LINE Ads Platform (LAP) คืออะไร? ใช้งานยังไง? ราคาเท่าไหร่ เข้าใจครบ จบในบทความเดียว!

นอกเหนือจาก Facebook, Google หรือ Tiktok Ads แล้วนั้น คุณรู้ไหมว่ายังมีช่องทางออนไลน์อีกทางที่คุณสามารถลงโฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้าและบริการของธุรกิจตัวเองได้ด้วยเช่นกัน และช่องทางนี้ไม่ใช่ช่องทางไกลตัวเลย ซึ่งก็คือ LINE Ads Platform ของ LINE นั่นเอง 

คนไทยกว่า 47 ล้านคนนั้นใช้ LINE เป็นช่องทางการพูดคุยในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น LINE Ads Platform ก็จะเป็นอีกหนึ่ง Platform โฆษณาที่น่าสนใจที่จะช่วยให้คุณสื่อสารไปหาลูกค้าของคุณได้ด้วย

เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกับ LINE Ads Platform กันเลยดีกว่า

LINE Ads Platform คืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร?

LINE Ads Platform หรือชื่อเรียกสั้นๆ ก็คือ LAP เป็นอีกหนึ่ง Product จาก LINE ที่เปิดตัวมาเพื่อช่วยเหลือร้านค้าและธุรกิจให้สามารถเข้าถึงและสื่อสารกับลูกค้าผ่านโฆษณาบนช่องทาง LINE ได้ เหมือนกับการทำ Digital Advertising บนช่องทางออนไลน์อื่นๆ 

ซึ่งข้อดีของการลงโฆษณาบน LAP นั้นสามารถเพิ่มโอกาสในการที่ลูกค้าจะทักมาสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้ากับคุณได้ เนื่องจาก LINE นั้นเป็นแพลตฟอร์มที่หลายๆ คนคุ้นเคยและใช้กันทุกวันอยู่แล้ว รวมไปถึงการแสดงผลของ LAP ที่หลากหลาย ถ้าคุณกำหนดเป้าหมายและสร้างโฆษณาที่ดีออกมา ก็จะทำให้โฆษณาของคุณเป็นที่น่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้ไม่ยาก

รูปแบบการแสดงผลโฆษณาบน LINE Ads Platform ทั้ง 5 แบบ

โฆษณา 5 รูปแบบนี้จะเป็นสิ่งที่คุณต้องเจอและต้องเลือก เวลาซื้อโฆษณาผ่าน LAP ประกอบไปด้วย

1. บริเวณ Chat ของ LINE โดยที่จะเห็นเป็น pop-up ด้านบนห้องแชท 
2. บริเวณ Timeline ของ LINE ที่มักจะขึ้นกำกับว่า Sponsored
3. บริเวณหน้า LINE Today หรือฟีดข่าวของ LINE ที่จะขึ้นกำกับว่า Sponsored
4. ช่องทาง LINE TV ที่มักจะพบเจอตาม Recommended lists
5. บริเวณหน้า Wallet ของ LINE ที่จะขึ้นเป็น pop-up 

ประโยชน์ของ LINE Ads Platform ต่อธุรกิจและร้านค้า

นอกจากประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในการติดต่อและสื่อสารกันระหว่างผู้ใช้งานแล้ว LINE ยังสามารถช่วยเหลือธุรกิจและร้านค้าในฐานะพื้นที่ช่วยกระจายเสียงให้สินค้าและบริการให้กับคนที่ใช้ LINE อยู่ทุกๆ วันรู้จักอีกด้วย ซึ่งนอกจาก LAP สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ๆ ได้แล้ว คุณยังสามารถใช้ LAP ในการสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของคุณในรูปแบบอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ LAP สามารถช่วยคุณได้คือ

