คงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Facebook เป็นสื่อ Social Media ยอดนิยมที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนี้ รวมไปถึงธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ มากมาย ก็ต่างเลือกใช้ Facebook เป็นช่องทางหนึ่งในการทำการตลาดออนไลน์เช่นกัน
และถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทาง Facebook แล้วละก็ Facebook Business Manager ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่คุณนั้นคงจะเคยได้ยินมาบ้าง
หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะได้รู้จักกับเครื่องมือ Facebook Business Manager มากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอนค่ะ!
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
- Facebook Business Manager คืออะไร?
- ประโยชน์ของ Facebook Business Manager
- 7 วิธีเริ่มต้นใช้ Facebook Business Manager
- Step 1: วิธีสร้างบัญชี Facebook Business Manager
- Step 2: ทำความรู้จักกับ 10 เมนู Facebook Business Manager
- Step 3: วิธีสร้างบัญชีโฆษณา (Ads Account)
- Step 4: สร้างเพจธุรกิจ (Facebook Business Page)
- Step 5 : วิธีเพิ่มแอดมินและสมาชิกทีม ใน Facebook Business Manager
- Step 6 : วิธีขอสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีเพจและบัญชีโฆษณา
- Step 7: วิธีเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจหรือเอเจนซี่ (ถ้ามี)
- Bonus: วิธีเพิ่มบัญชี Instagram (ถ้ามี)
- ตาคุณแล้ว
Facebook Business Manager คืออะไร?
Facebook Business Manager คือ เครื่องมือจัดการบัญชีธุรกิจ เปรียบเสมือนตัวกลางในการบริหารจัดการบัญชีทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะมีสิบบัญชี ร้อยบัญชี คุณก็สามารถจัดการกับเพจทั้งหมดที่มี หรือตั้งค่าโฆษณาต่างๆ ได้ครบ จบ ที่นี่ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนในวงการเอเจนซี่หรือคนที่มีหลายเพจต้องดูแล
ประโยชน์ของ Facebook Business Manager
Facebook Business Manager มันดียังไง?
ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าคุณต้องใช้เครื่องมือนี้รึเปล่า วันนี้เราได้รวมทั้ง 5 เหตุผลที่จะทำให้คุณอยากลองใช้ Facebook Business Manager มาไว้ที่นี่แล้ว จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ
1. ใช้สร้างกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้
การใช้ Facebook Business Manager จะทำให้การยิงโฆษณาผ่าน Facebook มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลุ่มเป้าหมายแบบ Custom Audience, Lookalike Audience หรือ Saved Audience ซึ่งไม่สามารถทำได้จากหลังบ้าน Facebook ปกติ
และถ้าใครมีรายชื่อลิสต์อีเมลอยู่แล้ว ก็สามารถนำมาอัปโหลดเข้า Customer List ได้เลย
2. ใช้จัดการเพจและบัญชีโฆษณาหลายบัญชีได้ในที่เดียว
นอกจากจะสามารถเพิ่มหลายเพจรวมกันในเครื่องมือนี้ได้แล้ว คุณยังสามารถเพิ่มบัญชี Instagram และผูกบัญชีบัตรเครดิตต่างกันได้ในแต่ละเพจด้วย
3. ช่วยจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงของสมาชิกที่ใช้บัญชีร่วมกันได้
คุณสามารถกำหนดสมาชิกในแต่ละเพจได้ เช่น นาย A ดูแลเพจ A, นาย B ดูแลเพจ B และยังสามารถกำหนดสิทธิ์การดูแลเพจของแต่ละคนให้แตกต่างกันได้ด้วย เช่น นาย C สามารถโพสต์คอนเทนต์ได้ แต่ลงโฆษณาไม่ได้ เป็นต้น
4. ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีเมื่อต้องร่วมงานกับบุคคลภายนอก
สำหรับอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่มีจำนวนพนักงานหลายคน หรือจ้างเอเจนซี่มาช่วยดูแลจัดการ คุณสามารถตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงของทุกคนในแต่ละเดือนได้ นอกจากนี้ทาง Facebook Business Manager ยังมีระบบ Security Center ที่มีฟีเจอร์ยืนยัน 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authentication) เพื่อให้ Assets หรือ สินทรัพย์ทางดิจิทัลของคุณมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
