หากปัญหาของคุณคือ ใช้โปรแกรมหา Keyword อย่าง Google Keyword Planner (GKP) แล้วปริมาณการค้นหาคำแสดงค่าแบบคลุมเครือ ไม่ชัดเจน คำถามคือ อยากให้ GKP แสดงข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็ม ต้องทำอย่างไร?

คำตอบทุกคนคงทราบอยู่แล้วคือ ลงโฆษณาแบบเสียเงินกับ Google Adwords อย่างไรก็ตาม หากอยากลงโฆษณาเพื่อหวังใช้ GKP เพียงอย่างเดียว อาจไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะ Adwords นั้น ไม่ใช่มีเงินก็ซื้อโฆษณาได้ ต้องผ่านหลักเกณฑ์จุกจิกหลายอย่าง

เช่น เว็บไซต์ที่จะโฆษณาต้องผ่านการปรับแต่งบ้างแล้ว เว็บใหม่เอี่ยมอาจไม่อนุมัติ คำโฆษณาต้องเขียนตามกฎของ Google เป๊ะๆ เขียนผิดก็ไม่ผ่านอีก และอีกหลายสิ่งซึ่งหากไม่ผ่านเกณฑ์ ก็ลงโฆษณาไม่ได้

บ่อยครั้งผมจึงได้รับคำถามว่า นอกจากเสียเงินให้ Adwords มีวิธิอื่นที่ “ง่ายและสะดวก” กว่านี้ไหม

บทความนี้ผมขอรีวิว “Keysearch” สุดยอด โปรแกรมหา Keyword ซึ่งนอกจากจะใช้แทน GKP ได้อย่างลงตัวแล้ว ยังมีความสามารถอื่นซึ่งช่วยให้คุณทำ SEO สำเร็จง่ายขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าโปรแกรมดังกล่าว จะทำให้คุณค้นหา Keyword ทำเงินได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการทำ SEO อย่างแน่นอนครับ

จุดเด่นของโปรแกรมหา Keyword | Keysearch

โปรแกรม หา keyword
source : ฟอนต์ thaisans-neue

1. มีข้อมูล Keyword ภาษาไทย

Keysearch มีข้อมูล Keyword ภาษาไทย ซึ่งมาจากฐานข้อมูลของ Google โดยผมทดสอบการแสดงผลเทียบระหว่าง GKP กับ Keysearch พบว่า ปริมาณค้นหาแม้ไม่เหมือน 100% แต่ใกล้เคียงมาก แทบไม่ต่างกัน จึงใช้แทน GKP ได้

ผลลัพธ์ โปรแกรม หา keyword2. ใช้งานง่าย

Keysearch ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอื่น ไม่ต้องใช้ร่วมกับบัญชี Google แทบไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลย แค่คลิกเลือกประเทศก็ใช้งานได้แล้ว สะดวกมาก

3. ราคาถูก

ราคาแค่ 14 $ หรือประมาณ 490 บาทต่อเดือน (ลดแล้ว) จ่ายเดือนต่อเดือนได้ ราคานี้ถือว่าต่ำกว่าเครื่องมืออื่น

ความสามารถอื่นของ Keysearch ที่คุณต้องหลงรัก

นอกจากเป็น โปรแกรมหา Keyword แล้ว Keysearch ยังมีเครื่องมือหลายอย่างซึ่งช่วยคุณทำ SEO ให้สำเร็จง่ายขึ้น ด้วยงบประมาณที่ต่ำลง โดยผมขอยกตัวอย่างความสามารถเด่นของ Keysearch ดังนี้

1. วิเคราะห์ความยากง่ายของ Keyword

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการทำ SEO คือ วิเคราะห์ “ความยากง่ายในการทำอันดับของ Keyword” เพราะจะได้ทราบว่า ควรทำอันดับ Keyword ใดก่อนหลัง

เมื่อเริ่มทำ SEO ควรโฟกัสที่ Keyword ซึ่งเกี่ยวข้องและแข่งขันง่ายก่อน แล้วค่อยขยับไปสู้ใน Keyword แข่งขันยากทีหลัง เพราะเมื่อเว็บไซต์คุณติดหน้า 1 ของ Keyword ซึ่งแข่งขันง่ายมากขึ้น ค่าน่าเชื่อถือของเว็บไชต์จะพุ่งสูง ส่งผลให้โอกาสติดหน้า 1 ใน Keyword แข่งขันสูงมีมากตาม

กลับกัน หากคุณเลือก Keyword ที่โหดหินแต่แรก ก็เปรียบเหมือนนักมวยเพิ่งเทิร์นโปร ที่ขึ้นชกชิงเข็มขัดแชมป์ทันที โอกาสสำเร็จย่อมยาก