LINE Ads Platform ช่วยส่งเสริมให้ลูกค้ารู้จักธุรกิจและร้านค้ามากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ข้อแรกที่ไม่ว่าจะใครก็มักจะนึกถึงและอาจจะเป็นเหตุผลข้อแรกๆ ของการเลือกใช้โฆษณา นั่นก็คือ การให้โฆษณาช่วยส่งสินค้าและบริการบริการของแบรนด์ไปยังที่ที่ลูกค้าจะมองเห็นได้ เกิดความรับรู้ (Awareness) ต่อกลุ่มคนเหล่านี้

โดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังเกิดใหม่และต้องการให้คนหลายคนมารู้จักสินค้าและบริการของตัวเองนั้นสามารถใช้งานประโยชน์นี้ของ LAP ได้ โดยที่ทางแบรนด์สามารถตรวจสอบตัวชี้วัดได้ว่ามีผู้คนเข้าถึง และดูโฆษณาของคุณเยอะไหม รวมไปถึงจำนวนผู้คนที่เข้าชมเว็บไซต์ว่าเพิ่มขึ้นมากหรือน้อยแค่ไหน อีกด้วย 

หรือถ้าเป็นร้านค้าที่หันมาทำธุรกิจบน LINE OA เป็นอีกช่องทางหลัก ก็สามารถใช้งาน LAP ในการช่วยเพิ่มเพื่อนบน LINE OA ได้อีกด้วยเช่นกัน ผู้เข้าชมสามารถกดดูและเพิ่มเพื่อนได้ในไม่กี่ นาที ถือว่าเป็นอีกช่องทางที่ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมายิ่งขึ้น 

LINE Ads Platform ช่วยปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้นพร้อมรักษาลูกค้า

เชื่อเราไหม ว่า LINE Ads Platform สามารถช่วยให้ธุรกิจและร้านค้าสามารถปิดยอดขายหรือกระตุ้น ให้ลูกค้าตัดสินใจทำตามวัตถุประสงค์ของเราได้ โดยสิ่งเหล่านี้เรียกว่า ‘Conversion’ ซึ่งก็คือขั้นตอน การเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้มาเป็นลูกค้าของเรานั่นเอง 

เครื่องมือ LAP นั้นมีวัตถุประสงค์โฆษณาให้ธุรกิจและร้านค้าเลือกใช้งานเพื่อปิดยอดขายคือ ‘สร้าง Conversion บนเว็บไซต์’ ที่แบรนด์สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ลูกค้าทำอะไรบนหน้าเว็บไซต์ เช่น ลงทะเบียนสมาชิก ลงทะเบียนรับ Newsletter หรือสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ อีกอย่างก็คือวัตถุประสงค์ ‘ติดตั้งแอปพลิเคชั่น’ สำหรับแบรนด์ที่มี application เป็นของตัวเองและต้องการเพิ่มจำนวนการติดตั้ง ให้มีคนใช้งานเยอะขึ้น และแบรนด์ที่มี application อยู่แล้วก็สามารถกระตุ้นผู้ใช้งานเดิมให้เข้าไปมี ส่วนร่วมกับตัวแอปพลิเคชั่นมากขึ้น เช่น สร้างบัญชี หรือ สั่งซื้อสินค้าและบริการ เป็นต้น 

นอกจากแบรนด์สามารถปิดยอดจากลูกค้าหน้าใหม่แล้วนั้น ลูกค้าเก่าเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะ LINE นั้นสามารถทำ Remarketing หรือการกระตุ้นลูกค้าที่เคยมีความสัมพันธ์กับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าชม กดสินค้าลงตะกร้า หรือเคยสั่งซื้อสินค้ามาก่อนให้มารับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ และกลับมาเป็นลูกค้าเพื่อปิดการขายอีกรอบนั่นเอง 

