การทำคอนเทนต์วิดีโอเป็นการทำคอนเทนต์ที่ลงแรงเยอะ ทั้งเตรียมสคลิปต์ ถ่ายทำ ตัดต่อ และยังมีองค์ประกอบยิบย่อยเต็มไปหมด ทั้งหมดที่พูดมายังไม่นับต้นทุนทั้งเงินและเวลาที่ใช้ไปมหาศาล ซึ่งไม่ได้การันตีผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น และอาจไม่ได้เป็นอย่างที่วาดฝันไว้ ????

ตัวผมเองก็ประสบปัญหาเดียวกัน (เกือบจะถอดใจ) จนเรามาเจอกับ “ การทำ YouTube SEO ” หลังจากลองปรับใช้มาสักระยะ ผลลัพธ์ที่ออกมาเติบโตขึ้นอย่างน่าตกใจ ช่องของเรามียอดคนดู (Views) และระยะเวลาการดู (Watch Times) มากขึ้นกว่า 500 เปอร์เซนต์ และมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ของการ ทำ YouTube SEO
กราฟแสดง Watch Time จาก Traffic ของ YouTube Search ช่วงก่อนและหลังทำ YouTube SEO อย่างจริงจัง

จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าก่อนทำ YouTube SEO ยอด Watch Time ไม่ได้เยอะ ปล่อยวิดีโอที่แทบไม่ต้องลุ้นว่าจะมีคนดูหรือเปล่า แต่พอทำ YouTube SEO อย่างจริงจังพบว่าวิดีโอเก่าๆ ก็กลับมามีคนดูเยอะขึ้น วิดีโอใหม่ๆ ก็ยิ่งมีคนดูเยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะ จนเป็นทวีคูณ

ผมเลยอยากจะเอาความรู้ที่ผมกับทีม Content Shifu ทำมาแชร์กัน ว่าทำ YouTube SEO ยังไงกันบ้างครับ 

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

YouTube SEO คืออะไร?

YouTube SEO คือ กระบวนการปรับแต่งวิดีโอ Title, Description, ปกวิดีโอ และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้วิดีโอตรงกับความสนใจของคนดูมากที่สุด และง่ายต่อการถูกเสิร์ชเจอ เพื่อเพิ่มโอกาสให้วิดีโอติดอันดับการค้นหาในอันดับที่ดีบน YouTube Search มากยิ่งขึ้น 

แม้ว่า YouTube SEO จะคล้ายๆ กับการทำ SEO บนเว็บไซต์เลย จริงๆ แล้วยังมีจุดต่างที่สำคัญที่ทำให้การทำบน YouTube นั้นยุ่งยากกว่าเล็กน้อย คือ เมื่อเราอัปโหลดวิดีโอลง YouTube แล้วเราจะไม่สามารถแก้ไขตัววิดีโอได้เลย ทำได้เพียงแก้ไของค์ประกอบอื่นๆ เช่น Title, Description, ปกวิดีโอเท่านั้น

ดังนั้นการทำ YouTube SEO จึงควรต้องโฟกัสที่พาร์ทการเตรียมวิดีโอคอนเทนต์และมองไปถึงการตัดต่อให้น่าสนใจตั้งแต่แรก

ใครอยากทำความเข้าใจมากขึ้นสามารถเข้าไปดูวิดีของ Content Shifu ได้เลย

หลักการทำ SEO YouTube มีอะไรบ้าง (ปัจจัยช่วยดันวิดีโอ YouTube)

เมื่อเรารู้แล้วว่า YouTube SEO คือ กระบวนการปรับแต่งวิดีโอ แต่จะปรับให้เหมาะกับใคร? คำตอบคือ เราควรปรับแต่งวิดีโอของเราให้เหมาะสมกับ “คนดู” และ “อัลกอริทึม” ของ YouTube 

