ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า YouTube ถือเป็นช่องทางยอดนิยมสำหรับการทำ Digital Marketing หรือการปั้นตัวเองให้เป็น Influencer อีกช่องทางหนึ่ง แต่ก็ด้วยความฮอตฮิตนี่เองที่ทำให้การแข่งขันการทำการตลาดบน YouTube ค่อนข้างสูง และเป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะทำให้ YouTube Channel หรือ Video Content แจ้งเกิดหรือเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้
แต่ก็มีหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถส่งคอนเทนต์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้บนยูทูปได้ง่ายและเร็วขึ้น นั่นก็คือ การลงโฆษณา YouTube Ads
บทความนี้เราจึงจะพาไปลงมือทำ YouTube Ads กันแบบ Step by Step มาดูกันดีกว่าว่า เริ่มต้นทำอย่างไร ใช้เครื่องมือไหน มีวิธีการยิง YouTube Ads อย่างไรให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้บ้าง ตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
YouTube Ads คืออะไร? มีข้อดีอย่างไร?
YouTube Ads เป็นโฆษณาในรูปแบบของวิดีโอที่จะแสดงผลบนแพลตฟอร์ม YouTube และบนเว็บไซต์เครือข่ายพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยมีรูปแบบการแสดงผลที่หลากหลาย ทั้งรูปแบบที่กดข้ามได้ (Skip Ads) และที่กดข้ามไม่ได้
ซึ่งการซื้อโฆษณาบน YouTube ที่ข้อดีคือ การสร้างการรับรู้ (Awareness) ได้แบบกว้างขวาง กระตุ้นให้ลูกค้าจดจำสินค้าและแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ด้วยการโฆษณาแบบวิดีโอที่ใช้งบประมาณไม่แพง เมื่อเทียบกับการซื้อโฆษณาแบบ Television Commercial Advertising (TVC) ในอดีต
ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการสอน เรามีวิดีโอสอนซื้อโฆษณา YouTube Ads สามารถดูแบบวิดีโอเพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ
2 สิ่งที่ต้องมีก่อนเริ่มต้นซื้อโฆษณา YouTube Ads
1. บัญชี Google Ads Account
การซื้อโฆษณาบน YouTube Ads ไม่ได้ซื้อได้ผ่าน YouTube Channel แต่คุณต้องมี Account ของ Google Ads ก่อนเป็นอันดับเเรก เพราะเราจะใช้เครื่องมือนี้ในการยิง YouTube Ads ค่ะ
(คุณสามารถดูประโยชน์และทำความรู้จักกับ Google Ads ได้ที่ Google Ads / Google AdWords 101: สอนมือใหม่หัดลงโฆษณากับ Google)
2. YouTube Channel ของคุณเอง
คุณต้องทำการสมัครช่อง YouTube พร้อมทั้งลงคลิปวิดีโอที่จะใช้ยิง Ads ไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อน โดยสามารถดูขั้นตอนการสร้างช่อง YouTube ได้จาก Resource ของ Google เลย
ยกตัวอย่างเช่น ช่องของ Content Shifu ที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ Digital Marketing ภายในช่องมีวิดีโอแนะนำเกี่ยวกับการทำ Digital Marketing สำหรับคนที่สนใจ ซึ่งถ้านำมายิง YouTube Ads ก็จะได้ผลลัพธ์ที่นำมาซึ่งการ Subscribe ได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนการซื้อโฆษณา YouTube Ads มีอะไรที่ต้องทำบ้าง?
