เทรนด์ Metaverse กระแสแห่งโลกอนาคตมาแรงแบบฉุดไม่อยู่จนส่งผลไปทั่วทุกอุตสาหกรรม การก้าวเข้าสู่ยุคของ Metaverse กำลังเห็นภาพชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหลายบริษัทมุ่งหน้าเต็มกำลังลงทุนกับ Metaverse 

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปพบกับเทรนด์ Metaverse ในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่น่าจับตามองในปี 2022 โดยอ้างอิงจากรายงาน The Future 100: 2022 ของ Wunderman Thompson

พร้อมแล้วลุยกันเลยค่ะ!

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

Culture – วัฒนธรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าจาก เทรนด์ Metaverse

1. Building the Metaverse – กระแสการมุ่งเข้าสู่ เทรนด์ Metaverse ธุรกิจพากันลงทุนสร้าง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากที่ Mark Zuckerberg ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta และมุ่งลงทุนไปกับ Metaverse ในเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา ก็เหมือนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เหล่าธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมพากันเร่งขยับขยายเพื่อสร้าง Metaverse ของตัวเอง

Microsoft Teams Metaverse
Microsoft Teams
ที่มา: The Verge

อย่าง Microsoft เองก็กำลังสร้าง Enterprise Metaverse หรือจะเรียกว่าเป็น Metaverse สำหรับองค์กรที่จะตอบโจทย์ด้วยซอฟต์แวร์ของ Microsoft ที่จะผสานเข้ากับ Metaverse มากขึ้น เช่น Microsoft Teams ที่จะมี Digital Avatars และผู้ใช้สามารถแชร์ไฟล์ได้ในโลกเสมือน


Shifu แนะนำ

ใครยังไม่รู้จักกับ Metaverse เข้าไปอ่านบทความเรื่อง Metaverse คืออะไร? ส่งผลอย่างไรกับโลกการตลาด? ได้เลยค่ะ อ่านจบเข้าใจได้ทันทีในไม่กี่นาที

 

ล่าสุดบริษัทเกมอย่าง Epic Games ก็เปิดระดมทุน 2 พันล้านดอลลาร์ จาก Sony และ KIRKBI เพื่อทำให้บริษัทก้าวหน้าในการสร้าง Metaverse แถมด้วย Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go ก็ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้าง Metaverse และ Nvidia ก็ไม่รอช้ามาพร้อมกับ Metaverse for Engineers หรือโลกเสมือนสำหรับเหล่าวิศวกร 

นอกจากนี้บริษัทอื่นๆ ต่างพากันทุ่มทุนเข้าซื้อกิจการในอุตสาหกรรมเกมอย่างล้นหลาม อย่าง Take-Two Interactive ผู้จัดจำหน่ายเกมก็เข้าซื้อบริษัทเกมบนมือถืออย่าง Zynga ด้วยมูลค่า 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อมกราคมที่ผ่านมา และ Tencent เข้าซื้อกิจการสตูดิโอเกมจากสหราชอาณาจักรอย่าง Sumo Group ด้วยมูลค่า 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2021

มากไปกว่านั้นแบรนด์ต่างๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ Metaverse อย่างวงการกฎหมายและการบริหารความมั่งคั่ง (Law and Wealth Management) ก็เริ่มหันมาสนใจใน Metaverse เช่นกัน

ในเดือนมีนาคม ปี 2021 ‘Metaverse Group’ ได้ประกาศเปิดตัว Metaverse REIT หรือก็คือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล เรียกได้ว่าเขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อยเมื่อคนสนใจที่จะลงทุนกับอสังหาฯ บนโลกเสมือน

เรียกได้ว่าจากกระแสที่บูมอย่างรุนแรงทำให้เกิดการแข่งขันที่จะสร้างและต้องการเป็นเจ้าของ Metaverse อย่างล้นหลาม จน Krista Kim ครีเอเตอร์และศิลปินผู้สร้างสรรค์งานดิจิทัล ได้บอกกับ Wunderman Thompson Intelligence ว่า “ในยุค 1960s มีการแข่งขันอวกาศ (Space Race) และตอนนี้ในปี 2021 ก็มีการแข่งขัน Metaverse (Metaverse Race)” และ “ผู้คนต่างพากันเร่งรีบร้อนรนที่จะสร้าง Metaverse ใหม่ๆ”


Space Race คืออะไร?