1. คนดู YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสำหรับคนจริงๆ (ที่จริงก็ทุกแพลตฟอร์ม) แต่ที่อยากเน้นคำว่า คนจริงๆ คือ ถ้าเราทำวิดีโอออกมา แบบไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่คนดูต้องการ แล้วไปอาศัยการปรับแต่งวิดีโอให้เหมาะสมกับอัลกอริทึมอย่างเดียว อาจไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องที่สุด

“เป้าหมายของเราคือการให้คนได้ดูวิดีโอที่เขาชอบ
เพื่อให้เขากลับมายังแพลตฟอร์มอีก”

YouTube

สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญก็คือ การสร้าง High-Engagement Video หรือ วิดีโอที่ทำให้ “คน” สามารถเวลาอยู่บนแพลตฟอร์มนานที่สุด การที่คนจะใช้เวลาได้นาน แน่นอนว่าต้องได้ดูวิดีโอที่คนดูชอบ ได้ประโยชน์ สนุกสนาน ถ้าวิดีโอของเราสามารถดึงความสนใจได้ และทำให้คนดูกลับมาดูวิดีโอของเราเพิ่มเติมละก็ YouTube ก็จะนำวิดีโอของเราไปแสดงให้กับคนเห็นมากขึ้น 

2. อัลกอริทึมของ YouTube แม้ว่าเราจะทำวิดีโอออกมาดีแค่ไหน ถ้าคนเสิร์ชไม่เจอ เขาก็จะไม่ได้เข้ามาดูวิดีโอของเราอยู่ดี เพราะ YouTube เองก็ไม่ได้มาเลือกวิดีโอโดยพนักงานจริงๆ ดังนั้น หน้าที่ของเราก็คือ การทำให้อัลกอริทึมเข้าใจวิดีโอของเราได้ง่ายที่สุด

สรุปให้เห็นภาพง่ายๆ ถ้าเราสามารถสร้างวิดีโอที่มีคนต้องการดู และมีส่วนร่วมกับวิดีโอของเราได้ และอัปโหลดวิดีโอนั้นลง YouTube พร้อมปรับแต่งวิดีโอของเราให้อัลกอริทึมของ YouTube เข้าได้ง่ายที่สุด วิดีโอของเราก็จะไต่อันดับขึ้นสู่หน้าแรกของ YouTube Search ได้อย่างแน่นอน

วิธีทำ YouTube SEO ต้องทำอะไรบ้าง

เมื่อเราทำความเข้าใจกับหลักการพื้นฐานในการทำ YouTube SEO กันไปแล้ว ต่อไปเป็น 5  Checklist ที่ผมสรุปมา เพื่อให้ทุกคนได้ลองนำไปปรับใช้กันนะครับ

1. YouTube Keyword Research เริ่มต้นจากสิ่งที่คนอยากดู

Keyword เป็นสารตั้งต้นของการทำวิดีโอคอนเทนต์ การเลือก Keyword ที่มีคุณภาพ (มีความเกี่ยวข้อง, มี Search Volume เพียงพออย่างสม่ำเสมอ, แข่งขันได้) จะทำให้วิดีโอถูกค้นเจอโดยคนที่อยากดูมากขึ้น เพิ่มโอกาสที่คนเหล่านั้นจะดูวิดีโอของเรานานขึ้น หรืออาจจะกดติดตามช่องของเราในที่สุด

ทั้งนี้ YouTube ไม่ได้มีเครื่องมือหา Keyword แบบ Official ให้เราใช้งาน แต่เราก็มีวิธีการง่ายๆ ในการหา Keyword กัน

  • ใช้ YouTube Search + Google Trends หาไอเดียทำคลิป

วิธีนี้ทำได้ไม่ยากเพียงเข้าไปที่หน้า YouTube พิมพ์ Seed Keyword ลงบนช่องเสิร์ชของ YouTube เพื่อดูสิ่งที่ YouTube Suggest ขึ้นมา