และสำหรับร้านค้าหรือธุรกิจที่เลือกใช้งานผ่าน Agency ก็สามารถเลือกรักษาฐานลูกค้าผ่านสิ่งที่เรียกว่า การนำเสนอแบบไดนามิก (Dynamic Product Sales) หรือการแสดงโฆษณาเฉพาะที่ตรงกับความต้องการและความชอบของลูกค้าแต่ละประเภท เพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างยอดขายจากลูกค้าคนเดิมของเรา โดยจะปรากฎเป็นรูปแบบ Carousel 

LINE Ads Platform อิสระในการเลือกซื้อรูปแบบของโฆษณา

LINE Ads Platform นั้นให้อิสระคุณในการเลือกรูปแบบการคำนวณงบประมาณโฆษณาตาม วัตถุประสงค์ของแคมเปญได้เลย ไม่ได้จำกัดแค่ว่าจะคิดแบบ Cost Per Click หรือ Cost Per View เพียงอย่างเดียว 

คุณสามารถเลือกการจ่ายเงินแบบ Cost Per Impression (CPM) สำหรับวัตถุประสงค์โฆษณาที่คุณ ต้องการสร้างความรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ให้ผู้ใช้งานผ่านการมองเห็นโฆษณาบน LAP หรือคุณสามารถเลือกจ่ายแบบ Cost Per Friend ในกรณีที่คุณเลือกเพิ่มจำนวนเพื่อนบน LINE Official Account ผ่านการยิงโฆษณาก็ได้เช่นเดียวกัน 

โดยที่รูปแบบการเลือกจ่ายเงินค่าแคมเปญสามารถแบ่งออกมาได้ 6 รูปแบบตามวัตถุประสงค์คือ

1. Cost Per Impressions (CPM)
2. Cost Per Click (CPC)
3. Cost Per Friend (CPF)
4. Cost Per Video View (CPV)
5. Cost Per Action (CPA)
6. Cost Per Install (CPI)

LINE Ads Platform หยิบยื่นทางเลือกกลุ่มเป้าที่หลากหลาย

LAP เป็นอีกช่องทางที่ยื่นทางเลือกให้แบรนด์สามารถเสิร์ฟโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก (Core Audiences) ที่สามารถระบุได้ผ่านข้อมูล Demograhpic เช่น เพศ อายุ พื้นที่อาศัย ระบบปฏิบัติการ และความสนใจของผู้ใช้งาน ได้อย่างอิสระ 

แต่ถ้าแบรนด์มีข้อมูลของลูกค้าที่ต้องการส่งโฆษณาไปสื่อสารด้วยอยู่แล้วนั้น LINE Ads Platform เองก็มีอีกทางเลือกให้ลองเล่นก็คือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเองได้ (Custom Audience) โดยสามารถกำหนดได้จาก 

1.  กลุ่มเป้าหมายผ่าน Website หรือ App ซึ่งทางแบรนด์สามารถกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามา เยี่ยมชมเว็บไซต์ผ่านการเก็บข้อมูลของ LINE Tag และคนที่เคยเข้าชมแอปผ่าน SDK ได้และยิงโฆษณาไปหาพวกเขาได้ทันที
2. กลุ่มเป้าหมายจากข้อมูล IDFA หรือ AAID ซึ่งแบรนด์ที่มีข้อมูลเหล่านี้ในมือสามารถใช้ฐาน ข้อมูลเหล่านี้มายิงโฆษณาได้
3. กลุ่มเป้าหมายจากเบอร์โทรศัพท์และอีเมล โดยที่แบรนด์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มากำหนด กลุ่มเป้าหมายในการยิงโฆษณาได้เช่นเดียวกัน
4. กลุ่มเป้าหมายจาก LINE Official Account โดยที่แบรนด์สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ เป็นเพื่อนบน LINE หรือเพื่อนที่เขาบล็อคเราก็สามารถกำหนดได้เช่นเดียวกัน
5. กลุ่มเป้าหมายที่ดู Video จาก LAP เองก็สามารถนำมากำหนดเพื่อยิงโฆษณาก็ได้เหมือนกัน
6. กลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike Audience ซึ่งแบรนด์สามารถส่งโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมาย ใหม่ๆ ที่คล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าเดิมผ่านการกำหนดความคล้ายได้ถึง 15% เลยทีเดียว 