Space Race คือ การแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในการสำรวจพื้นที่โดยใช้ดาวเทียมและยานอวกาศที่บรรจุกระสุน นอกจากนี้ยังเป็นการแข่งขันเพื่อดูว่ามหาอำนาจใดสามารถเข้าถึงดวงจันทร์ได้ก่อน

ที่มา: Eferrit


2. Virtual Genuinfluencers – อินฟลูเอนเซอร์เสมือนที่ดูเรียลและไม่สมบูรณ์แบบ

Angie Virtual Influencer
Angie – Virtual Influencer จากประเทศจีน
ที่มา: RADII

มากกว่าการเป็น Virtual Influencer แล้ว ก็ต้องเป็นอินฟลูเสมือนที่สุดแสนจะจริงใจและดูเรียลอีกด้วย?!

WGSN สำนักทำนายเทรนด์ได้ให้คำนิยามของ Genuinfluencers ไว้ว่า เหล่า Influencer ที่แชร์คอนเทนต์ที่จริงใจ โปร่งใส และเป็นความจริง โดยไม่เอาแต่เน้นขายของอย่างเดียว

ซึ่งเทรนด์นี้ไม่ใช่แค่พูดถึง Influencer คนธรรมดาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง Virtual Influencer อีกด้วย เพราะหลากหลายบริษัทต่างก็ปั้น Virtual Influencer ออกมาให้ดูเพอร์เฟค สมบูรณ์แบบ ตรงตาม Beauty Standard แต่ด้านทางประเทศจีนได้ให้กำเนิด Angie สาว Virtual Influencer โดย Jesse Zhang ที่ตั้งใจดีไซน์ออกมาให้ออกมา Imperfections หรือไม่สมบูรณ์แบบตามแบบฉบับ Virtual Influencer ทั่วไป

Angie มีผิวที่แห้ง บางครั้งก็มีสิว แต่งหน้าแล้วตกร่อง หรือแม้แต่ฟันของเธอก็ไม่ได้เรียงตัวสวยเป๊ะๆ นอกจากนี้เธอมักจะแต่งตัวในชุดง่ายๆ สบายๆ เสื้อยืดสีขาว โดยไม่ต้องพึ่งพาเสื้อผ้าดีไซเนอร์แบรนด์

ซึ่งแน่นอนว่าการออกแบบให้ Angie ดูเนียนราวกับมนุษย์แถมดูเข้าถึงง่ายก็ทำให้สามารถคว้าใจชาวเน็ตจีนได้ไม่น้อย โดยมีความเห็นว่า “เหตุผลที่ชอบ Angie ก็เพราะว่าเธอดูเหมือนจริง มากกว่าคนจริงๆ เสียอีก”

และแน่นอนว่า Gen Z ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะชื่นชอบแบรนด์ที่สามารถเข้าถึงได้และแชร์ Value ร่วมกับพวกเขา จากข้อมูลของ Wunderman Thompson ได้กล่าวไว้ว่า ชาวอเมริกาที่เป็น Gen Z กว่า 73% ต้องการแบรนด์ที่เข้าใจในพวกเขา และ 76% ต้องการแบรนด์ที่ยอมรับในเอกลักษณ์และประสบการณ์ที่หลากหลาย

ทำไมเทรนด์นี้ถึงต้องจับตามอง? นั่นก็เพราะว่าคนเริ่มตระหนักรู้มากขึ้น และสำนักข่าวอย่าง The Guardian ก็ได้กล่าวไว้ว่า “ความสมบูรณ์แบบมากเกินไป กลายเป็นสิ่งที่น่าเบื่อในปัจจุบัน” ซึ่งจากเทรนด์นี้คงจะส่งผลต่อแบรนด์และธุรกิจที่กำลังสร้าง Virtual Influencer ไม่น้อยเลยทีเดียว


Shifu แนะนำ

นักการตลาดห้ามพลาดกับวงการ Influencer ที่ตอนนี้ไม่ได้มีแค่คนธรรมดาแต่มีอินฟลูเอนเซอร์เสมือนที่กำลังรุกวงการเข้ามาทั้งไทยและต่างประเทศ ตามไปอ่านบทความเรื่อง ‘Virtual Influencer กับการเข้ามามีบทบาทสำคัญที่คุณอาจนึกไม่ถึง?

