จับเทรนด์การตลาด ปี 2020 จากสถิติ Inbound Marketing Report เล่มแรกของไทย 

แนวทางในการทำการตลาดเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกวัน การติดตามอัปเดตเทรนด์การตลาดอยู่เสมอๆ คือ สิ่งที่นักการตลาด/นักธุรกิจทำเพื่อวางแผนปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง 

และในปีนี้ Content Shifu ก็ได้จัดทำรายงานด้าน Digital Marketing ออกมา คือ Thailand’s Inbound Marketing Report 2019 – 2020 เพื่อเป็นฐานข้อมูลอ้างอิงให้นักการตลาดไทยในการทำความเข้าใจการตลาด ซึ่งน่าจะช่วยให้เห็นภาพรวมและทิศทางการทำการตลาดแนวนี้และการทำการตลาดออนไลน์ได้ชัดเจนมากขึ้น เตรียมตัวได้พร้อม! สำหรับปี 2020 นี้

จากรายงานการตลาดฯ ข้างต้น มีสถิติข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งถือเป็น “Highlight” ที่อยากจะหยิบยกมาแชร์กับทุกคนก่อน …ก่อนที่จะไปเจอเนื้อหาเต็มๆ ข้างในตัวเล่มกัน

:: ถ้าคุณอดใจไม่ไหว สามารถดาวน์โหลด Report เก็บไว้ก่อนได้ ที่นี่

:: หรือหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์ส Inbound Marketing ได้ที่นี่ ?

ภาพรวม  Inbound Marketing ปี 2019 และเทรนด์การตลาดออนไลน์ในปี 2020

นักการตลาด/นักธุรกิจพึงพอใจในประสิทธิภาพของ Inbound Marketing

ในเมืองไทยการตลาดแบบแรงดึงดูด หรือ Inbound Marketing ค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น และหลายๆ ธุรกิจก็นำวิถีการตลาดนี้ไปใช้กันแล้ว ซึ่งจากการทำสำรวจ สรุปได้ว่า 93.7% ของนักการตลาด/นักธุรกิจกว่า 600 คน พึงพอใจในประสิทธิภาพของ Inbound Marketing

และกลุ่มคนที่พึงพอใจส่วนมากมีประสบการณ์ทำ Inbound Marketing มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี ส่วนในกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นผลลัพธ์ของการตลาดรูปแบบนี้ 67% ยังมีประสบการณ์ทำไม่ถึง 1 ปี สอดคล้องกับลักษณะของการตลาดรูปแบบนี้ ที่เน้นการสร้าง “แรงดึงดูด” ผ่านการส่งมอบคุณค่า เช่น บทความ E-book, Checklist, คอร์สเรียน หรือ Resorce อื่นๆ ที่ให้ความรู้หรือทางแก้ไขปัญหา เพื่อฟูมฟัก (Nurture) ผู้คนให้พร้อมเป็นลูกค้า ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือ

งบน้อยหรือมากไม่ใช่ข้อได้เปรียบ 

ข้อด้อยของ Inbound Marketing คือ ต้องอาศัยระยะเวลาในการทำ ซึ่งกว่าจะเห็นผล อาจต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ข้อดี คือ ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน และที่สำคัญคือ จะใช้งบประมาณน้อยหรือมากก็ไม่ใช่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะจากรายงานฯ บริษัทที่ใช้งบประมาณด้านการตลาดมากกว่าหนึ่งล้านบาทต่อเดือนก็ไม่ได้มีสัดส่วนพึงพอใจมากกว่าบริษัทที่ใช้งบน้อย และพวกเขายังเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนพึงพอใจน้อยที่สุดด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่พึงพอใจในประสิทธิภาพการทำการตลาดรูปแบบนี้ ใช้งบประมาณเพียง 30% ของงบการตลาดเท่านั้น และกว่าครึ่งของคนที่ตอบแบบสอบถามก็ใช้งบประมาณลงทุนทำ Inbound ไม่ถึง 30,000 บาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ต่ำมากๆ เมื่อเทียบกับงบโฆษณา

ภาพรวมการทำ Inbound Marketing ในไทยนั้น สรุปได้ว่า ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ใช้งบประมาณในการลงทุนทำไม่สูง แต่ต้องอาศัยระยะเวลาในการทำจึงจะเห็นผล 

เป้าหมายการตลาดออนไลน์ในปี 2020 โฟกัสที่การเพิ่มยอดลูกค้า

ในปี 2019 เป้าหมายการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ของนักการตลาดไทย เทความสำคัญไปที่ “ปากกรวยการตลาด (Top of Funnel)” ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มยอด Traffic, ยอดการเข้าถึงคอนเทนต์, การเพิ่มปฏิสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดีย และผลลัพธ์บนโลกออนไลน์ (Online Conversion) 

แต่สำหรับ ปี 2020 ธุรกิจจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มยอดลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยยอดปฏิสัมพันธ์กับผู้คนบนโลกออนไลน์ และโฟกัสที่การวัดผลและความคุ้มค่า (ROI) ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำการตลาด

ตีความได้ว่า ธุรกิจที่ทำ Inbound Marketing ในไทยยังอยู่ในช่วงตั้งต้น จึงต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักก่อน และเมื่อผู้คนเริ่มคุ้นเคยกับแบรนด์แล้ว จึงวางแผนปรับโฟกัสมาที่การสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ หรือ “ก้นกรวยการตลาด” (Bottom of Funnel)

Digital Advertising ได้รับความนิยมน้อยลง และทิศทางการตลาดมีแนวโน้มใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

ในปี 2020 นักการตลาดจะให้ความสำคัญกับ Digital Advertising ลดลง 17% เช่น Facebook Ads, Google Ads, LINE Ad เป็นต้น และการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียเองก็ถูกให้ความสำคัญลดลงเช่นกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะภาวะคอนเทนต์และโฆษณา “Overload” ทำให้วิธีแบบเดิมๆ ไม่ได้ผลดีเช่นเดิม ส่วนการทำ SEO ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน

เทรนด์การตลาดในการทำ Digital Marketing  ขยับมาให้ความสำคัญกับ Marketing Automation, Video Marketing, CRM (Customer Relationship Management) และ Podcasting สะท้อนแนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีการตลาด (Marketing Technology) ของนักการตลาดไทยมากขึ้น ส่วนวิดีโอและ Podcast คือ รูปแบบคอนเทนต์ที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี ธุรกิจจึงเริ่มเข้ามาจับการตลาดในสนามเหล่านี้

‘เว็บไซต์’ คือช่องทางที่ควรโฟกัสเพิ่มเติมในปี 2020 และ Facebook คือช่องทางที่นักการตลาดคิดว่าได้รับความสำคัญมากเกินจริง

ช่องทางในการทำการตลาดก็มีแนวโน้มเทมาที่ ‘เว็บไซต์’ เป็นหลัก ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายและการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพราะเว็บไซต์เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจสามารถเป็นเจ้าของเองได้จริงๆ ข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ก็สามารถติดตามและนำมาใช้ทำงานร่วมกับ CRM และ Marketing Automation ได้

นอกจากนี้ ช่องทางในการทำการตลาดที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น คือ Podcast สอดคล้องกับกลยุทธ์การตลาด และ LinkedIn ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าจับตามอง คาดว่าธุรกิจไทยจะนิยมใช้โซเชียลมีเดียตัวนี้มากขึ้น แต่จะเป็นในแง่การติดต่อแบบธุรกิจกับธุรกิจ หรือ B2B (Business to Business)

และจากการสำรวจความคิดเห็น นักการตลาด/นักธุรกิจส่วนใหญ่ คิดว่าช่องทาง Facebook, LINE และ Youtube คือ ช่องทางที่ถูกให้ความสำคัญเกินจริง

สรุป

• ภาพรวมการตลาดออนไลน์ในไทย จากการสำรวจธุรกิจที่ทำ Inbound Marketing ในปี 2019 นั้น ส่วนใหญ่คิดว่า Inbound Marketing มีประสิทธิภาพจริง และใช้งบประมาณในการลงทุนทำไม่สูง แต่ต้องอาศัยระยะเวลา
• เป้าหมายการตลาดออนไลน์ไทย ปี 2019 ธุรกิจที่ทำ Inbound Marketing โฟกัสที่การสร้างแบรนด์และยอด Traffic ส่วนปี 2020 ธุรกิจจะมาโฟกัสที่การเพิ่มยอดลูกค้าและผลลัพธ์ทางธุรกิจเป็นหลัก
• เทรนด์การตลาด Digital Marketing เปลี่ยนไป จากปี 2019 มักจะให้ความสำคัญกับการทำ Digital Advertising และการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย แต่ในปี 2020 วิธีการทั้งสองได้รับความนิยมลงมาก และเทคโนโลยีการตลาด Video Marketing และ Podcasting คือ กลยุทธ์จะได้รับความสำคัญมากขึ้น
• “เว็บไซต์” เป็นช่องทางที่ธุรกิจให้ความสำคัญมากเป็นอันดับหนึ่ง สอดคล้องกับการนำเทคโนโลยีการตลาดเข้ามาใช้ ส่วน Facebook และ LINE คือช่องทางที่นักธุรกิจส่วนเห็นว่าถูกให้ความสำคัญเกินจริง

ตาคุณแล้ว

เทรนด์การตลาดในภาพรวมเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เราเองก็ตื่นเต้นกับความเปลี่ยนแปลงนี้เหมือนกัน จึงได้จัดทำ Inbound Marketing Report เล่มนี้ ขึ้นเพื่อให้วงการการตลาดบ้านเรามีฐานข้อมูลอ้างอิงในการวางแผนต่อไป

เราอยากเชิญชวนให้นักการตลาด/นักธุรกิจดาวน์โหลดรายงานฯ ฉบับเต็ม เพื่อศึกษาประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆ เพิ่มเติม ข้างล่างนี้ ?