ซึ่งคุณสามารถรู้อย่างง่ายดายว่า Keyword ไหนแข่งขันง่ายหรือยาก โดยใช้ Keysearch ซึ่งมีวิธีดังนี้

1. ไปที่ Menu : Keyword Research > ใส่ Seed Keyword > กด Search

โปรแกรม หา keyword
source : https://www.keysearch.co

Seed Keyword คืออะไร คลิกอ่านข้อมูลที่ได้บทความ : Keyword คืออะไร และ หา Keyword ของเว็บไซต์อย่างไรให้รายได้ของคุณพุ่ง

2. เลือก Filter > ใส่ Seed Keyword ในช่อง Keyword โดยตัวอักษรต้องมีรูปแบบ (เว้นวรรค ตัวใหญ่เล็ก) ตรงกับผลการค้นหาเป๊ะๆ > กด Filter

โปรแกรม หา keyword
source : https://www.keysearch.co

3. คลิกสี่เหลี่ยมเล็กเพื่อเลือก Keyword ทั้งหมด > กด Bulk Check > กด Score เพื่อเรียงลำดับคำตามความยากง่าย เพียงเท่านี้ก็ทราบแล้วว่า Keyword ใดแข่งขันง่ายสุด

โปรแกรม หา keyword
source : https://www.keysearch.co

Shifu แนะนำ
หนึ่งในข้อมูลที่คุณควรสนใจคือ มี Keyword นั้นปรากฏอยู่ใน Page Title และ Meta Description ของผลการค้นหาหน้า 1 มากแค่ไหน เพราะหากมีเยอะแสดงว่าแข่งขันยาก แต่หากมีน้อยหรือไม่มีเลย นั่นคือโอกาสของคุณ

โดยคุณสามารถดูได้จากช่อง Title และ Desc หากข้อมูลคือ Yes หมายถึงมี ถ้าคือ No หมายถึง ไม่ปรากฏ

2. ตรวจสอบอันดับของคู่แข่งหรือเว็บไซต์ที่สนใจได้

Bran Tracy เขียนในหนังสือ “EAT THAT FROG” ว่า ความรู้ที่เปลี่ยนผมจากเซลแมนธรรมดามาเป็นหนึ่งในนักขายที่ประสบความมากที่สุดในโลกคือหลักการที่ว่า “แค่ค้นให้พบว่าคนสำเร็จทำอย่างไร แล้วลงมือทำตาม ก็จะได้ผลลัพธ์แบบคนสำเร็จนั้น”

การทำ SEO ก็เหมือนกันครับ คือให้ดูว่า เว็บไซต์ซึ่งประสบความสำเร็จในการทำ SEO ทำอย่างไร ก็ทำตามนั้น

คำถามคือ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า เว็บไซต์ซึ่งทำ SEO สำเร็จ ทำอย่างไร ??

คำตอบคือ หาข้อมูลว่า เว็บไซต์ดังกล่าว ขึ้นหน้า 1 ของ Keyword อะไร ด้วยเว็บเพจไหน แล้วนำเว็บเพจเหล่านั้นมาวิเคราะห์ 3 เรื่องสำคัญคือ

  • Keyword : ใส่ Keyword ตรงไหน อย่างไร
  • On – Page : ทำ On – Page Optimization อย่างไร
  • Off – Page : ได้รับ Backlink จากไหน

เมื่อคุณวิเคราะห์เว็บเพจมากขึ้น มากขึ้น คุณจะเริ่มเห็น “รูปแบบ” ของการวาง Keyword , การทำ On – Page และ วิธีทำ Off – Page ที่เว็บไซต์นั้นใช้ นั่นหมายถึง คุณก็รู้แล้วว่า วิธีทำ SEO ให้สำเร็จ ทำอย่างไร

ซึ่ง Keysearch นั้นสามารถบอกได้ว่า เว็บไซต์ที่คุณสนใจนั้น ขึ้นหน้า 1 ของ Keyword อะไรบ้าง โดยมีวิธีดังนี้

1. ไปที่ Keyword research > เลือก Competitors Keyword

2. ใส่ Homepage ของเว็บไซต์ที่คุณสนใจ > กด Search แค่นี้ ข้อมูลก็จะพรั่งพรูออกมา

โปรแกรม หา Keyword
source : https://www.keysearch.co

3. ตรวจสอบ Backlink ได้

หนึ่งในความสามารถที่ดีงามของ Keysearch คือ บอกว่าเว็บไซต์ซึ่งเราสนใจได้รับ Backlink จากไหน