นอกจาก Core Audience และ Custom Audience แล้วนั้น ร้านค้าและธุรกิจที่เลือกใช้งาน LINE Ads Platform ยังสามารถแชร์กลุ่มเป้าหมายผ่านแพลตฟอร์มได้ด้วย (Cross Targeting) คือการนำข้อมูลจาก LINE OA และ LINE Point Ads มาช่วยโฆษณาเพื่อให้ส่งโฆษณาไปยัง กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น 

เห็นแบบนี้แล้ว ร้านค้าหรือธุรกิจของคุณอยากลองหันมาเริ่มใช้ LINE Ads Platform กันบ้างหรือยัง? 

หรือถ้าอยากเห็นมากกว่านี้ งั้นมาดูกันว่าการสร้างโฆษณา 1 ชิ้นผ่าน LAP นั่นเขาสร้างกันยังไง มีขั้นตอนอะไรบ้าง สร้างยากหรือง่าย มาดูทีละขั้นตอนกับเราดีกว่า

วิธีใช้ LINE Ads Platform ลงโฆษณาด้วยตัวเอง

วิธีลงโฆษณาในไลน์ จากรูปหลังบ้านจะเห็นได้ชัดว่าโครงสร้างของ LINE Ads Platform นั้นคล้ายกับโครงสร้างของ Facebook Ads เลย เพราะว่าหลังบ้านของ LINE Ad Manager แบ่งโครงสร้างโฆษณาออกเป็น 3 ส่วนก็คือ แคมเปญ กลุ่มโฆษณา และโฆษณา

ววันนี้เราจะพาคุณมาดู วิธีใช้ LINE Ads Platform สร้างโฆษณาเพื่อสื่อสารกับลูกค้าบนแพลตฟอร์ม LAP กัน โดยที่ขั้นตอนที่เราจะพาคุณทำนั่นมีไม่เยอะ เพียงแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้น

• สร้างแคมเปญ
• สร้างกลุ่มโฆษณา
• สร้างโฆษณา 
• วัดผลโฆษณา 

แต่ก่อนจะไปเริ่มขั้นตอนแรก คุณต้องสร้างบัญชีโฆษณากับ LAP ก่อนนะถึงจะสามารถใช้งานได้ 

1. สร้างแคมเปญสำหรับลงโฆษณาบน LINE Ads Platform

ขั้นตอนแรกของการ ลงโฆษณา line ด้วยตัวเอง ก็คือการตั้งแคมเปญใหม่ ซึ่งไม่ว่าคุณต้องการจะสร้างโฆษณาอะไร ก็ตาม คุณต้องสร้าง Campaign เพื่อกำหนดทิศทางโดยรวมของตัวโฆษณาก่อน

จากหน้าแรกของ LINE Ads Platform คุณสามารถเริ่มได้จากกด ‘แคมเปญใหม่’ เพื่อพาคุณมายัง หน้านี้