เทคนิคหาไอเดียทำคลิปด้วย YouTube Search

ตรงนี้เราสามารถหาประเด็นที่เกี่ยวข้องที่มี Seed Keyword เรารวมอยู่ ตรงนี้เองสามารถใช้หาไอเดียในการทำวิดีโอได้ โดยดูว่าคนใน YouTube มักสนใจอะไรใน Keyword นั้นๆ (Search Intent)

ยกตัวอย่างเช่น เราอยากทำวิดีโอเกี่ยวกับ ตัดต่อวิดีโอ จากรูป YouTube แนะนำ ตัดต่อวิดีโอลง TikTok, ตัดต่อวิดีโอ ipad, ตัดต่อวิดีโอ Adobe Premiere Pro เป็นต้น เราก็สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นไอเดียในการทำวิดีโอให้ตรงกับความสนใจของคนดูได้ครับ

หลังจากนั้นเราสามารถนำ Keyword ที่ต้องการไปดูความนิยมบน Google Trends ได้ เพื่อใช้ดูความนิยมของ Keyword นั้นๆ โดย Google Trends เป็นเครื่องมือที่ใช้ดูความนิยมของ Keyword โดยจุดเด่นคือสามารถเลือกดูของ YouTube Search ได้ แต่มีข้อจำกัดคือไม่สามารถดู Search Volume ได้ ดูได้เพียงแค่ความนิยม ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

สอนวิธีใช้ Google Trends แบบ Step-by-Step


คุณสามารถใช้เครื่องมือในการทำ Keyword Research ไม่ว่าจะเป็น TubeBuddy และ VidIQ ซึ่งทั้ง 2 ตัวเป็นส่วนขยายเป็นเว็บเบราเซอร์ (Browser Extension) ที่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรี สามารถใช้สร้าง List Keyword บน YouTube เก็บไว้เป็นไอเดียในการทำคอนเทนต์ได้ นอกจากนี้ยังมี Scorce Analysis ให้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกใช้ Keyword อีกด้วย

  • ใช้ Google Search เพิ่มยอดวิวบน YouTube

Google Search เป็นช่องทางภายนอก YouTube ที่พาคนเขามาดูวิดีโอเรามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของช่อง Content Shifu สืบเนื่องมาจาก Google พยายามผลักดันให้คนเสิร์ชเจอวิดีโอมากขึ้น

ตัวอย่างวิดีโอของ Content Shifu ในหน้า SERPs ที่ Google แนะนำ
ตัวอย่างวิดีโอของ Content Shifu ในหน้า SERPs ที่ Google แนะนำ

สรุปวิธีการเลือก Keyword ให้วิดีโอของเราถูกค้นเจอบน Google Search 

  1. ค้นหา Keyword บนช่องเสิร์ช
  2. เลือก Keyword ที่บนหน้า SERPs มีวิดีโอแนะนำ เพราะว่าวิดีโอของเราก็มีโอกาสขึ้นไปปรากฏตรงนั้น
  3. สังเกตที่ผลการค้นหาที่เป็นวิดีโอแนะนำจะมี Thumbnail, Title, Duration ซึ่งทั้ง 3 จุดนี้เป็นจุดที่สามรรถนำไปเป็นไอเดียในการปรับแต่งวิดีโอของเราให้ติดหน้า Google Search
  4. บางวิดีโอ Google จะแสดง Timestamp ขึ้นมาให้ด้วย ซึ่งจะอ้างอิงจาก YouTube Descriptionในรูปแบบ [นาที]:[วินาที] ตามด้วยหัวเรื่องในวิดีโอ (แต่ละ Timestamp ควรอยู่คนละบรรทัดกัน)

