ในงาน ‘Mission To The Moon Forum 2023 : Work-Life Improvement พัฒนาทักษะชีวิตและการทำงานในวันนี้ให้ดีกว่าเดิม‘ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ณ Samyan Mitrtown Hall ที่ผ่านมา
ภายในงานมี Session สัมมนาจัดเต็มจาก Speakers ชั้นนำของประเทศไทยที่มามอบแนวคิด แชร์ประสบการณ์จากคนเคยทำงาน สู่วันที่สำเร็จ ทำให้ได้รับความรู้อัดแน่นอย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะ Session: The Art of Networking ของ คุณเล้ง – ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร และ คุณเก่ง – สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม
ที่จะพามาพูดถึงประเด็นการสร้าง Networking ที่ดี และ การพัฒนาทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในแวดวงการทำงานและในชีวิต บอกได้เลยว่าเป็น Session ที่ดีมาก และ ทำให้เราอยากที่จะรู้จักกับชายที่ชื่อ เล้ง – ศิริวัฒน์ ให้มากขึ้น
เราจึงได้เข้าไปสัมภาษณ์ส่วนตัวกับคุณเล้ง – ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร CEO บริษัท MFEC ผู้นำด้าน IT Solutions ในประเทศไทย ที่ร่วมงานในโปรเจกต์ใหญ่ๆ อย่าง AIS และ KBank จะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลย!
ช่วยแนะนำตัวหน่อยค่ะ
ชื่อเล้งครับ ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร เป็น CEO บริษัท MFEC ด้าน IT Solutions ในประเทศไทยครับ
ขอเริ่มด้วยประเด็นที่เด็กรุ่นใหม่อยากรู้อย่าง ‘Networking VS Skill' ในฐานะ CEO ที่ทำงานกับคนหลายเจน คิดว่าสิ่งไหนสำคัญกว่ากันคะ และยังจำเป็นอยู่ไหม
Networking สำคัญกว่าครับ การที่เรามี Networking ที่ดีหรือแย่ ก็ต้องมีความพยายามเหมือนกัน การที่มาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะมี Networking ที่ดี และต่อให้เราเก่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีใครเห็นก็น่าเศร้านะครับ
แต่สำหรับคนที่เข้าสังคมไม่เก่ง แต่ทำงานเก่งมากล่ะคะ
อันนี้ผมเข้าใจนะครับ แต่ต่อให้ไม่ถนัดการเข้าสังคมและเป็น Introvert แต่คน Introvert เองก็ยังมีเพื่อนหรือวงสังคมของคน Introvert เหมือนกันใช่ไหมล่ะครับ นั่นก็คือ Networking ครับ ที่สำคัญคือการสังเกตโอกาสและสร้างวงล้อม Networking ที่ดีครับ
จาก Session: The Art of Networking และจากโปรแกรม Mentorship ที่พี่เล้งได้จัดให้น้องๆ วิศวะ จุฬาฯ ก็ค่อนข้างเน้นเรื่องการสร้าง Networking ใช่ไหมคะ
ครับ
เลยอยากรู้ว่าสมัยที่พี่เล้ง เริ่มต้นงานในสายงาน และ เข้ามาทำงานที่ MFEC ในฐานะพนักงานคนแรก ซึ่งในตอนนั้น MFEC มีผู้บริหารที่เป็น Founder ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา Networking นี้มีส่วนช่วยให้พี่เล้งประสบความสำเร็จในวันนี้ไหมคะ
ครับ Networking สำคัญจริงๆ สิ่งที่ผมเอามาสอนเอามาเล่าได้ ณ ตอนนี้ ก็เพราะว่าผมอายุเยอะแล้ว ตอนนั้นผมยังเด็กไม่ได้รู้เรื่องพวกนี้ พอผ่านประสบการณ์มามากจึงได้เอาประสบการ์มาสอนมาแชร์ต่อ เพราะอยากที่จะให้น้องๆ รุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Networking มากขึ้น เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่ได้ผ่านมาก่อนก็ไม่มีทางรู้
