เมื่อเส้นทางของ Virtual Influencer กำลังกรุยกรายเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนรู้สึกตัวอีกทีเวลาออกไปข้างนอกก็เริ่มเห็นป้ายโฆษณาที่เป็น Virtual Influencer แทนที่ดาราจริงๆ ไปเสียแล้ว
ในตอนแรกบางคนอาจสงสัยว่า Virtual Influencer จะมาแทนคนได้ยังไง? แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายิ่งมีข้อกังขาในตัว Virtual Influencer หรือ AI Influencer มากเท่าไหร่ นับวัน AI ก็จะยิ่งก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่คุณอาจคาดไม่ถึง
บทความนี้เราจะพาคุณไปตะลุยโลกของ Virtual Influencer กัน พร้อมแล้ว ลุยเลย!
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
Virtual Influencer คืออะไร?
ข้อมูลจาก Rockcontent ได้ให้คำจำกัดความของ Virtual Influencer หรือ AI Influencer คือ อินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงที่มีบุคลิกลักษณะราวกับมนุษย์ ซึ่งแต่ละคนก็จะใช้สื่อโซเชียลมีเดียโดยเฉพาะ Instagram ในการสื่อสารกับผู้ติดตาม และแน่นอนว่า AI แต่ละคนจะมีความโดดเด่น น่าจับตามอง เพราะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไปด้วยเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning)
Virtual Influencer สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตามได้ราวกับมนุษย์จริงๆ ซึ่งการปฏิสัมพันธ์จะเป็นไปด้วยระบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์มาเกี่ยวข้อง เพราะมนุษย์จะเข้ามาเกี่ยวข้องแค่การพัฒนาระบบของ AI เท่านั้น
นอกจากนี้ ด้วยการปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในรูปแบบตัวอักษร หรือ Virtual Realities (VR) เหล่า AI จะสามารถเรียนรู้ภาษาและพฤติกรรมของมนุษย์ได้ ทำให้ AI มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนอาจใกล้เคียงกับมนุษย์เลยทีเดียว
แต่ใช่ว่า Virtual Influencer ในตลาดตอนนี้จะพึ่งพาระบบอัตโนมัติทั้งหมด เพราะยังมี Virtual Influencer อีกหลายคนที่ก็ต้องพึ่งพาทีมงานผู้สร้างค่อนข้างสูงอยู่ดี
เข้าใจเรื่อง Virtual Influencer แล้ว แต่อยากรู้จัก Metaverse มากขึ้น เราขอแนะนำบทความสุดย่อยง่าย ใช้เวลาไม่นานในการอ่าน คุณก็เข้าใจได้เลยทันที กับ “Metaverse คืออะไร? ส่งผลอย่างไรกับโลกการตลาด”
Virtual Influencer ในประเทศไทย
แน่นอนว่าประเทศไทยก็มี Virtual Influencer มากมายหลายคนไม่แพ้ต่างประเทศ ใครสงสัยก็พร้อมไปดูกันเลยว่ามีใครกันบ้าง?