 

3. Metasocieties – รูปแบบสังคมที่เท่าเทียมกันด้วยโลกเสมือน

Metaverse มอบอำนาจในการสร้างโลกที่มีความหลากหลายและสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งการพัฒนาของเทคโนโลยีในทุกๆ วันส่งผลที่ดีต่ออนาคตของ Metaverse จากรายงาน Into the Metaverse โดย Wunderman Thompson ได้รายงานว่า 88% ของผู้บริโภคทั่วโลกเชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถทำให้โลกของเราดีขึ้น และ 78% เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยในการสร้างสังคมที่มีความเท่าเทียมกัน

NOWHERE Metaverse
Nowhere แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบนโลกเสมือน
ที่มา: NOWHERE

การแข่งขันที่สร้างโลกเสมือนช่วยฟูมฟักความสัมพันธ์ การร่วมมือ และการค้นคว้า อย่าง Nowhere แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเจ้าใหม่ที่จะพาคุณเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบ 3D ตั้งแต่ป่า เกาะ ไปจนถึงบนท้องฟ้า ซึ่ง Jon Morris, CEO ของ Nowhere ได้อธิบายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มไว้ว่าเป็น “พื้นที่ Online Event แห่งแรกที่คุณสามารถปรากฏกายได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการได้สัมผัสกับการแสดงบนโลกเสมือนหรือการพบปะกับคนแปลกหน้า”

Horizon Worlds
Horizon Worlds
ที่มา: Meta

Horizon Worlds แพลตฟอร์มโลกเสมือนของ Meta เองก็สร้างประสบการณ์การใช้งาน VR ของ Oculus ซึ่งล่าสุดเมื่อ 15 เมษายน Andrew Boz Bosworth, CTO ของ Meta ได้เผยผ่านทวิตเตอร์ว่าจะขยาย Horizon Worlds ไปแบบเวอร์ชันเว็บ และนอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวจาก The Verge ว่า Meta ก็จะขยายแพลตฟอร์มไปในเวอร์ชันแอปพลิเคชันอีกด้วย

Microsoft Mesh
Microsoft Mesh จำลองโฮโลแกรมบนโลกจริงด้วยการใช้ HoloLens
ที่มา: Microsoft

Microsoft Mesh แพลตฟอร์มโลกเสมือนผสมโลกจริง หรือก็คือใช้เทคโนโลยี Mixed Reality บน Microsoft Azure ที่ทำการแสดงผลวัตถุและตัวแทนบุคคลในรูปแบบ 3D มากไปกว่านั้น Microsoft เน้นไปที่การใช้ Holographic เพื่อขยายขอบเขตการใช้งานให้กว้างขวาง โดยสามารถใช้งานผ่าน HoloLens, VR Headset บางรุ่น, สมาร์ทโฟน, แท็ปเล็ต และคอมพิวเตอร์

เรียกได้ว่าหลากหลายบริษัทต่างพากันสร้างโลกเสมือนและสร้างสังคมใหม่ๆ ที่จะทำให้ผู้ใช้ได้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในโลกจริง แถมยังทำให้ผู้คนเข้าใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิมที่เคยเป็นมา

Brands & Marketing – แบรนด์และการตลาดแนวทางใหม่ด้วย เทรนด์ Metaverse

1. Co-creative Platforms – ดิจิทัลแพลตฟอร์มยุคใหม่ที่จะมอบอำนาจการรังสรรค์ให้แก่ผู้ใช้ทุกคน

ณ ปัจจุบัน ความคิดสร้างสรรค์ คือสิ่งที่กำลังถูกขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเทคโนโลยี ทำให้ยกระดับการสร้างได้ทะลุขีดจำกัดกว่าการสร้างแบบ Physical

จากรายงาน Into the Metaverse โดย Wunderman Thompson ได้กล่าวว่า 72% ของ Gen Z และ Millennials ในประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และจีน เชื่อว่าทุกวันนี้ความคิดสร้างสรรค์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี และ 92% เชื่อว่าเทคโนโลยีจะนำไปสู่โลกใบใหม่ของการรังสรรค์ 

Snapchat เชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อน Digital Engagement และในฐานะผู้ใช้ “คุณไม่ได้สร้างคอนเทนต์มาเพื่อให้คนบริโภค แต่คุณสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ผู้คนเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์” 

