 บาทต่อเดือนก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเสียดายเท่าไรนักเมื่อเทียบกับการจ้างกราฟิกดีไซเนอร์มืออาชีพที่อาจได้งานเพียงแค่ชิ้นเดียว
5. ตอบโจทย์ Remote Working
จุดเด่นของ Canva คือ ไม่ว่าจะฟรีหรือเสียเงิน คุณก็สามารถชวนผู้อื่นมาดีไซน์และทำงานร่วมกันได้ ซึ่งตอบโจทย์ยุคนี้ที่คนส่วนใหญ่ Work From Home หรือ Work From Anywhere เรียกได้ว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และทำให้ธุรกิจไปต่อได้โดยไม่หยุดชะงัก ในทางเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันกับทีมในช่วงที่ต่างฝ่ายต่างต้องแยกกันทำงานอีกด้วย
ต่อให้สถานการณ์การระบาดดีขึ้นแล้ว Canva ก็รู้ว่าคนยังจะ Work From Home กันต่อไป แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้จะตอบโจทย์ผู้ใช้ในระยะยาว อีกอย่างคือสมัยนี้ถ้าซอฟแวร์ไหนที่ไม่ตอบโจทย์ Remote Working มีโอกาสที่จะถูกปัดตกทันที!
6. สื่อสารกับ (ว่าที่) ผู้ใช้ผ่านโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้แบรนด์ขยายฐานลูกค้าได้อย่างมหาศาล แต่จะมีสักกี่แบรนด์ที่ดึงลูกค้าให้สนใจได้ภายในไม่กี่วิ และน่าแปลกใจที่ Canva สามารถทำได้!
วิธีการ คือ Canva จะมี Core Message ของตัวเองที่สื่อสารให้คนรู้ว่าฟีเจอร์ของเขาทำให้เราออกแบบงานกราฟิกได้อย่างง่ายดาย สามารถออกแบบอะไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ และไม่ต้องมานั่งฝึกอบรมการใช้งาน
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้คนแชร์ผลงานจากการใช้ Canva โดยติดแฮชแท็ก #canvalove เพื่อสร้างชุมชนคนใช้ Canva และยังเป็น Community หนึ่งที่พูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้
7. สร้างคอนเทนต์ที่ทรงพลังเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้
Canva มีการสร้างคอนเทนต์เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งาน โดยบทความจะเกี่ยวข้องกับการใช้งาน Canva เป็นหลัก เช่น การยกเลิกแผน Canva ชั่วคราว การจัดการและลบทีม การพิมพ์และจัดส่ง การเพิ่มแทร็กเสียงและเอฟเฟ็กต์เสียง เป็นต้น
เมื่อผู้ใช้ค้นหาวิธีการทำหรือการแก้ไข บทความของ Canva ก็จะตอบคำถามให้กับผู้ใช้ได้ ขณะเดียวกัน Canva ก็ทราบดีว่าคอนเทนต์เหล่านี้จะช่วยเพิ่ม Traffic และ Returning Visitor ให้กับเว็บไซต์เช่นกัน
8. ใช้ SEO ผลักดันผลิตภัณฑ์ของตนเอง
ไม่ว่าจะเราจะเสิร์ชคำว่า “ออกแบบรูปภาพ” “ออกแบบโลโก้” หรือ “ทําสไลด์สวยๆ” เรามักจะเห็นเว็บไซต์ Canva ปรากฏขึ้นมาหน้าที่เสิร์ชทันที แน่นอนว่านักการตลาดย่อมรู้ว่านี่คือการทำ SEO โดยใช้คีย์เวิร์ดที่คนส่วนใหญ่นิยมเสิร์ชมาทำการตลาด เพื่อผลักดันให้เว็บไซต์อยู่อันดับต้น ๆ และเพิ่มโอกาสให้คนคลิกมากที่สุด
จนปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 300 ล้านคนเยี่ยมชมเว็บไซต์ Canva ทุกเดือน อีกทั้งผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาประมาณ 1-10 ล้านคนยังมีการค้นหาคำว่า “Canva” บน Google ทุกเดือนอีกด้วย
ความสำเร็จจากไอเดียที่อยากแก้ปัญหา
ปัจจุบัน Canva กลายเป็นหนึ่งในบริษัทซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ที่นักลงทุนต่างจับตามอง โดยรอบล่าสุดระดมเงินทุนได้ถึง 200 ล้านดอลลาร์
- มีมูลค่าบริษัทกว่า 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
- มีลูกค้ารายเดือนกว่า 75 ล้านรายใน 190 ประเทศ
- มีออกแบบ 150 ชิ้นงานภายใน 1 วินาที
- มีแปลเนื้อหาไปแล้วกว่า 100 ภาษา
- มีการเพิ่มพนักงานเป็น 2,500 คน
- ติดอันดับ 1 บริษัทออกแบบในปี 2022 จากการจัดอันดับของ Fast Company
สรุป
กลยุทธ์การตลาดที่กล่าวมาทั้งหมดมีส่วนทำให้ Canva เติบโตเร็วอย่างเห็นได้ชัด และยังมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย เพราะเป็นซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์คนแทบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำธุรกิจส่วนตัวที่ต้องการออกแบบโลโก้หรือรูปภาพเอง แม้แต่กราฟิกดีไซเนอร์มือโปรก็ยังหันมาใช้ Canva ด้วย
ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ว่าทำไมคนถึงนิยมใช้ Canva กันอย่างต่อเนื่อง ก็คงต้องพูดว่า “Canva เป็นผู้ให้ก่อนเป็นผู้รับ” ให้ทั้งฟีเจอร์ที่หลากหลาย ให้ความสะดวกสบาย ให้งานที่มีคุณภาพ ที่สำคัญคือให้ใช้ฟรีได้นานกว่าแบรนด์อื่น เชื่อแล้วว่าความต่างเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างมูลค่าที่เหนือกว่าหลายเท่าได้
ตาคุณแล้ว
หลายคนใช้ Canva เพราะทำให้การออกแบบงานกราฟิกเป็นเรื่องง่าย แล้วคุณล่ะใช้ Canva เพราะอะไร หรือถ้ายังไม่เคยใช้ ลองมาออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานที่ Canva ดูสิ เชื่อว่ามีเทมเพลตงานออกแบบอย่างที่คุณต้องการแน่นอน!