โดยภายในหน้านี้คุณจะพบกับหัวข้อย่อย 4 หัวข้อก็คือ

1. กำหนดวัตถุประสงค์แคมเปญ แบ่งออกเป็น
   • การเข้าชมเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มจำนวน Traffic ไปยังเว็บไซต์ของคุณ
   • เว็บไซต์คอนเวอร์ชัน ไม่ว่าจะเป็น การกดลงทะเบียน หรือการซื้อสินค้าบนเว็บก็ตาม
   • ติดตั้งแอพ เพื่อช่วยให้มีจำนวนการติดตั้งแอพเพิ่มมากขึ้น
   • มีส่วนร่วมในแอพ กระตุ้นให้ผู้คนเปิดเข้าใช้งานแอพมากขึ้น
   • ดูวิดีโอ เพิ่มจำนวนการเปิดดูวิดีโอของคุณ
   • เพิ่มเพื่อน เพื่อช่วยให้คุณมีจำนวนเพื่อนบน LINE OA มากยิ่งขึ้น
2. ข้อมูลทั่วไป 
   • กำหนดชื่อแคมเปญ 
   • กำหนดสถานะแคมเปญ ว่าพร้อมใช้งานหรือหยุดชั่วคราว
3. กำหนดระยะเวลา 
   • กำหนดระยะเวลาให้แสดงผลต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้
   • กำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดโฆษณา
4. กำหนดงบประมาณ
   • กำหนดงบปประมาณ สามารถเลือกได้ว่าจะเป็น Unlimited หรือจำกัด (เริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป)
   • เพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณ ตัวนี้เป็น Optionใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ถ้าคุณต้องการให้ LAP ช่วยจัดสรรงบประมาณต่อวันให้คุ้มค่าและมีปประสิทธิภาพที่สุดก็เลือก ‘เปิด’ เพื่อใช้งาน Optionตัวนี้ได้ 

หลังจากคุณใส่ข้อมูลครบทุกขั้นตอนในส่วนแคมเปญเรียบร้อยแล้ว กด ‘บันทึกแล้วไปยังกลุ่มโฆษณา’ เพื่อเริ่มสร้างขั้นตอนต่อไปกันเลย 

2. สร้างกลุ่มโฆษณาบน LINE Ads Platform

ขั้นตอนถัดมาคือ การสร้างกลุ่มโฆษณา โดยขั้นตอนนี้จะช่วยกำหนดโฆษณาของคุณให้แคบลงกว่า ระดับแคมเปญ จะเป็นขั้นตอนที่คุณสามารถกำหนดได้ว่าคุณต้องการสื่อสารโฆษณาตัวนี้กับใคร ภายใต้จำนวนเงินเท่าไหร่

สำหรับขั้นตอนการสร้างกลุ่มโฆษณานั้นประกอบไปด้วย 

1. ข้อมูลทั่วไป 
   • ชื่อแคมเปญ
   • ชื่อกลุ่มโฆษณาที่ต้องการตั้ง
   • สถานะของโฆษณา โดยสามารถเลือกได้ว่า พร้อมใช้งาน หรือ หยุดชั่วคราว
2. กำหนดเป้าหมาย 
   • เลือกแบบ Core Audience คือเลือกตาม Demographic เช่น ประเทศ พื้นที่ เพศ อายุ ระบบปฏิบัติการ และความสนใจ เป็นต้น
   • เลือกแบบ Custom Audience คือสามารถเลือกดึงข้อมูลตามนี้มาได้เลย
     • กลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือ App
     • กลุ่มเป้าหมายจาก IDFA หรือ AAID
     • กลุ่มเป้าหมายจากเบอร์โทรและอีเมล
     • กลุ่มเป้าหมายจาก LINE OA 
     • กลุ่มเป้าหมายที่เคยดูวิดีโอบน LINE Ads Platform
     • กลุ่มเปป้าหมายแบบ Lookalike Audience
3. เพิ่มประสิทธิภาพและการเสนอราคา
   • ตั้งค่าราคาเสนอ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งค่าอัตโนมัติหรือตั้งค่าด้วยตนเอง
   • วิธีชำระเงิน สามารถเลือกได้ตามวัตถุประสงค์ไม่ว่าจะเป็น Cost Per Click, COst Per Impression, Cost Per Friend, Cost Per Video View, Cost Per Action, Cost Per Install เป็นต้น
   • ราคาเสนอ หรือราคาที่คุณต้องการเสนอเพื่อแลกกับผลลัพธ์ของโฆษณานั่นเอง โดนเริ่มต้นที่ 1 บาท
4. งบประมาณรายวัน สำหรับให้คุณกำหนดว่าต้องการใช้งบสูงสุดกี่บาทต่อวัน 