สำหรับขั้นตอนการซื้อโฆษณา YouTube Ads ที่คุณต้องทำและตั้งค่าให้เป็น จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- สร้าง Campaign
- สร้าง Ad Group
- สร้าง Ads
โดยโครงสร้างที่ว่านี้ประกอบด้วยชั้น (Layer) ทั้งหมด 3 ชั้น คือ แคมเปญ (Campaign) ชุดโฆษณา (Ad group) และโฆษณา (Ad) ซึ่งแต่ละชั้นจะต้องตั้งค่าสำคัญที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ชั้น Campaign จะใช้ควบคุมประเภทของการโฆษณา, ตั้งค่า Goal, ควบคุมงบประมาณ และควบคุมระยะเวลาในการรันแคมเปญ
- ชั้น Ad group จะใช้ควบคุม Target Audience
- ชั้น Ads จะใช้ตั้งค่ารูปแบบโฆษณา อย่างเช่น การใส่ลิงก์วิดีโอที่ต้องการใช้สำหรับยิง Ads รวมถึงการตั้ง Title และ Description ของวิดีโอ และการใส่ลิงก์ไปยัง Landing page ที่ต้องการ
1. สร้าง Campaign
หลังจากที่คุณมีทั้งช่อง YouTube และสมัครใช้งาน Google Ads แล้ว ให้เข้าไปที่ Google Ads Account คุณจะเห็นว่า Google Ads จะมีรูปแบบแคมเปญที่สร้างได้ทั้งหมด 3 รูปแบบคือ Search Ads Campaign, Display Ads Campaign และ Video Ads Campaign
ขั้นที่ 1 สร้าง New Campaign
สำหรับคนที่จะเริ่มซื้อโฆษณา YouTube ให้คลิกที่ Video Campaign และคลิกที่เครื่องหมาย + เพื่อ Create New Campaign
ขั้นที่ 2 ตั้งค่า Goal
ขั้นต่อมาเป็นการเลือก Goal หรือวัตถุประสงค์ของการทำแคมเปญ Ads ซึ่งสำหรับการซื้อโฆษณา YouTube แนะนำให้เลือก Create a campaign without a goal’s guidance เพื่อกำหนดและตั้งค่าโฆษณาเอง
ขั้นที่ 2 ตั้งค่ารูปแบบ Campaign
เมื่อเลื่อนลงมาให้เลือกประเภทโฆษณาแบบ Video
ขั้นที่ 3 ตั้งค่า Campaign Subtype
จะเป็นขั้นตอนของการเลือกรูปแบบการแสดงผลของโฆษณาหรือประเภทของ YouTube Ads
- Custom video campaign: คุณสามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลแบบ Skippable Ads, bumper ads หรือ Video discovery ads ได้
- Non-skippable in-stream: เป็นรูปแบบการยิงโฆษณาแบบที่บังคับให้ผู้ชมดูโฆษณาจนจบ โดยวิดีโอที่ใช้จะต้องมีความยาวประมาณ 15-20 วินาที และปรากฏในช่วงตอนต้น ตอนกลาง ตอนปลายของวิดีโอหลักที่ผู้ชมกำลังดูอยู่
- Outstream: เป็นรูปแบบโฆษณาที่จะปรากฏบนโทรศัพท์ หรือแท็บเล็ต ในแพลตฟอร์มประเภทเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google
- Drive conversions: เป็นประเภทวิดีโอที่ตั้งค่าเพื่อเพิ่ม Conversion ให้กับธุรกิจ
- Ad sequence: เป็นการโฆษณาในรูปแบบชุด โดยจะทยอยแสดงทีละวิดีโอ
- Shopping: เป็นการโปรโมตวิดีโอให้ผู้ชมมาซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ด้วย Ads ที่สามารถกดข้ามได้
*แต่ในที่นี้เราจะเลือกแบบ Custom video campaign เนื่องจากเราต้องการยิง YouTube Ads เพื่อทำให้ผู้ชมหันมากดดูวิดีโอ และนำมาซึ่งการกด Subscribe ต่อได้อีก รูปแบบของโฆษณาที่ต้องการจึงเป็นแบบ Video discovery ads ที่ตรงกับจุดประสงค์มากที่สุด
ขั้นที่ 4 ตั้งค่า General settings
- ตั้งชื่อแคมเปญ: ในส่วนของ Campaign name ให้คุณตั้งชื่อแคมเปญโฆษณาให้เรียบร้อยก่อนการลงโฆษณา เพื่อให้ง่ายต่อการกลับมาดูผลลัพธ์ย้อนหลังและไม่ก่อให้เกิดความสับสนว่าเป็นแคมเปญอะไรในภายหลัง