IMVU
ที่มา: IMVU

นอกจากนี้ IMVU แพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์คในรูปแบบ 3D ที่ให้เราเข้าไปในโลกเสมือน ได้กล่าวว่า “ตอนนี้แพลตฟอร์มของเรามีครีเอเตอร์มากกว่า 200,000 คน และในหลายปีที่ผ่านมาเรามีไอเทมในแค็ตตาล็อกมากถึง 50 ล้านชิ้น ซึ่งเกือบทั้งหมดถูกสร้างสรรค์ด้วยผู้ใช้งานหรือ User นั่นเอง” และ Daren Tsui, CEO แห่ง Together Labs ผู้สร้าง IMVU ได้เสริมอีกว่า “เราสร้างเพียงแค่ 0.001% นอกเหนือจากนั้นเป็นครีเอเตอร์ที่รังสรรค์ขึ้นมา”

IMVU ได้กำหนดให้ความคิดสร้างสรรค์หรือ Creativity เป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะอันใหม่ (New Status Symbol) สำหรับยุคดิจิทัลอิทธิพลและรายได้อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่แสดงฐานะอีกต่อไป เมื่อเหล่าผู้ใช้สามารถเข้ามาบนแพลตฟอร์มและสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด 

Tsui บอกว่า “การสร้างเม็ดเงินหรือรายได้ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาอีกต่อไป แต่กลับกันการเป็นที่ยอมรับจากสิ่งที่ตัวเองสร้างสรรค์ต่างหากที่สำคัญกว่า”

โลกออนไลน์กำลังพัฒนาไปข้างหน้าพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไกล ทำให้มนุษย์ทลายขีดจำกัดเดิมๆ ที่มีบนโลกจริงออกไปด้วยโลกเสมือนจริงที่จะทำให้ทุกคนสามารถแสดงความเป็นตัวตน ความเป็นเอกลักษณ์ และความคิดสร้างสรรค์ได้เต็มเปี่ยม

2. Branded Virtual Worlds – เมื่อโฆษณาและการตลาดอาจจะต้องแอบแฝงอยู่ในเกม

Nikeland
Nikeland บนเกม Roblox
ที่มา: Sneaker Freaker

ในตลาดโฆษณาบนเกมมีแนวโน้มจะเติบโตไปถึง 3.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในระหว่างปี 2021-2025 โดยรายงานจาก Technavio ได้กล่าวไว้ว่าเหล่าแบรนด์ต่างๆ จะมุ่งเป้าไปที่โลกของเกมด้วยการสร้าง Branded Virtual Worlds หรือโลกเสมือนของแบรนด์

Roblox เกมที่มีผู้เล่น 46 ล้านคน/วัน ก็ได้มีการร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะ Ralph Lauren ที่สร้างพื้นที่อันหนาวเย็นเต็มไปด้วยหิมะที่เรียกว่า The Winter Escape บน Roblox ทำให้ผู้เล่นสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ไม่ว่าจะไอซ์สเก็ต ย่างมาร์ชเมลโล ช็อปสินค้าของ Ralph Lauren

Nike เองก็ไม่รอช้าเปิดตัว Nikeland บน Roblox ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถแต่งตัวด้วยของ Nike และมีมินิเกมต่างๆ ให้เล่นมากมาย นอกจากนี้ยังมี Vans World บน Roblox ที่มีพื้นที่ให้เล่นสเก็ตบอร์ด สามารถออกแบบรองเท้า Vans และสเก็ตบอร์ดได้ด้วย

มากไปกว่านั้น Hyundai เองก็เผย Hyundai Mobility Adventure บน Roblox โดยมีพื้นที่รวมกัน 5 ที่ โดยผู้เล่นสามารถแข่งขับรถและทำได้รับรู้เรื่องแบรนด์ Hyundai มากขึ้น

Joytopia
Joytopia ของ BMW
ที่มา: BMW

ซึ่งนอกเหนือจากแบรนด์ที่กล่าวมา แบรนด์อื่นๆ ก็มีการสร้างโลกเสมือนบนแพลตฟอร์มของตัวเองเช่นกันโดยไม่ต้องพึ่งพา Roblox อย่าง BMW ก็มี Joytopia ที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ IAA Mobility 2021 ซึ่งมีการแสดงแบบ Exclusive ของ Coldplay ภายใน Joytopia อีกด้วย

“การเติบโตของเกมมีบางสิ่งที่พิเศษในฐานะแพลตฟอร์มการตลาด” Grant Paterson, Head of Gaming and eSport แห่ง Wunderman Thompson กล่าว 