2. Create High-Retention เทคนิคทำ SEO YouTube สร้างวิดีโอให้คนดูนาน

ต่อมาเราเข้าสู่การสร้างคอนเทนต์วิดีโอกันแล้วครับ จุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้คือการทำให้คนใช้เวลาการวิดีโอเราให้นานที่สุด โดยเราจะโฟกัสที่ยอด Watch Time ซึ่งเป็นตัวบอกว่าคนที่เสิร์ชวิดีโอของเราเจอแล้ว เมื่อคลิกเข้ามาดูแล้วใช้เวลาไปเท่าไหร่ โดยค่านี้ยิ่งเยอะก็จะยิ่งดี เพราะ YouTube เองก็ใช้ค่านี้เป็นหนึ่งตัวชี้วัดว่าวิดีโอของเรามีคนชอบดูแค่ไหน

  1. วางโครงเรื่องก่อนถ่ายทำ (Outline)

ก่อนเริ่มถ่ายทำเราควรวางโครงเรื่องจากก่อนทุกครั้งเพื่อให้ไม่หลงประเด็น โดยควรโฟกัสที่ Keyword Intent ของคนดู ว่าเขาเข้ามาดูคลิปเราเพราะอะไร เพราะถ้าหากเราไม่วาง Outline จาก Keyword Intent แล้วถ่ายทำจนเสร็จ แล้วมาปรับแต่งปกปรับแต่ง Title ใส่ Keyword ทีหลัง จนทำให้อัลกอริทึมของ YouTube พาคนมาดูได้สำเร็จ แต่ถ้าเมื่อคนดูดูแล้วไม่เจอสิ่งที่ต้องการ เขาก็อาจจะไปหาวิดีโอช่องอื่นแทน ท้ายที่สุด YouTube ก็จะแนะนำวิดีโอของเราน้อยลงนั่นเอง

  1. Start with Hook!

การเริ่มต้นวิดีโอด้วย Hook จะช่วยเพิ่มโอกาสที่คนเสิร์ชเจอจะดูต่อจนจบได้ โดยเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ คือ

  • Hook ด้วยความเชื่อมโยง เปิดด้วยเหตุการณ์ที่กลุ่มเป้าหมายของเรามีความเชื่อโยงด้วย แล้วเราก็โยงเข้าประเด็นที่เราจะพูด เช่น
  • Hook ด้วยปัญหา วิธีนี้เรามักเจอบ่อยๆ ก็คือเราเปิดวิดีโอมาด้วยปัญหาที่หลายๆ คนเจอ ซึ่งวิดีโอของเรามีวิธีแก้ มาดูไปพร้อมๆ กัน
  • Hook ด้วยผลลัพธ์ การเปิดด้วยผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็น Stat เชิงบวก, ผลการพิสูจน์ จะช่วยทำให้คนดูรู้ว่าถ้าดูวิดีโอของเราและทำตามอาจได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งวิดีโอของเรามีวิธีมาบอก ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนดูดูต่อจนจบ

ซึ่งถ้าหากลองไปปรับใช้แล้วได้ผลหรือไม่มีวิธีดูตามกราฟด้านล่างครับ

กราฟ Watch time ดูว่าคนดูคลิปต่อหรือไม่
  1. เทคนิคการตัดต่อคลิปให้คนดูนานๆ

หลังจากที่คนดูตัดสินใจดูต่อนั้นถือว่าเยี่ยมแล้ว แต่จะเยี่ยมกว่าเดิมถ้าเขาสามารถดูต่อไปเรื่องๆ จนจบได้ นอกเหนือจากประเด็นที่น่าสนใจ เปิดวิดีโอได้ดึงดู วิธีการตัดต่อก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยดึงคนไว้นานๆได้