1. ไอ ไอรีน (Ai-Ailynn)
โดยประเทศไทยของเราก็มี Virtual Influencer ที่น่าจับตามอง คือ ไอ-ไอรีน (Ai-Ailynn) หญิงสาววัย 21 ปี ผลงานโดยเอเจนซี SIA Bangkok ซึ่งผลงานที่น่าจับตามองคือการที่ไอรีนได้เป็น Brand Ambassador ของ AIS 5G ที่ต้องการยกระดับภาพลักษณ์ในการทำการตลาด นอกจากนี้ OPPO แบรนด์มือถือก็ดึงไอรีนมาถ่ายทอดมือถือรุ่นใหม่อย่าง OPPO Reno6 Z 5G เช่นกัน
2. แบงคอค (Bangkok)
แบงคอค ผู้เป็น Non-binary อายุ 17 ปี มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่การแต่งตัวสุดแฟชั่น มีความยูนีค และเป็นศูนย์รวมคาแรกเตอร์ของวัยรุ่นยุคใหม่ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้แบงคอคยังเป็น Virtual Influencer ครึ่ง CGI และครึ่งมนุษย์ โดยที่ทาง ThaiPBS ได้ไปสัมภาษณ์ทีม bda.world.service ผู้สร้างแบงคอค โดยทางทีมบอกไว้ว่า ในอนาคตอาจพัฒนาให้เป็น CGI 100% โดยที่ไม่ต้องใช้สถานที่จริงหรือสแตนอิน เพราะปกติเวลาจะถ่ายทำต้องไปถ่ายถึงสถานที่จริงและมีสแตนอินเสมอ
3. ดอกบัวไฟ (Firelotus)
ดอกบัวไฟ CGI Influencer ที่เป็น CGI แบบ 100% จากผู้สร้างเดียวกับแบงคอค ซึ่งการที่เป็น CGI แบบ 100% ทำให้ผลักขีดกำจัดบนโลกจริงออกไปโดยที่ไม่ต้องใช้สถานที่จริงหรือสแตนอิน
ซึ่งต้องบอกเลยว่าสาวดอกบัวไฟเป็นสาวเปรี้ยวจี้ด มีสไตล์ โดดเด่น และมีความเป็นตัวตนสูง นอกจากนี้เรายังได้เห็นมุมอาร์ทของเธอในฐานะศิลปินทั้งทางด้านดนตรีและ Visual Art โดยดอกบัวไฟเคยแสดงผลงานดนตรีร่วมกับ ธนัช ธีระดากร ในนิทรรศการ Trauma and Care ที่ BANGKOK CITYCITY GALLERY
4. กะทิ (Katii/ Katie)
ไม่พูดถึงไม่ได้กับ กะทิ สาวน้อยอายุ 22 ปี ผู้เปิดตัวแรงด้วยการปรากฏบนหน้าปกนิตยสารชื่อดังมากมายไม่ว่าจะ Haper’s BAZAAR, L’Officiel Thailand, VOGUE และอื่นๆ อีกมากมาย แถมเธอยังได้ร่วมถ่ายรูปหรือถ่ายแบบกับดาราดังมากมายในไทยไม่ว่าจะ ปันปัน สุทัตตา, หลิน มชณต, คารีสา สปริงเก็ตต์ และคนอื่นๆ นับไม่ถ้วน
กะทิเกิดจากความร่วมมือกันจากหลากหลายบริษัท คือ Plan B Media, Lemonz Bangkok และ AWW Inc. บริษัทผู้เชี่ยวชาญการสร้าง Virtual Human อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ที่เคยสร้าง Imma และ Ayayi
ด้วยการจับมือกันของบริษัทชั้นนำทำให้กะทิมาแรงในโลกแฟชั่นเลยทีเดียว เพราะเธอได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ดังมากมายไม่ว่าจะ Bottega Veneta, Fendi, Dolce&Gabbana, Jimmy Choo, Christian Louboutin, Breitling และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ
ขอบอกเลยว่าในวงการแฟชั่นกะทิเป็นที่จับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะในฐานะของ Influencer เธอได้ร่วมงานกับนิตยสารและแบรนด์ชั้นนำมากมาย ใครสายแฟชั่นต้องลองไปติดตามสาวกะทิใน IG แล้วล่ะ!
5. วันนี้ (Wunni)
บริษัทอสังหาฯ อย่าง Ananda Development ไม่น้อยหน้าลุยสร้าง วันนี้ สาววัย 22 ปี ที่เป็นตัวแทน Gen C (Connected) สุดน่ารักที่มีการปล่อยซิงเกิลเพลงชื่อ “ล่องหน” ซึ่งเพลงน่ารักสดใสสมกับคาแรคเตอร์ของวันนี้เลยทีเดียว
น้องวันนี้ได้โปรโมตแบรนด์หรือโครงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Virtual Brand Ambassador ของทิพยประกันภัย, และคอนโดแบรนด์ต่างๆ ภายใต้ Ananda อย่าง Ashton และ Ideo หรือ โครงการบ้าน Uni Town
วงการอสังหาฯ ก็ถือว่าร้อนแรงตามเทรนด์ไม่แพ้วงการแฟชั่นเลย ใครสนใจความน่ารักของวันนี้ห้ามพลาดไปติดตามกันได้เลยค่ะ!