เมื่อกี้พี่เล้งพูดเรื่อง ‘การสังเกตโอกาส' ด้วย อยากรู้ว่าเราจะฝึกสังเกตโอกาสในชีวิตและโชคชะตาอย่างไรคะ สำหรับคนเจนใหม่ๆ คงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
การสังเกตโอกาสและโชค เรื่องนี้นอกจากจะต้องใช้ประสบการณ์แล้ว ที่สำคัญคือการเข้าใจว่าตัวเราต้องการอะไรในชีวิต การมองเห็นโอกาสแล้วรู้ว่า โอกาสเนี่ย ถ้าเราทำได้ดีจะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายในชีวิตได้ เราก็ทุ่มเทกับมัน กับ โอกาสที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตของเรา เราก็อาจจะไม่ต้องทุ่มเทขนาดนั้น สิ่งนี้ต้องใช้เวลาศึกษา แต่สำคัญเลย คือ คุณต้องรู้จักตัวเองครับ
เป็นแนวคิดที่ปรับใช้ได้กับทุกอย่างเลยค่ะ เอาล่ะ งั้นเรากลับมาที่ประเด็นการทำงานนะคะ เรื่องการ Stereotype นิสัยกับสายอาชีพ
ครับ หมายถึงยังไงเหรอครับ
เวลาเปิดรับสมัครงาน เรามักจะเจอการระบุนิสัยที่เหมาะสมกับอาชีพนี้ เช่น ‘ต้องร่าเริง' ถึงจะเหมาะเป็น AE ได้
ผมไม่เห็นด้วยนะ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับนิสัย แต่คือการเข้าใจบริบทของงานตัวเองและปรับตัวเพื่อทำงานนั้นๆ ให้ออกมาเต็มที่ เช่น เรารู้ว่าเราจะไปคุยกับลูกค้า เราอาจจะไม่ใช่คนร่าเริง แต่เราก็สื่อสารได้อย่างถูกต้อง เข้าใจ ชัดเจน การผูกนิสัยกับสายอาชีพเป็นเรื่องที่ไม่เห็นด้วยเลย ใครก็ทำอาชีพที่อยากทำได้ครับ
ฟังอย่างนี้แล้วรู้สึกโล่งเลยค่ะ คราวนี้ขอมาถามถึงประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารของพี่เล้งกันบ้าง คิดว่าตอนนี้ธุรกิจจะต้องระวังอะไร และ เทรนด์การตลาดอะไรที่ต้องเตรียมรับมือคะ
สิ่งที่ disrupt ที่สุดในยุคนี้ก็คือ AI และเทรนด์การตลาดต่อไป คือ เราจะต้องใช้ AI ให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อเอามาพัฒนาธุรกิจ ก็คือต้องอยู่ร่วมกัน อย่าไปคิดว่าการมาถึงของเทคโนโลยีนี้จะแย่งงานเรา มันมีมาเพื่อช่วยเรา
อีกเรื่องที่สำคัญเลย คือ Data บริษัทที่ใช้ Data เข้ามาช่วยวิเคราะห์ วางแผน ประเมิณ และวัดผลธุรกิจจะอยู่รอดครับ และในอนาคตข้างหน้า Data ก็จะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย แนะนำว่าธุรกิจควรหันมาใช้ Data ในการวิเคราะห์แผนการตลาดต่อไปครับ
เห็นด้วยเลยค่ะ ก่อนจากกันพี่เล้งมีสิ่งที่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาด และ อยากจะแชร์ต่อให้เด็กรุ่นใหม่ไหมคะ
โห้ พูดทั้งวันก็ไม่หมด5555 ไม่มีใครผิดพลาดครั้งเดียวหรอกครับ ผิดมาเป็นร้อยๆ ครั้งแล้วมั้ง ไม่ใช่ว่าผิดพลาดครั้งหนึ่งแล้วจะจบด้วยนะ ผิดหนึ่งครั้ง แก้ไขไป ครั้งหน้าก็ผิดอีก เพราะฉะนั้น การเรียนรู้ที่ได้ คือ การผิดพลาดแล้วผิดพลาดอีก เพื่อโตขึ้นไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดนี้ได้แหละครับ
ทิ้งท้ายก่อนจากกัน
แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ได้พูดคุยกับคุณเล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร หนึ่งในผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ ด้วยแนวคิดที่เฉียบคมจากการถูกลับด้วยประสบการณ์ ผ่านทุกวิกฤตทางเศรษฐกิจ
เชื่อว่าแนวคิดรวมถึงมุมมองของคุณเล้ง จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้ตกตะกอนความคิดหลายๆ อย่าง เพื่อไปปรับใช้กับเส้นทางการทำงานในอนาคตนะคะ