วิธีตัดต่อเล็กๆ ที่ทำให้น่าสนใจได้

  • Jump Cut ช่วยให้วิดีโอของเราน่าสนใจ ต่อเนื่อง ไม่มีช่วงเงียบนานเกินไป และแน่นอนว่าตอนถ่ายทำเราคงไม่สามารถพูดโดยไม่ผิดพลาดเลย Jump Cut จะช่วยลดข้อผิดพลาดได้
  • Animation การใช้ Animation เล็กๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจ หรือเพื่อชี้จุดนำสายตาให้คนดู จะสร้าง User Experience ที่ดีได้ คนดูสามารถดูและทำตามได้
  • Plot Breakdown วิธีนี้ถ้าทำได้จะดีมาก การสร้างความตื่นตาตื่นใจในวิดีโอเพื่อทำให้คาดเดาได้ยากจะทำให้คนดูอยากดูต่อ เช่น การ Insert วิดีโอประกอบ, การสร้างเหตุการณ์สมมติประกอบเรื่องที่เล่า

3. On-Page Video Optimization เทคนิคเก็บงานลงคลิปให้คนหาเจอง่าย

ขั้นตอนนี้สำคัญต่อการทำ YouTube SEO มากๆ เพราะเป็นตัวกำหนดว่าวิดีโอที่เราตั้งใจทำมานั้นจะมีคนคลิกเข้ามาดูหรือเปล่า

  1. ใส่ Keyword ใน Title และ Description

สำคัญมากๆ เพราะเมื่อคนเสิร์ชสิ่งแรกที่เขามองหน้าคือชื่อวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับผลการค้นหา และต้องตรงกับ Intent ของคนด้วย เช่น สอนใช้ Google Trends, รีวิว Hootsuite และกระจาย Keyword ใน Description เพื่อให้ YouTube และคนดูรู้ว่าเรากำลังโฟกัสสิ่งนี้อยู่

ตัวอย่างการแทรก Keyword ให้วิดีโอ
  1. เขียนวิดีโอ Title ไม่เกิน 60 ตัวอักษร

ส่วนนี้จะเห็นผลมากๆ ตอนที่ YouTube แนะนำวิดีโอของเราเป็นคลิปถัดไป แม้ว่า YouTube จะอนุญาตให้เราตั้งชื่อ Title ได้มากถึง 100 ตัวอักษร แต่ถ้าเราตั้งชื่อวิดีโอยาวเกินไปหรือไม่สามารถเข้าใจได้ใน 60 ตัวอักษรแรก จะทำให้คนดูอาจไม่คลิกวิดีโอของเราเป็นวิดีโอถัดไปที่จะดูก็ได้

  1. เขียนวิดีโอ Title ให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง

ในเมื่อคู่แข่งเยอะ เล่นประเด็นเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้คือการเขียน Title ให้แตกต่าง ดึงความสนใจคนดูให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเน้นผลลัพธ์, ชูในเรื่องความเข้าใจง่าย, เล่นกับเวลา, เล่นกับความสดใหม่

เทคนิคตั้ง Title Video หรือชื่อคลิป ใน YouTube
  1. สร้างปกวิดีโอ (Thumbnail) ที่ดึงดูด

ทั้งวิดีโอ Title และ Thumbnail ต่างก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิกมาดู ที่สำคัญยังเป็นส่วนที่ Google Search ดึงไปแสดงผลตามที่ได้พูดไปตอนต้น วิธีการทำปกให้น่าสนใจจึงสำคัญ

จากที่ผมได้ลองทำมาพบว่าวิดีโอที่มีปกเป็นผู้ดำเนินรายการจะมียอดการคลิกเข้ามาดูมากกว่าวิดีโอที่มีแต่กราฟิก นอกจากนี้การเล่นกับประเด็นที่พูดในวิดีโอก็ช่วยดึงความสนใจได้ ซึ่งหากไม่มีไอเดียลองหาได้จาก Pinterest, Google Image Search, หรือ เว็บ Photo Stock โดยลองเสิร์ช Keyword และนำมาปรับกับปกของเราก็ได้

  1. Searchable Description

เก็บส่วนนี้ง่ายๆ เพียงเสิร์ช Keyword ใน YouTube Search และดู Top Video ว่าคนอื่นเก็บ Keyword ไหน ซึ่งมักจะกระจายใน Description เราก็สามารถดึงมาใช้ได้ และมีโอกาสติดอันดับที่ดีใน Keyword นั้นๆ เหมือนกัน