6. พระมหาเอไอ (AImonkthailand)
สายแฟชั่น สายอสังหาฯ ถือว่าเบสิค เมื่อต้องมาเจอกับ พระมหาเอไอ ที่จะพาทุกคนเข้าสู่ทางธรรมแบบยุคใหม่ ลืมไปได้เลยกับการฟังบทสวดแล้วหลับ เพราะเรามีพระเป็น AI ที่มาพูดคำสอนในรูปแบบที่ล้ำยุคปนความขำขันที่ทำให้ผู้ชมต้องมียิ้มและหลุดหัวเราะกันบ้าง
โดยบทสัมภาษณ์จาก Thai PBS ได้บอกไว้ว่า พระมหาเอไอ มีอายุ 30 ปี เป็น Virtual หรือ AI Monk ที่จะมาเผยแพร่พระธรรมด้วยภาษาที่เข้าถึงง่าย อารมณ์ดี ทันเหตุการณ์ เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่
ถึงแม้จะเปิดตัวมาสักพักแต่ในช่วงปัจจุบันพระมหาเอไอก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม แต่ถ้าใครสนใจอยากฟังธรรมสั้นๆ ลองเข้าไปฟังได้ที่ Facebook หรือ Instagram ของพระมหาเอไอได้เลยค่ะ
7. อิงมา
“อิงมา” Virtual Human ที่เกิดจากความร่วมมือของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และทาเคดา ประเทศไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องโรคไข้เลือดออก และรังสรรค์มาจากข้อมูลคนที่ตกเป็นเหยื่อของไข้เลือดออกจำนวน 1,237,467 คน หลายวัย หลายเพศ หลายอาชีพ เพื่อสื่อสารเรื่องราวของโรคไข้เลือดออกว่าเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวและน่ากลัวกว่าที่คิด
โดยส่วนตัวประทับใจกับการทำแคมเปญสร้างความตระหนักรู้แบบนี้มากๆ เลยค่ะ เพราะเมื่อเห็นผ่านหน้าไทม์ไลน์แวบหนึ่งก็ต้องกดคลิกเข้าไปดูว่าคืออะไร เมื่อได้รู้ว่าเป็น Virtual Human แล้วก็ยังทำให้เราสนใจในโรคไข้เลือดออกได้จริงๆ อีกด้วย บอกคำเดียวว่าว้าวมาก ไม่คิดว่าจะได้เห็นการนำ Virtual Human มาสื่อสารในเรื่องนี้
ซึ่งการเลือกใช้ Virtual Human เพื่อสื่อสารเรื่องราวเหล่านี้ทำให้เรารู้สึกว่านี่ก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ดีไม่น้อยที่เหล่าธุรกิจและแบรนด์สามารถนำไปใช้กันได้เหมือนกันค่ะ
Virtual Influencer ในต่างประเทศ
หลังจากดูในประเทศไทยไปแล้วก็ห้ามพลาดกับของต่างประเทศที่มีเคสประสบความสำเร็จมากมายที่น่าติดตาม เราไปดูพร้อมกันเลยค่ะ!