เมื่อจัดการกำหนดกลุ่มโฆษณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาสร้างโฆษณาได้เลย

3. ลงโฆษณาใน LINE Ads Platform

ขั้นตอนถัดมาคือ การลงโฆษณาใน LINE นั่นเอง ซึ่งตรงนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการสื่อสารผ่านโฆษณารูปแบบไหน

ในขั้นตอนการสร้าง Ad มีขั้นตอนไม่เยอะมาก ประกอบไปด้วย 

1. ข้อมูลทั่วไป
   • ชื่อแคมเปญที่กำหนดไว้ตอนแรก
   • ชื่อกลุ่มโฆษณาที่กำหนดไว้
   • ขื่อโฆษณา 
   • สถานะของโฆษณา โดยสามารถเลือกได้ว่า พร้อมใช้งาน หยุดชั่วคราว หรือ ร่าง
2. รูปแบบโฆษณา มีให้เลือก 4 ประเภท
   • รูป
   • วิดีโอ
   • ภาพสไลด์ (Slideshow)
   • รูปขนาดเล็ก เหมาะกับแบนเนอร์ Pop-up
3. โฆษณา
   • เลือกรูปหรือมีเดียที่ต้องการใส่ลงโฆษณา
   • ตั้งชื่อ และเขียนคำอธิบาย
   • เลือกปุ่ม Call-To-Action อาทิเช่น เรียนรู้เพิ่มเติม จองเลย ซื้อเลย สมัครใช้งาน ดาวน์โหลด เพิ่มเพื่อน เป็นต้น 
   • เลือก Landing Page ที่ต้องการให้ผู้คนกดไปหา
   • เลือก URL ปลายทาง (Optional)
   • เลือก URL ติดตามอิมเพรชชั่น (Optional)

เพียงเท่านี้โฆษณาของคุณบน LINE Ads Platform ก็พร้อมที่จะออกไปโชว์หน้าตาบนแอพพลิเคชั่น LINE กันแล้ว

4. วัดผลการลงโฆษณาใน LINE Ads Platform

แน่นอนว่าหลังจากลงโฆษณาใน LINE แล้ว ก็ต้องถึงเวลาวิเคราะห์ข้อมูลแล้วว่าโฆษณาที่คุณคาดหวังนั้น มีผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจมากน้อยแค่ไหนผ่านการวัดผลโฆษณา 

การวัดผลโฆษณาของ LINE Ads Platform สามารถวัดค่าได้ 2 แบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความ ต้องการของคุณ นั่นก็คือ

1. วัดผลโฆษณาจากการดูรายงาน 
2. วัดผลโฆษณาจาก LINE Tag 

การวัดผลโฆษณาจากการดูรายงาน 

คุณสามารถตรวจสอบผลการดำเนินงานของโฆษณาที่ลงบน LINE Ads Platform ได้ผ่านรายงาน ที่ทาง LAP จะจัดทำให้ เพียงแค่คุณเข้าไปกดสร้างรายงานก็สามารถรอรับเอกสารในรูปแบบไฟล์ .CSV หรือ Excel ได้เลย 

วิธีการเข้าไปสร้างรายงาน 

1. หน้าแรกของ LINE Ad Manager > เลือกบัญชีโฆษณาที่ต้องการใช้งาน
2. คลิ๊ก ≡ ด้านข้างตัวจัดการโฆษณา > เลือกหัวข้อ ‘รายงานและวัดค่า’ > เลือก ‘รายงานผลการดำเนินงาน’ 

และคุณจะเข้ามาอยู่ในหน้าต่างตามรูปภาพด้านบนเลย และสามารถเลือกได้ว่าคุณอยากดู ผลการดำเนินงานของโฆษณาในช่วงไหน จะดูระดับแคมเปญ ระดับกลุ่มโฆษณาหรือโฆษณา หรืออยากดูตาม Demograhpic เช่น เพศ อายุ พื้นที่ ระบบปฏิบัติการ และความสนใจ เป็นต้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รายงานออกมาวิเคราะห์ทันที