- Bid Strategy: เป็นการกำหนดค่าโฆษณาที่คุณเต็มใจจะจ่ายได้ โดยมีรูปแบบในการตั้งราคาเสนอ (Bidding) ของโฆษณา YouTube Ad. อยู่ 2 แบบด้วยกันคือ Maximum CPV และ Target CPM
- ตั้งค่า Budget: เป็นการตั้งงบประมาณที่จะใช้ โดยสามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ
- Campaign total: เป็นการกำหนดจำนวนเงินทั้งหมดที่ใช้ตลอดทั้งแคมเปญ
- Daily: เป็นการกำหนดจำนวนเงินที่จะใช้ในแต่ละวัน
- ตั้งค่าวันที่ยิงโฆษณา: ใช้กำหนดวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดโฆษณา
- Networks: คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้วิดีโอโฆษณาปรากฏที่ไหนบ้าง โดยเลือกได้เป็น…
- YouTube search results: ให้ปรากฏในผลการค้นหาเวลามีคน Search บนแพลตฟอร์ม YouTube ซึ่งจะใช้ได้กับ video discovery ads เท่านั้น
- YouTube videos: ให้โฆษณาปรากฏบนช่อง YouTube เป้าหมาย หรือวิดีโอที่เกี่ยวข้องได้ ซึ่งจะใช้ได้ในรูปแบบวิดีโอโฆษณาประเภท in‑stream และ video discovery ads
- Video partners on the Display Network: โฆษณาจะปรากฏบนเครือข่ายที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Google
- Location: หากเป็นธุรกิจที่มีประเทศ สถานที่ หรือ Area ที่เจาะจงก็สามารถตั้งค่าได้ที่นี่
- Languages: เลือกภาษาที่กลุ่มเป้าหมายใช้งาน
นอกจากการตั้งค่าทั่วไปด้านบนแล้ว อย่าลืมกดที่ Additional Settings เพื่อตั้งค่าโฆษณาเพิ่มเติมให้เหมาะสมสำหรับสินค้าและบริการของคุณเพิ่มเติมด้วย
- Devices: เลือกตั้งค่าเพิ่มเติมในส่วนของ Devices ว่าจะใช้เเสดงผลโฆษณาเฉพาะแค่ใน คอมพิวเตอร์, มือถือ แท็บเล็ตหรือ TV Screens ได้
- Frequency Capping: เป็นการเลือกระยะความถี่ของการเห็นโฆษณาว่า ใน 1 วันต้องการให้กลุ่มเป้าหมายเห็นสูงสุดกี่ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้โฆษณาก่อให้เกิดความรำคาญมากจนเกินไป โดยจะมีให้ 2 ตัวเลือก คือ Cap Impression Frequency กับ Cap view frequency
- Ad schedule: ในบางธุรกิจอาจมีระยะเวลาที่กลุ่มเป้าหมายเข้าใช้งาน YouTube แบบตายตัว การกำหนดช่วงเวลาการมองเห็นในส่วนนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ประหยัดค่าโฆษณาที่ใช้ในแต่ละวันได้มากขึ้นด้วย
2. สร้าง Ad Group
ในชั้น Ad group จะมีสิ่งที่ให้คุณตั้งค่าทั้งหมด 6 อย่าง ดังนี้
- ตั้งชื่อ Ad Group: ถ้าหากคุณต้องการสร้าง Ad Group หลายๆ Ad Group ในแคมเปญเดียวกัน แนะนำให้ตั้งชื่อให้เรียบร้อย เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บผลลัพธ์ และเลือก Optimize ต่อไปในอนาคต
- กำหนด Demographic: โดยคุณสามารถกำหนดเพศ อายุ สถานภาพ รายได้ครัวเรือนของกลุ่มเป้าหมายได้ตาม Persona ที่กำหนดไว้ ซึ่งเหมาะกับการยิงโฆษณา YouTube แบบที่มีการเจาะจงเฉพาะกลุ่ม
- กำหนด Audiences: สำหรับใครที่เปิดช่องมาสักพัก หรือมี Audience จาก Platform อื่นๆ เช่น เว็บไซต์ เราสามารถเอามาทำ Audience เพื่อทำการ Retargeting Ads ได้ค่ะ
- Keyword: ส่วนของ Keyword นี้จะไม่เหมือนกับการทำ SEO ที่ต้องเขียนให้ตรงกับ Search Intent เเบบเป๊ะๆ แต่เราใส่กลุ่มคำที่กลุ่มเป้าหมายของเราสนใจแบบกว้างๆ ลงไปได้
- เลือก Placement: เป็นส่วนสำคัญที่สุดอีกส่วนสำหรับคนที่อยากได้เคล็ดลับการซื้อโฆษณา YouTube Ads แบบตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยคุณสามารถเลือกให้โฆษณาของคุณขึ้นไปปรากฏอยู่บนช่องหรือคลิปใดคลิปหนึ่งได้