  1. Tags

การใส่ Tag ช่วยทำให้อัลกอริทึมของ YouTube เข้าใจว่าวิดีโอของเรากำลังพูดถึงอะได้มากยิ่งขึ้น ส่วนนี้สามารถทำได้เลยไม่ยาก คำที่น่าใส่

  • Target Keyword
  • Related Keyword
  • Keyword ที่คนมักเขียนผิด เช่น วิดีโอ วีดีโอ
  • Keyword ทับศัพท์ เช่น Google กูเกิล

สามารถใส่ Tag ได้ที่หน้า Edit Video > Details > Show More

วิธีใส่ Tag และ Keyword ใน YouTube

คุณสามารถใช้ TubeBuddy และ VidIQ ในการช่วยแนะนำ Tag ให้กับวิดีโอของคุณได้ เพียงกรอก Target Keyword ตัวส่วนเสริมก็จะแนะนำ Tag มาให้คุณเลือกและใส่ลงในวิดีโอได้

4. In-Video Optimization วิธีทำ YouTube SEO ปรับคลิปและช่องให้ทำอันดับดีขึ้น

เมื่อสร้างวิดีที่ดีแล้ว การปรับวิดีโอของเราให้ดีต่ออัลกอริทึมของ YouTube ผมมีเทคนิคเพิ่มเติมที่สามารถนำไปปรับใช้กับวิดีโอเก่าๆ หรือวิดีใหม่ที่กำลังจะลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการไต่อันดับที่ดีบน YouTube Search

  1. Closed Caption (CC)

การใส่ซับไตเติ้ลแบบเปิด-ปิดได้ ช่วยสร้าง User Experience ที่ดี ทำให้ดูได้นานกว่าเดิม และที่สำคัญยังช่วยทำให้ YouTube เข้าใจว่าวิดีโอของเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้เอง YouTube จะสามารถนำวิดีโอของเราไปแสดงให้คนที่อยากน่าจะสนใจวิดีโอของเราได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

ตัวอย่างการใส่ Closed-Caption ให้วิดีโอ
ตัวอย่างการใส่ Closed-Caption

สอนทำ Closed Caption (CC) แบบอัตโนมัติ

ถ้าคุณยังไม่มีเวลาทำซับไตเติ้ลตอนนี้ไม่เป็นไร ลองใส่เฉพาะ Keyword ที่คุณโฟกัสแทนก็ได้ ไม่ต้องใส่ทั้งวิดีโอ เพื่อให้ YouTube มาสแกนได้ถูก

  1. Add Card

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คนดูตามวิดีโอที่เกี่ยวข้องได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเราสามารถเพิ่ม Card ให้ขึ้นมาระหว่างที่พูดถึงเนื้อหาในวิดีโออื่นๆ ได้ ช่วยเพิ่มยอดวิวให้กับวิดีโออื่นๆ ไปในตัว

วิธีการเพิ่มเพียงกดที่ปุ่ม “Card” ในหน้า Edit Video

วิธีใส่ Card ในวิดีโอ 1

และเลือกช่วงเวลาที่จะขึ้น Card เลือกคลิป และใส่ข้อความที่จะ Popup ได้

วิธีใส่ Card ในวิดีโอ 2
  1. End Screen 

ฟีเจอร์นี้ทำงานคล้ายๆ Card เพียงแต่จะสามารถใส่ได้ก่อนจบวิดีโอ 20 วินาทีสุดท้าย จุดประสงค์ของการใส่ End Screen คือเพื่อให้คนดูที่ดูวิดีโอของเราจนจบ ???? (หรืออาจจะข้ามมาตอนจบ) กระทำบางอย่างต่อ หรือที่เรียกว่า Call-to-Action โดยสามารถเลือกใส่ตั้งแต่ 1 ถึง 2 ชิ้น ดังนี้