1. Lil Miquela
สาว Virtual Influencer สัญชาติบราซิล-อเมริกัน จากแคลิฟอร์เนีย อายุ 19 ปี ที่มีผู้ติดตามบน IG มากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งถือว่า Miquela เป็นผู้บุกเบิกในฐานะ Virtual Influencer เพราะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 จากทีมผู้สร้างชื่อว่า Brud
โดย Miquela มีตัวตนและ Story น่าดึงดูด จากสถานการณ์ที่เธอมีเรื่องดราม่ากับสาวผมบลอนด์สุดแซ่บที่เป็น Virtual Influencer นามว่า Bermuda จนทำให้ผู้ติดตามถึงกับอยากรู้เรื่องว่าสาวๆ เหล่านี้ทะเลาะอะไรกัน เรียกได้ว่ามีการสร้างเนื้อเรื่องให้น่าติดตามมีความเป็นมนุษย์ มากกว่าการเป็น Influencer ที่เอาแต่โปรโมตแบรนด์หรือโชว์ไลฟ์สไตล์อันน่าสนใจ
ซึ่งสาว Miquela เป็นตัวอย่าง Virtual Influencer ที่ประสบความสำเร็จได้ดีไม่ว่าจะผลงานเพลง หรือการได้ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมายไม่ว่าจะ Chanel, Prada, Samsung และอื่นๆ มากมาย โดยในปี 2019 เธอได้ทำเงินในฐานะนางแบบ และ Influencer ไปมากถึง 11.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. Shudu
Shudu สาว Supermodel ที่ฟาดแบรนด์ดังโดยเฉพาะจิลเวอรี่อย่าง Chopard และ Bvlgari ซึ่งเห็นจากภาพแล้วต้องบอกเลยว่าสวยเกินจะต้าน!
นอกจากนี้จากภาพต่างๆ ของ Shudu ทำให้ชาวเน็ตสงสัยว่านี่คนจริงๆ หรือ CGI มาแล้ว เพราะด้วยความเนียนแทบดูไม่ออกจนหลายๆ คนออกมาถกเถียงกันพอสมควร แต่สุดท้ายทุกคนก็ได้รู้ว่าเธอเป็น Virtual Model หรือ Digital Supermodel
Shudu เคยร่วมงานกับ Rozy สาว Virtual Influencer จากเกาหลีใต้อีกด้วยด้วยการถ่ายแบบบนนิตยสาร Vogue Korea ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ก็ทำให้เรารู้สึกว่าแม้จะอยู่คนละประเทศ แต่การมาร่วมมือกันถือเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากๆ แถมทำให้เห็นถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ต่างกับมนุษย์นั่นเอง
3. Imma
สาวชาวญี่ปุ่นสุดน่ารักที่มาด้วยทรงผมบ๊อบสีชมพูสุดสดใส และแน่นอนว่าสาว Imma ก็ได้กวาดแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มามากมายไม่ต่างจากคนอื่นๆ ไม่ว่าจะ Alexander McQueen, Dior, Porsche Japan และอื่นๆ
สาวญี่ปุ่นคนนี้ยังมีน้องชายที่เป็นนายแบบนามว่า Zinn ซึ่งเป็นหนุ่มหล่ออย่างกับไอดอลเกาหลีก็ไม่ปาน นอกจากนี้ Zinn ยังมีแฟนสาวที่เป็น Virtual Influencer เหมือนกันคือ Ria สาวสวยที่เห็นแล้วจะต้องกดติดตามทันทีเพราะหน้าสวยเป๊ะจริงๆ
แน่นอนว่าพออินฟลูเสมือนจริงเหล่านี้มีความสัมพันธ์ทั้งเป็นครอบครัวและคนรัก จึงส่งผลให้เรารู้สึกราวกับว่าพวกเขามีชีวิตมีตัวตนและมีเรื่องราวให้น่าติดตาม ใครสนใจสามารถไปติดตามทั้งสามได้เลยที่ IG นะคะ
4. Rozy
Rozy เป็น Virtual Influencer วัย 22 ปี คนแรกของเกาหลี ซึ่งตอนนี้เธอมีผู้ติดตามบน IG มากกว่า 1.25 แสนคน ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวไปก็มีโฆษณาวิ่งเข้าหาสาว Rozy เต็มไปหมด ทำให้เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่าทำให้หลากหลายอุตสาหกรรมคึกคักไปเลยไม่ว่าจะวงการแฟชั่น เพลง อาหาร กีฬา และภาพยนตร์ เรียกว่าเหมาได้ก็เหมาหมด!