ซึ่งปกติเครื่องมือเช็คข้อมูล Backlink ราคาจะแพงมาก ประมาณ 3 พันบาทต่อเดือน ดังนั้นการที่คุณจ่ายเพียง 490 บาท แล้วรู้ข้อมูลดังกล่าวได้ ถือว่าถูกและคุ้มค่าสุดๆ

โดยผมลองเปรียบเทียบข้อมูล Backlink ของ Keysearch กับ เครื่องมือเช็ค Backlink ยอดนิยมอย่าง Majestic ของเว็บไซต์ขายอุปกรณ์แต่งรถของผมเอง ผลคือ ข้อมูล Backlink ใกล้เคียงกันมาก ส่วนตัวจึงคิดว่าหากต้องการเช็ค Backlink Keysearch คือเครื่องมือที่น่าสนใจ

โปรแกรม หา keyword

นอกจากนั้น ยังสามารถตรวจสอบคุณภาพของ Backlink ด้วยเครื่องมือ “URL Metrics” โดยแค่ใส่ Homepage ของ Backlink ในเครื่องมือดังกล่าว ก็สามารถตรวจสอบได้คร่าวๆ ว่า Backlink นั้นมีคุณภาพหรือไม่

ซึ่งวิธีตรวจสอบ Backlink โดยใช้ Keysearch มีวิธีการตามวีดีโอข้างล่าง

**Update**  ล่าสุด เครื่องมือ URL Metrics ไม่มีข้อมูลจาก Trust Flow และ Citation Flow แล้วนะครับ ไม่ชัดเจนว่าจะหายไปชั่วคราว และ ถาวรเลย

ซึ่งคุณสามารถดูความสามารถอื่นของ Keysearch ได้ตามลิงค์ https://www.keysearch.co/tutorials

New call-to-action 

จุดอ่อนของ Keysearch

1. จากการทดลองใช้ เครื่องมือตรวจสอบอันดับ (Competitors Keyword) จะใช้ได้ดีกับเว็บคอนเทนต์ เช่น contentshifu.com เป็นต้น แต่หากเป็นเว็บขายของ มีแต่หน้าขายสินค้า ไม่มีบทความ จะตรวจสอบอันดับของเว็บนั้นๆ แทบไม่ได้เลย

ซึ่งจุดอ่อนดังกล่าว แม้แต่เครื่องมือตรวจสอบเว็บไชต์ระดับโลกอย่าง semrush และ ahrefs จากที่เคยทดลองใช้ 2 เครื่องมือข้างต้นมา ถ้าเป็นเว็บไซต์ภาษาไทยซึ่งมีคอนเทนต์น้อย ก็ตรวจสอบอันดับไม่ค่อยได้เช่นกัน

2.ระบบ Filter ของเครื่องมือตรวจสอบ Backlink ไม่โดนใจผมเท่าไหร่ เงื่อนไขน้อย แสดงผลอย่างต้องการไม่ค่อยได้ วิธีแก้คือ ให้โหลดข้อมูลมาเป็น Excel แล้วกรองข้อมูลด้วย Excel จะได้ดั่งใจมากกว่า

ทดลองใช้ Keysearch

Disclosure: เนื่องจาก Keysearch มีโปรแกรม Affiliate หลังจากที่ลองใช้แล้วมองว่าโอเค ผมจึงได้แนะนำให้ Content Shifu สมัครเข้าร่วมโครงการแนะนำโปรแกรมด้วย

หากคุณต้องการทดลองใช้ Keysearch และอยากได้ราคาพิเศษ เพียงคุณคลิกตามลิงก์นี้ >> www.contentshifu.com/keysearch แล้วกรอกคูปอง KSDISC จะได้รับส่วนลด 20% จากราคาปกติ

สรุป

Keysearch คือ โปรแกรมหา Keyword ที่ใช้แทน Keyword Planner ได้อย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติ 1. มีข้อมูล Keyword ภาษาไทย 2. ใช้ง่าย 3. ราคาต่ำ

นอกจากนั้น ยังมีเครื่องมือที่ช่วยคุณทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จง่ายขึ้น เช่น ตรวจความยากง่ายของ Keyword ตรวจสอบอันดับของเว็บไซต์ และเช็ค Backlink ได้ ส่วนตัวจึงเห็นว่า Keysearch คือหนึ่งในเครื่องมือทำ SEO ที่น่าสนใจเพราะมีเครื่องมือคุณภาพหลายอย่าง แถมราคาไม่แพงครับ

ตาคุณแล้ว

แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ มีเครื่องมือทำ SEO อื่นๆ ที่คุณภาพโดนใจ ราคาเหมาะสมมาแชร์กันบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีก็อย่าลืมแนะนำกันบ้างนะครับ ขอบคุณครับ