สำหรับคนรุ่นใหม่ เกมกลายเป็นช่องทางโฆษณาที่มาแทนที่ทีวีหรือป้ายต่างๆ ซึ่ง Keith Stuart, Game Editor แห่ง Guardian ได้กล่าวว่า “สำหรับเด็กรุ่นใหม่ การทำการตลาดแบบเดิมๆ ไม่ได้ผลอีกต่อไป” และเสริมว่า “เกมคือสถานที่ที่พวกเขาจะเข้าไปอยู่”

เรียกได้ว่าการทำการตลาดสำหรับแบรนด์ไม่ได้แค่ต้องทำช่องทางแค่ Offline และ Online เท่านั้นแต่ยังรวมไปถึง Virtual Worlds หรือโลกเสมือนอีกด้วย

3. Dreamvertising – เมื่อความฝันอาจกลายเป็นพื้นที่โฆษณาได้

เรียกได้ว่าน่าทึ่งและน่ากลัวไม่น้อยเมื่อ ‘ความฝัน’ ของเราอาจกลายเป็นพื้นที่โฆษณาของเหล่านักการตลาด หรือจะบอกว่าโดนยิง Ads ใส่แม้ตอนนอนหลับก็ตาม

การฟูมฟักความฝัน (Dream Incubation หรือ Targeted Dream Incubation) เป็นหนึ่งในวิทยาศาสตร์แขนงใหม่ที่นักการตลาดและนักโฆษณากำลังไขว่คว้าหาประโยชน์จากมัน โดยจากผลสำรวจพบว่า 77% ของนักการตลาดในสหรัฐฯ มีแผนที่จะใช้เทคโนโลยีความฝัน (Dreamtech) เพื่อการโฆษณาในอีก 3 ปีข้างหน้า

Coors
ที่มา: Coors

ซึ่งแน่นอนเราก็มีเคสตัวอย่างจากแบรนด์เบียร์ในอเมริกาที่ชื่อว่า Coors ที่ได้ทำแคมเปญโฆษณาที่รับอาสาสมัครเข้ามาทดสอบและศึกษาเรื่อง Dream Incubation ด้วยการให้ดูวิดีโอจาก Coors ที่มีองค์ประกอบต่างๆ ก่อนนอน ซึ่งจากในวิดีโอแคมเปญของ Coors ทำให้เราได้เห็นว่าอาสาสมัครได้เห็นองค์ประกอบของวิดีโอที่ดูก่อนนอนในฝัน

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วดูเหมือนจะเป็นโอกาสอันดีงามของเหล่านักการตลาดและนักโฆษณาไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวเมื่อนักการตลาดสามารถล้วงลึกเข้ามายังในความฝันได้ราวกับกำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวที่เราไม่สามารถควบคุมได้

Retail & Commerce – ร้านค้ามุ่งสู่ดิจิทัล และ เทรนด์ Metaverse มากขึ้น

1. Direct-to-avatar – จาก B2B สู่ D2C และไปยัง D2A โมเดลธุรกิจใหม่ที่ห้ามพลาด

หลากหลายแบรนด์พากันมุ่งสู่โมเดลธุรกิจ Direct-to-avatar (D2A) มากขึ้นเนื่องจาก Metaverse มาแรงจนใครๆ ก็ต่างพากันเข้าไปอยู่บนโลกเสมือนมากขึ้นและสิ่งสำคัญที่สื่อความเป็นตัวตนและเป็นตัวแทนของผู้คนก็คือ Avatar ซึ่งการที่จะทำให้มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นได้ก็คือการแต่งตัวนั่นเอง หรืออาจจะพูดได้ว่าการแต่งตัวบนโลกเสมือนกำลังมีความสำคัญเทียบเท่ากับการแต่งตัวบนโลกจริง

RTFKT
ที่มา: RTFKT

จะเห็นได้จาก Nike ได้เข้าซื้อ RTFKT สตูดิโอ NFT ที่สร้างของสะสมดิจิทัลไปจนถึง Virtual Sneakers เรียกได้ว่าแบรนด์ใหญ่ๆ ไม่รอช้าแทบจะจับทุกอย่างที่เป็น Metaverse และสิ่งที่เป็นดิจิทัลหรือของเสมือนจริงต่างๆ อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมี Balenciaga ที่สร้างคอลเล็คชั่นใหม่ในเกม Fortnite หรือจะ Ralph Lauren ที่ปล่อยสินค้าดิจิทัลมากว่า 50 ชิ้น ซึ่งสามารถซื้อได้บนแอปฯ Zepeto อย่าง Gucci ก็ร่วมมือกับ The North Face ปล่อยไอเทมเสื้อผ้าสำหรับ Avatar ในเกม Pokémon Go