5. Facebook Business Manager สามารถเข้าถึงเครื่องมือขั้นสูงได้
นอกจากที่ Facebook Business Manager จะเป็นเครื่องมือที่ ‘ฟรี’ แล้ว คุณยังสามารถใช้เครื่องขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็น Audience Insight, Campaign Planner หรือ Facebook Analytics Tools เพื่อช่วยคุณในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
ทีนี้คุณพร้อมที่จะเปิดใช้งาน Facebook Business Manager แล้วรึยัง? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูวิธีเริ่มต้นใช้งานได้เลยค่ะ
7 วิธีเริ่มต้นใช้ Facebook Business Manager
Step 1: วิธีสร้างบัญชี Facebook Business Manager
1. ไปที่ https://business.facebook.com/ คุณจะสังเกตเห็นปุ่ม CTA สีฟ้า ที่เขียนว่า “Create Account” ให้คุณคลิกเพื่อเริ่มสร้างบัญชีได้เลย
2. Log in เข้าสู่บัญชี Facebook ของคุณ
3. หลังจากที่เข้าสู่ระบบแล้ว จะมีหน้าให้คุณกรอกชื่อธุรกิจของคุณ ซึ่งชื่อธุรกิจของคุณจะต้องให้ทุกคนสามารถอ่านได้ ดังนั้น คุณจึงไม่สามารถใส่อักษรพิเศษ (Special Characters) ลงในชื่อธุรกิจของคุณ
4. สร้างโปรไฟล์ทางธุรกิจ ให้คุณพิมพ์ชื่อและอีเมลลงในแบบฟอร์มได้เลย
5. เมื่อ Sign up เข้ามาแล้ว หน้าตาแรกที่เห็นจะเป็นแบบรูปด้านล่างนี้ มันคือ Dashboard (แผงควบคุม) คุณจะสามารถเข้าถึงทุกๆ อย่างเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้ที่นี่
6. เมื่อกดที่สัญลักษณ์ Menu bar ด้านบนซ้าย คุณจะเห็นเมนูต่างๆมากมาย เมนูแรกที่คุณควรรู้จักคือเมนู “Business Setting”
7. เมื่อเข้ามาแล้วคุณจะเจอกับหน้าจอตามรูปด้านล่างนี้
8. คุณสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มบัญชีใหม่ (Add Accounts), เพิ่มเพจใหม่ (Create New Pages), การอนุมัติสิทธิ์เข้าถึง (Request Access) รวมถึงการ claim บัญชีของคุณด้วย
Step 2: ทำความรู้จักกับ 10 เมนู Facebook Business Manager
- Ads Manager : เครื่องมือจัดการโฆษณา สร้างแคมเปญต่างๆ
- Events Manager : เครื่องมือเชื่อมต่อข้อมูลจากเว็บไซต์ เกม หรือแอปพลิเคชั่น
- Audience : เครื่องมือที่ใช้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
- Business setting : เครื่องมือตั้งค่าต่างๆ เช่น User, Accounts, Data sources
- Account Quality : เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพบัญชี ว่ามีโพสต์หรือโฆษณาอะไรที่เราทำผิดนโยบายของ Facebook รึเปล่า
- Analytics : เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
- Billing : เครื่องมือตั้งค่าการชำระเงิน รวมถึงดูประวัติการทำธุรกรรมต่างๆ
- Brand safety : เครื่องมือดูแลความปลอดภัยของแบรนด์
- Media Library : ใช้ดูข้อมูลสรุปโพสต์ของคุณทั้งรูป วิดีโอ ลิงค์ โพสต์ข้อความทั้งหมดในเพจ
- Images & Videos : รวมรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดในเพจของคุณ
Step 3: วิธีสร้างบัญชีโฆษณา (Ads Account)
1. เริ่มต้นสร้างบัญชีโฆษณาให้ไปที่ Manage Setting > Ads Accounts > Create Ads Account แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของ Ad Accounts อยู่แล้ว ให้เลือกที่ Claim Ad Account ได้เลย
2. จากนั้นให้คุณกรอกข้อมูลเบื้องต้น เช่น ชื่อบัญชีโฆษณา, Time zone ของธุรกิจ, สกุลเงินที่คุณใช้ เป็นต้น
3. เมื่อคุณกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ให้คุณเพิ่มคนที่จะให้เข้ามาดูแลบัญชีโฆษณานี้
ขั้นตอนนี้คุณสามารถตั้งค่าบทบาทให้สมาชิกแต่ละคนของคุณได้ด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงสมาชิกแต่ละคนของคุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงส่วนต่างๆ แตกต่างกัน (ในส่วนนี้คุณสามารถกลับมาแก้ไขทีหลังได้ เราจะสอนคุณเพิ่มใน Step ต่อๆ ไป) เมื่อเพิ่มบทบาทให้กับสมาชิกเรียบร้อยแล้วกด Save Change ได้เลย
4. ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งค่าวิธีชำระเงินก่อนที่จะเริ่มทำการโฆษณา
5. สังเกตที่ตรงกลางของหน้านี้ คุณสามารถคลิกข้อความเพื่อแก้ไขรายละเอียดวิธีชำระเงินได้ โดยหาลิงก์ข้อความที่เขียนว่า “View Payment Methods”
6. คุณจะเห็นข้อความที่คอนเฟิร์มว่าคุณยังไม่มีวิธีชำระเงินที่สามารถใช้ได้ ให้คุณเพิ่มวิธีชำระเงิน โดยคลิกที่ปุ่ม “Add Payment Method”
เมื่อสร้างบัญชีโฆษณาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำคือการสร้างเพจธุรกิจ
Step 4: สร้างเพจธุรกิจ (Facebook Business Page)
1. กลับไปในส่วนของการตั้งค่า เพื่อสร้างเพจใหม่ของคุณ ตามภาพด้านล่างนี้ เลือกเมนู Create a New Page
2. ขั้นตอนแรก ให้เลือกประเภทเพจธุรกิจของคุณ
3. หลังจากนั้นให้คุณพิมพ์ชื่อเพจทางธุรกิจ และเลือกประเภทธุรกิจของคุณ
4. คลิก “Create Page” แล้ว Facebook จะลิงก์เข้าหน้า Business Manager ของคุณโดยอัตโนมัติ
5. คุณจะเห็นคำว่า Assigned Assets ทางด้านล่างจะมีให้เลือก 2 อย่าง ถ้าคุณเลือกที่ Pages คุณจะถูกลิงก์ไปที่เพจใหม่ของคุณเพื่อทำการแก้ไข เพิ่มรายละเอียดต่างๆ ให้กับ Page ของคุณ
Step 5 : วิธีเพิ่มแอดมินและสมาชิกทีม ใน Facebook Business Manager
1. จากขั้นตอนที่แล้ว ถ้าคุณ Ads Accounts คุณสามารถเพิ่มสมาชิกในทีมเข้าไปในเพจหรือบัญชีโฆษณาของคุณได้ โดยการกรอกอีเมลของสมาชิกที่คุณต้องการจะเพิ่มเข้าไป อย่าลืมเช็คให้แน่ใจด้วยว่าคุณ Add ถูกคนแล้ว
2. คุณสามารถเลือกบทบาทให้กับสมาชิกของคุณต่อได้ ว่าจะให้มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลมากน้อยแค่ไหน เป็นบทบาทของแอดมิน บทบาทของสมาชิกธรรมดา สามารถลงคอนเทนต์ได้ สามารถลงโฆษณาได้ เป็นต้น
Step 6 : วิธีขอสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีเพจและบัญชีโฆษณา
1. ไปที่เมนูหลักของการตั้งค่า แล้วเลือกหัวข้อ “Ad Accounts” > Add > Add an Ad Account
2. คุณจะเห็นหน้าที่ให้ใส่ Ad Account ID (ถ้าคุณเพิ่ม Ad Account ใน Business Manager แล้ว คุณจะไม่สามารถลบออกได้)
3. คุณสามารถขอสิทธิ์เข้าถึง Ad Account อื่นๆ ได้ โดยการขอ Account ID ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบของ Custom Code ก็ได้เช่นกัน
Step 7: วิธีเชื่อมต่อกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจหรือเอเจนซี่ (ถ้ามี)
ในขั้นตอนนี้ Facebook อาจจะยังไม่ให้คุณทำถ้าคุณเพิ่งจะเริ่มทำโฆษณา แต่คุณสามารถกลับมาทำได้ได้ใหม่ในครั้งต่อๆ ไป
- ให้คุณไปที่ Dashboard > Partners > Partners to share assets with > Add
- พาร์ทเนอร์ของคุณจะมี Account ID โดยดูที่ Business Setting > Business info.
- เมื่อคุณได้ ID มาแล้ว ให้คุณกรอก ID พาร์ทเนอร์ของคุณแล้วกดปุ่ม Add ได้เลย
Bonus: วิธีเพิ่มบัญชี Instagram (ถ้ามี)
- คุณสามารถเชื่อมต่อบัญชี Instagram เข้ากับ Facebook Business Manager ได้เช่นกัน ให้คุณไปที่ Dashboard > Business Setting
- ในคอลัมน์ด้านซ้าย ให้คุณเลือก Instagram Accounts > Add > ใส่ Username, Password > Log In
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเชื่อมบัญชี Instagram เข้ากับ Facebook Business Manager ได้แล้ว
ตาคุณแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีการสมัครเริ่มต้นใช้งาน Facebook Business Manager เครื่องมือนี้ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายให้คุณได้ลองเล่น เราหวังว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบ คุณจะสามารถนำเครื่องมือนี้ไปช่วยในการทำธุรกิจของคุณได้อย่างมีระบบ และบริหารจัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าคุณชอบเครื่องมือนี้ หรืออยากแชร์เทคนิคต่างๆ ให้เพื่อนๆ ทราบสามารถส่งมาทาง Comment ได้เลยค่ะ
บทความดีมากคะ ขอบคุณที่ให้ความรู้นะคะ
ยินดีค่ะ 🙂