  • Video
  • Playlist
  • Channel

วิธีการใส่เพียงกดที่ปุ่ม End Screen ในหน้า Edit Video

วิธีใส่ End Screen ในวิดีโอ 1

จะมีหน้าต่างให้เพิ่ม Element ขึ้นมา เราสามารถเลือกช่วงเวลาที่จะขึ้นได้ แต่ต้องอยู่ในช่วง 20 วินาทีสุดท้ายของวิดีโอเท่านั้น

วิธีใส่ End Screen ในวิดีโอ 2

5. Promote Video เทคนิคโปรโมตวิดีโอยูทูปให้ดีต่อ YouTube SEO 

เอาละ มาถึงขั้นนี้คุณน่าจะทำวิดีโอ อัปโหลดวิดีโอ พร้อมปรับแต่งให้ดีต่ออัลกิริทึมของ YouTube แล้วสินะ แต่ถ้าจะรอให้ YouTube ช่วยหาคนมาดูให้หน่อย คงต้องรออีกนาน การโปรโมตวิดีโอของคุณด้วยตัวคุณเองก็จะช่วยให้คุณเห็นผลเร็วขึ้นอีกหน่อย เผลอๆ ถ้าคนตามมาดูเยอะ YouTube อาจจะช่วยส่งวิดีโอของคุณไปให้คนอื่นๆ ได้ดูกันเร็วขึ้นด้วยก็ได้

  1. โปรโมตให้ฐานคนตามเก่าของคุณ

Content Shifu เองก็เพิ่งเข้ามาทำ YouTube จริงจังได้ไม่นาน เรามีฐานคนตามทั้ง Website Facebook Page และ Email Subscriber ตรงนี้เองเมื่อเราเรื่องทำวิดีโอลง YouTube จริงจัง สิ่งที่เราทำคือ โปรโมตกับฐานคนตามเรามีที่อยู่ก่อน ผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาด External Traffic Source ส่วนใหญ่ของเรามาจากฐานคนที่มีอยู่

แต่ถ้าคุณไม่มีฐานคนตามเยอะๆ ก็ไม่เป็นไร คุณอาจจะเริ่มจากแชร์ให้กับคนที่รู้จัก เพื่อนๆ ของคุณ ครอบครัวคุณก็ได้ แน่นอนว่าต้องมีคนสนใจและแชร์ต่อบ้างละ ซึ่งตรงนี้เองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างยอด Subscriber บน YouTube ได้

  1. โปรโมตให้กับคนอื่นๆ ที่อาจจะสนใจ

หากคุณทำวิดีโอสอนทำ SEO คุณก็แชร์วิดีโอของคุณ ผ่าน Facebook Group หรือเว็บบอร์ดที่มีคน Active ด้าน SEO ก็จะช่วยเพิ่มยอดวิวหรือยอดผู้ติดตามก็ได้

เทคนิคปรับ SEO YouTube อื่นๆ

  1. ใช้ประโยชน์จาก Playlist และ VDO Series
  • คนดูชอบอะไรที่มาเป็นชุดๆ ให้ติดตามต่อเนื่อง แบบภาพยนตร์หรือซีรีส์ ดังนั้นถ้าคุณสามารถชุดวิดีโอออกมาเป็นซีรีส์ให้คนได้ติดตามเรื่อยๆ และใส่ Episode ถัดไปให้คนได้ตามต่อใน End Screen จะช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามให้กับช่องของคุณอย่างแน่นอน
  • นอกจากนี้การจัด Playlist ก็ให้ผลลัพธ์คล้ายๆ กับการทำวิดีโอซีรีส์เช่นเดียวกัน โดยอาจจะจัดวิดีโอเก่าๆ ของคุณให้เป็นหมวดหมู่ จะช่วยให้คนที่เข้ามาดูสามารถเลือกดูเรื่องที่สนใจได้สะดวกยิ่งขึ้น