การวัดผลโฆษณาจากการฝัง LINE Tag

สำหรับธุรกิจหรือร้านค้าที่ต้องการวัดผลโฆษณาจำเป็นต้องติดตั้ง LINE Tag หรือฝังโค้ดตัวนี้ไว้ในเพจ ที่ต้องการจะวัดค่า โดยที่ LINE Tag นั่นประกอบไปด้วย 

1. Base Code คือโค้ดที่จะต้องนำไปวางในทุกเพจที่คุณต้องการวัดผลผู้ใช้
2. Conversion Code คือโค้ดที่จะต้องนำไปวางในเพจที่ต้องการวัด Conversion
3. Event Code คือโค้ดที่ให้คุณเลือกผู้ใช้ที่ต้องการวัดผลได้

โดยที่ Conversion Code และ Event Code จะต้องวางร่วมกับ Base Code เสมอ 

วิธีการเข้าไปรับ LINE Tag เพื่อติดตั้งบนหน้าเว็บเพจ 

1. หน้าแรกของ LINE Ad Manager > เลือกบัญชีโฆษณาที่ต้องการใช้งาน 
2. คลิ๊ก ≡ ด้านข้างตัวจัดการโฆษณา > เลือกหัวข้อ ‘ไลบรารีที่ใช้ร่วมกัน’ > เลือก LINE Tag
3. คัดลอกโค้ดไปใช้งานได้ตามความเหมาะสมได้เลย 

โฆษณาผ่าน LINE Ads Platform ราคาเท่าไหร่

การโฆษณาผ่านไลน์นั้น ใช้รูปแบบ “การประมูล” โดยระบบจะเลือกโฆษณาซึ่งเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายและเสนอค่าโฆษณาสูงสุด ไปแสดงบนตำแหน่งโฆษณาที่ดีที่สุดก่อน จากนั้นค่อยเลือกโฆษณาของรายอื่น ไปแสดงในตำแหน่งโฆษณาที่ดีรองลงมา

โดยผู้ซื้อโฆษณา สามารถกำหนดงบประมาณต่อวันและราคาเสนอได้เอง ซึ่งวิธีการเสนอราคาซื้อโฆษณามี 2 แบบ ดังนี้

การตั้งราคาเสนอด้วยตนเอง (Manual Bidding)

Manual Bidding คือการที่ผู้ซื้อโฆษณาสามารถกำหนดราคาซื้อโฆษณาได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ

คำถามคือ จะกำหนดราคาเท่าไหร่ จึงทำให้การลงโฆษณาบรรลุเป้าหมายที่คิดไว้

คำตอบคือ ผู้ซื้อโฆษณามีหลักการกำหนดราคา 2 วิธีดังนี้

1. ตามที่ระบบแนะนำ : เป็นการกำหนดราคาตามที่ line ads platform แนะนำ ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มโอกาสทำให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นโฆษณาของคุณได้
2. ตามข้อมูลเก่า : เป็นการกำหนดราคาตามข้อมูลเก่าที่เคยลงโฆษณากับ line ไว้ วิธีนี้เหมาะกับ agency หรือ ผู้เคยมีประสบการณ์ลงโฆษณามาแล้ว เพราะจะรู้ว่า ด้วยกลุ่มเป้าหมายประมาณนี้ ต้องกำหนดราคาโฆษณาเท่าไหร่

การตั้งราคาเสนอแบบอัตโนมัติ (Automactic Bidding)

เป็นวิธีที่อนุญาตให้ LINE Ads Platform ตั้งราคาซื้อโฆษณาให้โดยอัตโนมัติ โดยผู้ซื้อโฆษณาสามารถกำหนดกรอบราคาหรือเงื่อนไขบางอย่างได้