Fabricant บริษัทจำหน่ายเสื้อผ้าดิจิทัลก็ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Adidas, Puma และ Tommy Hilfiger ซึ่งขอบอกเลยว่าอย่าง Fabricant เองก็ต้องการโชว์ให้โลกเห็นว่าเสื้อผ้าไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ Physical แต่สามารถเป็นมากกว่านั้นบนโลกดิจิทัล

โดย Kerry Murphy ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง Fabricant ได้กล่าวว่า “ผู้คนจะกำลังมองเห็นคุณค่าของสินค้าดิจิทัล และพวกเขาจะมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของดิจิทัล หรือมีเสื้อผ้าแบบดิจิทัลมากมายมหาศาล มากกว่าการมีเสื้อผ้าบนโลกจริงๆ เสียอีก”

2. Virtual Flagships – จากหน้าร้านหลักบนโลกจริง สู่หน้าร้านบนโลกเสมือน

จากผลสำรวจของ Wunderman Thompson พบว่า 81% ของผู้บริโภคทั่วโลกเห็นด้วยว่าการที่แบรนด์มีพื้นที่ดิจิทัลสำคัญเทียบเท่ากับหน้าร้านบนโลกจริง 

ที่มา: Cryptopolitan

Samsung เองก็เปิดร้านบนโลกเสมือนหรือ Virtual Flagship บน Decentraland แพลตฟอร์มบนโลกเสมือนที่ให้คุณได้โลดแล่นอย่างเป็นอิสระและสามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลได้

และแบรนด์อื่นก็ตามมาติดๆ ไม่ว่าจะ Fendi, Lancôme, L'Oréal และ Nars ล้วนแล้วแต่มี Virtual Flagship เป็นของตัวเองทั้งนั้น เพื่อสร้างประสบการณ์บนโลกเสมือนให้แก่ลูกค้าที่เข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ใกล้ชิดมากขึ้นบนโลกดิจิทัล

จากการคาดการณ์ของ eMarketer ได้บอกไว้ว่าตลาด eCommerce ทั่วโลกจะเติบโตจาก 4.89 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021 เป็น 5.42 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022 ซึ่งแน่นอนว่าเทรนด์การสร้าง Virtual Flagship กำลังเป็นเทรนด์หน้าร้านแบบใหม่ที่จะกระตุ้นให้ลูกค้าและแบรนด์ได้ยกระดับประสบการณ์บนโลกดิจิทัล

3. Digital Twins – เมื่อหน้าร้านและโรงงานถูกจำลองบนโลกเสมือน

Digital Twin คือ การจำลองสิ่งของทางกายภาพให้มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล แต่มากกว่าการจำลอง ยังมีเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อข้อมูลสถานะกับสิ่งของทางกายภาพแบบ Real-time ซึ่งการจำลองในโลกดิจิทัลทำให้สามารถจำลองสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นได้และทำให้รู้ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง ทำให้การทำ Digital Twin มีประโยชน์มหาศาลในการจำลองและคาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้

ที่มา: BMW

Nvidia และ BMW ได้ร่วมมือกันในการทำ Digital Twin สำหรับโรงงานผลิตรถเพื่อสามารถวางแผนและทดลองใช้ Workflow Logistics ใหม่ก่อนที่จะนำไปใช้ปรับเปลี่ยนจริงในทางกายภาพ

ในปัจจุบันเหล่าบริษัทเทคโนโลยีต่างก็ทำให้การสร้าง Digital Twin เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น อย่าง Amazon ได้เปิดตัว AWS IoT TwinMaker บริการที่ช่วยจำลองระบบโลกจริงสำหรับธุรกิจในโลกดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว และ Microsoft Azure Digital Twin ก็สามารถจำลองตึกอาคาร Infrastructure ไปจนถึงเมืองทั้งเมืองได้เลย