และเป็นที่แน่นอนว่า ด้วยการที่สาว Rozy คว้าแบรนด์มาได้มากกว่า 100 แบรนด์ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในปีที่ผ่านมาเธอรายได้พุ่งสูงไปจบที่มากกว่า 1000 ล้านวอน เลยทีเดียว
มากไปกว่านั้น Rozy ได้เดบิวท์พร้อมกับเพลงสุดเพราะ WHO AM I ที่ฟังแล้วถึงกับทึ่งไม่รู้จะอวยยังไงได้หมดเพราะผู้เขียนชอบเพลงนี้มากๆ โดยเพลงนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากในหมู่คนเกาหลีโดยเฉพาะบน TikTok ที่มียอดผู้ชมไปมากกว่า 10 ล้านวิว
อนาคตของ Virtual Influencer ที่ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญ
มากกว่าการเป็น Influencer ก็ยังมีหลากหลายอาชีพที่เหล่ามนุษย์เสมือนจริงสามารถทำได้ อย่าง ‘ไอดอล’ แน่นอนว่าพอพูดถึงไอดอล เราก็ต้องนึกถึงประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น และจีน ที่มาแรงกันต่อเนื่องและแทบจะครองวงการนี้ไปแล้ว
ทางเกาหลีใต้ก็เร่งรุดหน้าไปมากมายอย่างค่าย SM Entertainment ที่มุ่งหน้า Metaverse ด้วยการเปิดตัว SMCU จับมือกับ Binance หรือการที่มีวงเกิร์ลกรุ๊ปอย่าง aespa ที่มาด้วยคอนเซปต์สุดล้ำพร้อม æ อวาตาร์ของสาวๆ ที่มีตัวตนบนโลกเสมือน
เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2564 ทาง Netmarble และ Kakao Entertainment บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลี ประกาศจับมือร่วมกันพร้อมเดบิวท์เกิร์ลกรุ๊ปใหม่ที่เป็น AI ภายใต้บริษัทย่อยของ Netmarble อย่าง Metaverse Entertainment ที่จะมุ่งเน้นไปที่โลกเสมือนจริงหรือ Metaverse นั่นเอง
โดย Metaverse Entertainment จะเปิดตัว Meta Idol ที่เป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีทั้งหมด 4 เมมเบอร์ ในนามว่า ‘Mave’ ซึ่งเราก็คงต้องตั้งตารอดูว่าโปรเจ็คต์นี้จะออกมาเป็นยังไง และจะสามารถเขย่าวงการได้หรือไม่
จะเห็นได้ว่าในวงการบันเทิงต่างสนุกสนานกับการมาของ Metaverse และ Virtual Influencer กันมาก แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าอินฟลูเสมือนจริงเป็นสิ่งที่น่าลงทุน? ตามไปอ่านหัวข้อถัดไปได้เลยค่ะ!
กระแส Metaverse มาแรงจนตามไม่ทัน ตามไปอ่านบทความ “จับตา 10 เทรนด์ แห่งอนาคตในปี 2022 เมื่อ เทรนด์ Metaverse ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม” ได้เลยก่อนที่จะพลาด!
Virtual Influencer Marketing การตลาดที่น่าลงทุน กับทางเลือกใหม่ของแบรนด์
เราจะเห็นได้จากการที่แบรนด์ต่างๆ ก็ใช้ Virtual Influencer ในการทำการตลาดกันอย่างมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมา ด้วยข้อจำกัดของมนุษย์ที่ทำให้ไม่สามารถถ่ายทำอย่างหลากหลายเนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้แบรนด์ต่างๆ ก็มองไปหาทางเลือกใหม่อย่างอินฟลูเสมือนจริง
Influencer Matchmaker ได้บอกไว้ว่า ผู้บริโภคใน UK มากถึง 54% พบว่าสิ่งที่เป็น Virtual สามารถดึงดูดความสนใจได้ดีในระดับหนึ่ง
Kolsquare ก็ได้กล่าวถึงว่า ณ ปัจจุบัน ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและสินค้า Luxury ยิ่งมีการใช้ Virtual Influencer มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน โดยตอนนี้มี Virtual Influencer หรือ Virtual KOLs 130 คนทั่วโลก และเป็นที่นิยมมากในประเทศอเมริกา บราซิล และเอเชีย
มากไปกว่านั้นการเติบโตในตลาดเอเชียก็ถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อ ปี 2018 ตลาด Virtual Influencer ในจีนเติบโตมากถึง 15.5 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตไปถึง 200 ล้านยูโร ในปี 2023 เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับเหล่าอินฟลูเสมือนจริงที่ไร้ขีดจำกัดไม่เหมือนกับมนุษย์
ถ้าแบรนด์หรือธุรกิจของคุณกำลังสนใจ Virtual Influencer มาลองดู 3 วิธี จาก Virtual Human ที่แบรนด์จะสามารถทำงานด้วยร่วมกับเหล่าอินเสมือนจริงเหล่านี้
3 วิธี ที่แบรนด์สามารถร่วมงานกับ Virtual Influencer ได้
รวบรวมวิธีการทั้งง่ายและแอดวานซ์สำหรับแบรนด์ไปอ่านกันได้เลยค่ะ ????