โดยเริ่มจากการเข้าไปยัง YouTube > เสิร์ชเรื่องที่เกี่ยวข้อง > เลือก Filters เป็น View Count > ดูว่ามีวิดีโอไหนที่คนดูเยอะๆ บ้าง รวมถึงมีช่องไหนที่เกี่ยวกับช่องหรือวิดีโอของเราบ้าง หลังจากนั้นให้นำชื่อช่องมาใส่ หรือจะเลือกวิดีโอที่เกี่ยวข้องโดยนำ URL มาใส่เลยก็ได้
ซึ่งวิธีการตั้งค่า Placement นี้จะช่วยให้วิดีโอที่เรายิงมีโอกาสที่คนคลิกมากขึ้นด้วยจากการที่วิดีโอมีความ Relate กันชัดเจนนั่นเอง
- Bidding: คือ งบประมาณเงินที่เราจะประมูลแข่งกับคู่แข่ง แน่นอนว่า การซื้อโฆษณา YouTube Ads ไม่ได้มีเเค่เราที่อยากทำโฆษณา หากมีใครจ่ายสูงสุดก็จะมีโอกาสที่แสดงผลโฆษณามากขึ้น
ซึ่งในครั้งแรกที่คุณยิงแอดก็อาจจะต้องเริ่มจากการทดลอง Bidding โฆษณาไปเรื่อยๆ ก่อน เพื่อดูว่า ลักษณะธุรกิจ ช่อง หรือ เนื้อหาในแต่ละแบบ จะมีราคา Bidding ที่เท่าไหร่ หลังจากนั้นจึงจะสามารถประเมินราคาต่อไปได้ง่ายขึ้น
3. สร้าง Ads
มาถึงส่วนของการสร้าง Ads ให้คุณ Copy Url ของวิดีโอที่คุณใช้ในการโฆษณามาใส่ไว้ในช่องด้านบน หลังจากนั้นให้เลือกรูปแบบ Video Ad format ซึ่งตอนนี้มีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 2 วิธีคือ
- Skippable Ads (วิดีโอแบบ Skip หลังจากรับชมไปได้ 5 วินาที)
หากคุณเลือกซื้อโฆษณา YouTube รูปแบบนี้คุณจะต้องมีหน้า Landing Page รองรับ และสามารถเพิ่มปุ่ม Call-to-Action และ Headline ได้ จึงเหมาะกับวัตถุประสงค์การซื้อโฆษณาในแง่ของการเพิ่มโอกาสในการขาย การเข้าชมเว็บไซต์ การรับรู้และการเข้าถึงแบรนด์ การพิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์
- Video discovery ads (วิดีโอแนะนำต่อจากคลิปหลักที่ผู้ชมน่าจะสนใจ)
รูปแบบ Video discovery ads จะเพิ่มโอกาสคลิกได้ดี เหมาะมากสำหรับคนอยากได้ยอดคลิก ยอดวิว หรือยอด Subscribe ช่องเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยในการโปรโมตช่องของคุณให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ทำความรู้จัก รับรู้และเข้าถึงคุณได้มากขึ้นอีกด้วย
ส่วนวิธีการตั้งค่า คุณสามารถตั้งค่า Thumnail หรือปกวิดีโอใหม่ได้ รวมถึงใส่ Headline และ Description ใหม่ที่น่าสนใจ และดึงดูดคนด้วย Copy Writing เจ๋งๆ ได้เลย
หลังจากที่คุณต้องค่า Ads เรียบร้อยให้ตั้งชื่อ Ad Name และกด Create Campaign ได้เลย
สรุป
เป็นอย่างไรบ้างกับขั้นตอนการยิง YouTube Ads ที่นำมาฝาก น่าจะช่วยให้ทุกคนรู้วิธีเเละเคล็ดลับต่างๆ ไปไม่มากก็น้อย
นอกจากเรื่องวิธีและขั้นตอนการยิง YouTube Ads แล้ว ก็อย่าลืมเรื่องคุณภาพของวิดีโอและเนื้อหาของคอนเทนต์ด้วยนะคะว่า มีกลุ่มเป้าหมายเป็นแบบไหน เป็นแนวเฉพาะทางหรือไม่ เพื่อให้การทำแอดบน YouTube ได้ทั้งยอดวิว ยอด Subscribe ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย รับรองว่า ไม่มีเสียเงินไปแบบเปล่าๆ แน่นอนค่ะ
ตาคุณแล้ว
ถึงตาคุณใช้ YouTube Ads ให้เกิดประโยชน์แล้วค่ะ สำหรับใครที่มีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการเคล็ดลับเพิ่มเติม ก็อย่าลืมคอมเมนต์ไว้ในบทความนี้ เผื่อเราจะหยิบยกเอาประเด็นที่คุณสนใจมาเขียนบอกเล่า และบอกเคล็ดลับเพิ่มเติมให้ในบทความต่อไป แล้วเจอกันใหม่ค่ะ ????