Burberry Virtual Store
ที่มา: Luxury Retail

นอกจากนั้นเหล่าร้านค้าก็สร้าง Digital Twin เหมือนกันเพื่อสร้างความคุ้นเคยและทำให้มีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติเพื่อทำเหล่านักช็อปสามารถสอดส่องสินค้าได้สบายๆ 

แบรนด์อย่าง Burberry และ Coach ก็มีการสร้าง Digital Twin ของ Flagship Store ของตัวเองเหมือนกันเพื่อทำให้เหล่าลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์การช็อปที่เหมือนจริงราวกับได้มาที่ Flagship Store บนโลกจริง

เรียกได้ว่าเทรนด์ของ Digital Twin ก็เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ต้องจับตามองของเหล่าแบรนด์ที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเอง เพราะการสร้าง Digital Twin จะเป็นการเปิดประสบการณ์การจำลองให้กับ

4. NFT Marketplaces – เมื่อแบรนด์หาช่องทางรายได้ใหม่จาก NFT

เหล่าบริษัทต่างมีรายได้ที่เติบโตมากขึ้นจากการเข้ามาของยุคใหม่หรือยุคดิจิทัล ยุคที่ผู้บริโภคใฝ่หาการเก็บสะสมและการเทรด เหล่าศิลปินและแบรนด์ต่างเตรียมพร้อมที่จะสร้าง NFTs กันขึ้นมา

ผลงาน NFT จาก Steve Aoki x Gal Yosef – MetaZoo Mothman บน Sotheby’s
ที่มา: Artnet

Sotheby’s บริษัทประมูลผลงานศิลปะที่เก่าแก่ของโลกจากประเทศอังกฤษ ได้เปิดตัวการประมูลงานศิลปะดิจิทัลในรูปแบบ NFTs หรือก็คือ NFT Marketplace และเปิดตัว Metaverse ของตัวเองโดยมีกลุ่มเป้าหมายอย่างเหล่านักสะสมของดิจิทัล เพื่อนำเสนอ NFTs ที่คัดสรรมาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญ

Coinbase แพลตฟอร์มซื้อขาย Cryptocurrency หรือแพลตฟอร์มที่มีไว้เทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ก็ได้เปิดตัว NFT Marketplace ที่ยังอยู่ในช่วง Early Access สำหรับเหล่านักลงทุนที่สนใจ โดย Coinbase จะมี Social Features เพื่อซัพพอร์ตเหล่าครีเอเตอร์อีกด้วย

ทำไมเทรนด์นี้ถึงน่าสนใจ? นั่นก็เพราะว่าทั้งอุตสาหกรรมและแบรนด์ใหญ่ๆ ล้วนแล้วแต่ลงทุนไปกับ NFTs ซึ่งแน่นอนว่าการเข้ามาของ Metaverse ทำให้สร้างโอกาสและรายได้ใหม่ๆ เข้ามา แบรนด์ต่างๆ ที่อยากคว้าโอกาสนี้ไว้การทำ Marketplace ก็เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ไม่ควรพลาด

สรุป

ต้องบอกเลยว่าในอุตสาหกรรมที่ยกมาทั้งหมด 10 เทรนด์ ใน 3 อุตสาหกรรม ทำให้เรารู้ว่าการเข้าสู่ยุคแห่ง Metaverse ส่งผลกระทบไม่ใช่น้อย ทั้งการแข่งขันที่จะจับ เทรนด์ Metaverse ของแต่ละแบรนด์ การร่วมมือกันสร้าง NFTs ไปจนถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ทำให้โลกจริงและโลกเสมือนเข้าใกล้กันมากขึ้น 

โดยเฉพาะวงการการตลาดที่จะได้คว้าโอกาสใหม่ๆ ในการทำการตลาดมากขึ้น และมีช่องทางใหม่ที่จะทำให้นักการตลาดได้คิดค้นกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อจับใจผู้บริโภคในยุคดิจิทัลแห่งนี้

ตาคุณแล้ว

ถ้าธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณกำลังจดๆ จ้องๆ เทรนด์ Metaverse ห้ามพลาดที่จะติดตามข่าวสารและเทรนด์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เลยนะคะ และถ้าอยากติดตามในอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่าง Travel & Hospitality, Food & Drink, Beauty, Work และ Luxury สามารถเข้าตามไปอ่านจากรายงานของ Wunderman Thompson ได้ หรือถ้าอยากให้เขียนสรุปเพิ่มเติมหรือเขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse ก็คอมเมนต์เข้ามาได้เลยนะคะ