1. สปอนเซอร์ Virtual Influencer
อย่างที่เราเห็นกันวิธีการที่ง่ายที่สุดคงไม่พ้นการเป็นสปอนเซอร์ให้กับเหล่า Virtual Influencer เพื่อโปรโมตหรือนำเสนอคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์เป็นแคมเปญในช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยวิธีการนี้จะทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดูล้ำยุคตามทันเทรนด์ได้ด้วยการนำเสนอผ่านอินฟลูเสมือน
2. เซ็นสัญญายาวๆ ไม่ใช่แค่ทำแคมเปญระยะสั้น
การสปอนเซอร์อาจจะได้มาแค่คอนเทนต์ระยะสั้น แต่ถ้าเซ็นสัญญากับ Virtual Influencer ในระยะยาวด้วยการร่วมมือเป็น Partnerships หรือให้เป็น Virtual Brand Ambassador ก็ยังได้ หรือจะทำแคมเปญในลักษณะ Long-term ที่ทำให้ Virtual Influencer สามารถช่วยให้แบรนด์ของคุณแข็งแกร่งในระยะยาว ไม่ใช่แค่จับทำสปอนเซอร์ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ซึ่งไม่ว่าแบรนด์จะทำแคมเปญแบบไหนสไตล์ไหน Virtual Influencer สามารถตอบโจทย์รูปแบบที่หลากหลายในแต่ละแคมเปญได้เพราะอินฟลูเสมือนนั้นไร้ขีดจำกัดไม่เหมือนกับมนุษย์ เพราะฉะนั้นทางเลือกนี้ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่อยากทำแคมเปญระยะยาว
3. สร้าง Virtual Influencer ของตัวเอง
ไหนๆ ก็มองไปมองมาก็รู้สึก Virtual Influencer หลายคนยังไม่ตอบโจทย์ ก็สร้างอินฟลูเสมือนเป็นของตัวเองแล้วทำงาน PR ให้กับแบรนด์ไปเลย! เท่านี้แบรนด์ก็สามารถควบคุมได้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็น Story ของ Virtual Influencer หรือลักษณะนิสัย ไปจนถึงรูปแบบของแคมเปญทางการตลาดที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อยกระดับการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคขึ้นไปอีกระดับ อย่างกรณี ‘วันนี้’ ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่อนันดาฯ สร้างขึ้นมาเพื่อนำเสนอและเป็นตัวแทนให้กับอนันดาฯ
ตาคุณแล้ว
ถ้าธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณกำลังหาวิธีการทำ PR หรือแคมเปญการตลาดที่จะช่วยให้แบรนด์ดูก้าวหน้าตามทันโลกก็คิดว่าการใช้ Virtual Influencer ก็ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ และน่าสนใจไม่น้อย หรือถ้าคุณเป็นผู้บริโภคธรรมดาก็ไปลองกดติดตามเหล่าอินฟลูเสมือนกันได้นะคะ เพราะสาวๆ หนุ่มๆ แต่ละคนก็น่าติดตามไม่น้อยเลย ????