โดยการตั้งราคาแบบอัตโนมัติ สามารกำหนดได้ 4 รูปแบบดังนี้

1. กำหนดลิมิตราคาเสนอ

ผู้ซื้อโฆษณาจะต้องกำหนด ราคาโฆษณาต่อครั้ง (CPA) สูงสุดที่รับได้ เพื่อเป็นกรอบให้ระบบรู้ว่า ผู้ซื้อพร้อมจะจ่ายค่า CPA สูงสุดกี่บาท

โดยวิธีการทำงานคือ ระบบจะเริ่มประมูลจากราคาต่ำสุด ขยับไปเรื่อยจนถึงราคาสูงสุดที่ตั้งไว้ โดยจะไม่เสนอมากกว่าราคาสูงสุดที่กำหนด

ดังนั้นข้อดีของรูปแบบนี้คือ เป็นรูปแบบที่มีค่า CPA ค่อนข้างต่ำ เพราะเริ่มประมูลจากราคาที่น้อย และไม่เกินกว่าราคาสูงสุดที่ตั้งไว้นั่นเอง

2. กำหนดลิมิตราคาต่อคอนเวอร์ชั่น

เป็นรูปแบบที่ระบบ มุ่งเน้นให้โฆษณาปรากฏในตำแหน่งที่ดี ดังนั้น แม้ผู้ลงโฆษณาจะกำหนดราคา CPA สูงสุดไว้ แต่ความเป็นจริง ระบบอาจเสนอราคา CPA สูงกว่ากำหนดไว้เล็กน้อย เพื่อแลกกับโอกาสที่โฆษณาปรากฏในตำแหน่งที่ดี และเพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายทางการตลาดตามที่คิดไว้

3. กำหนดเป้าหมายราคาต่อคอนเวอร์ชั่น

เป็นรูปแบบที่มุ่งเน้นให้ ราคาเฉลี่ยของ CPA ใกล้เคียงกับราคา CPA ที่กำหนดไว้ให้มากที่สุด โดยระบบอาจเสนอราคาประมูลสูงกว่า หรือ ต่ำกว่า ราคา CPA ที่กำหนดไว้ก็ได้ แต่เมื่อครบกำหนดเวลาของแคมเปญโฆษณาแล้ว ราคาเฉลี่ยที่เกิดขึ้นจริงของ CPA ต้องใกล้เคียงกับราคา CPA ที่กำหนดไว้

4. งบประมาณสูงสุดต่อวัน

รูปแบบนี้ จะไม่กำหนดลิมิตราคา CPA ถ้าเปรียบเป็นการประมูล คือ การประมูลแบบสู้ทุกราคาเพื่อหวังผลชนะเป็นหลัก รูปแบบนี้จึงเหมาะกับแคมเปญที่ต้องการเร่งใช้งบให้ครบกับงบประมาณที่ตั้งไว้ในแต่ละวัน

สรุป

สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจในเมืองไทยที่ต้องการหาช่องทางออนไลน์สักทางในการโปรโมทสินค้าและ บริการนอกเหนือจากช่องทางยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook หรือ Google นั่น LINE Ads Platform หรือ LAP ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ พร้อมกับวิธีการใช้งานที่ไม่ยากและไม่เยอะเกินไป ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ของวงการยิงโฆษณาก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงฟีเจอร์ในการดึงข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์มีในมือมาทำการ Remarketing ได้อีกด้วย เหมาะกับแบรนด์หรือธุรกิจ ที่มีเป้าหมายในการเริ่มทำการตลาดบน LINE หรือเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ LINE ได้เป็นอย่างดี 

ตาคุณแล้ว

มาถึงตรงนี้ คุณอาจจะเปิดบัญชีโฆษณาหรือลองเข้าไปศึกษากันดูบ้างแล้ว อย่าลืมแวะมาเล่าประสบการณ์การใช้งาน LINE Ads Platform ให้เราฟังบ้างนะ