การแชร์ Playlist Video จะช่วยเพิ่มยอดคนดูให้กับวิดีโออื่นๆใน Playlist ได้ เพราะเมื่อคนเข้าไปดูวิดีโอแรกของ Playlist นั้น YouTube จะ Suggest วิดีโอถัดไปใน Playlist ให้อัตโนมัติ 

ตัวอย่างการจัด Playlist โดยจัดเป็นหมวดหมู่ตามความสนใจของคนดู
  1. อย่าลืมใช้ประโยชน์จากหน้า Channel (จุดประสงค์ เพื่อดึงให้คน Sub)

YouTube Channel ของเราก็ทำหน้าที่คล้ายๆ กับหน้า Home Page ของเว็บไซต์ คนอาจจะเจอวิดีโอของคุณจากช่องทางอื่นๆ แต่ถ้าหากเขาสนใจก็จะเข้ามาดูหน้า Channel ของคุณ ตรงนี้เองเราจึงควรใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการเพิ่มยอดผู้ติดตาม

  • วิดีโอแนะนำ (Subscriber Magnet)

หน้า Channel ของ YouTube จะมีช่องให้เราใส่วิดีโอแนะนำ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ติดตาม และคนที่ติดตามช่องเราอยู่แล้ว ส่วนนี้มีเทคนิคในการเลือกวิดีโอมาแสดงแบบง่ายๆ แต่ได้ผลดี คือ ให้เข้าไปดู Analytics ของช่องว่าวิดีโอไหนที่ช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามให้กับช่องเรามากที่สุด ให้เลือกวิดีโอนั้นมาแสดง ซึ่งคนที่เข้ามาที่ช่องของเราก็อาจจะได้เห็นและชอบวิดีโอนั้นๆ เหมือนกัน ซึ่งจะช่วยยอดผู้ติดตามให้กับช่องของเรา

  • คำอธิบายช่อง (Channel description )

อีกส่วนที่หลายคนมองข้ามคือการใส่ Channel description โดยเริ่มจาก อธิบายว่าช่องของเราจะมีคอนเทนต์อะไรบ้าง และใส่ Keyword ที่เราอยากโฟกัสลงไป ก็จะช่วยย้ำให้คนที่เข้ามาดูเข้าใจและอาจจะติดตามช่องของเราต่อ

สรุปขั้นตอนทำ YouTube SEO

การทำ YouTube SEO คือการคิดถึงคนดูเป็นสำคัญ เพราะ YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นให้คนใช้เวลากับ YouTube นานๆ ดังนั้น YouTube ก็จะเลือกวิดีโอที่คนดูน่าจะชอบไปส่งมอบให้คนดู ตรงนี้เองคนที่ทำงานด้านวิดีโอควรให้ความสำคัญ

  1. เริ่มจากการเลือกประเด็นที่คนดูสนใจ
  2. ทำวิดีโอโดยให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่อง และการตัดต่อที่น่าติดตาม
  3. ปรับ On-Page Video ให้ง่ายต่อการถูกค้นเจอ เช่น การแทรก Keyword
  4. สร้าง User Experience ที่ดี ด้วยการใส่ CC หรือใส่ Card และ End Screen ให้คนดูวิดีโอของเราต่อ
  5. โปรโมตวิดีโอช่วยเสริมการทำ YouTube SEO อีกแรง
  6. (Tip) ปรับแต่ง Channel และ VDO Playlist ต่างๆ เพื่อชวนคนดูมาเป็นผู้ติดตามต่อ

ตาคุณแล้ว

หวังว่าบทความนี้ จะช่วยเป็นแนวทางให้คุณปรับใช้ ทำคลิปวิดีโอให้ติดเสิร์ช ยอดวิวไหลเข้าเยอะๆ นะครับ ฝากบทความนี้ไว้เป็น Checklist ด้วยครับ

 

New call-to-action