“ประเทศไทย” หนึ่งในประเทศลูกรักของ Google ที่ทาง Google ได้ขนบริการใหม่ ๆ ในเวอร์ชันภาษาไทยให้พวกเราได้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง อย่าง “Google Assistant” บริการผู้ช่วยบนมือถือที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ในเวอร์ชันภาษาไทย แล้วเมื่อสองวันที่ผ่านมา ใน “Google for Thailand” งานแสดงวิสัยทัศน์ และบริการใหม่ ๆ ของ Google ประเทศไทย แล้วมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย..

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

“Google Station” บริการ Free WiFi แบบมีเงื่อนไข

บริการ Free WiFi จาก Google ซึ่งประเทศไทยของเรา นับเป็นประเทศที่ 3 ของเอเชีย และที่ 4 ของโลก (ก่อนหน้านี้เปิดที่อินเดีย อินโดนีเซีย และเม็กซิโก) โดยร่วมมือกับ CAT ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของไทย ที่ให้ใครก็ได้ ใช้อินเทอร์เน็ตได้ฟรี แบบไม่กั๊กสปีด ไม่ลิมิตเวลา แตกต่างจากโครงการ Free WiFi ก่อน ๆ ของภาครัฐ และหน่วยงานท้องถิ่นที่ผ่านมา ที่มีกำหนดความเร็วและเวลา

โดยการลงชื่อเข้าใช้ Google Station นั้น ผู้ใช้งานก็ต้องผ่านด่านโฆษณานิดหน่อย ก่อนที่จะเข้าใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้มาลงโฆษณาแล้ว นั่นก็คือ Unilever ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ทั้งของกินและของใช้นั่นเอง โดยตอนนี้ก็ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามศูนย์การค้า และสถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และย่านชุมชนน่ารัก ๆ อย่าง ชุมชนทางรถไฟวังกรด จ.พิจิตร และถนนคนเดินเชียงคาน จ.เลย เข้าไปเช็กพื้นที่ให้บริการได้ ที่นี่ ถ้าเจอ @FreeGoogleStation-CAT แล้ว ก็ Connect ใช้งานฟรี ๆ กันได้เลย

Twitter @GoogleThailand

และสำหรับร้านค้าไหน พื้นที่ใด ที่สนใจให้บริการ Free WiFi ตัวนี้ ก็สามารถติดต่อกับทางโครงการฯ ได้ โดยเจ้าของพื้นที่ก็จะได้รายได้จากการให้บริการ Free Wi-Fi ด้วย ใครสนใจ ก็ติดต่อกันได้เลย

จริง ๆ แล้ว Free WiFi ในลักษณะแบบนี้ EGG Digital เคยเปิดให้บริการมาก่อนหน้านี้แล้ว ในชื่อว่า “WiFi Play” ที่ให้ใช้อินเทอร์เน็ตฟรี 30 นาที ต่อการชมโฆษณา 15 วินาที เชื่อมต่อผ่าน Hotspot ของ TrueMove H ซึ่งผู้ลงโฆษณาตอนนั้น ก็คือ Unilever เช่นกัน

** EGG Digital ขณะนั้นอยู่ภายใต้กลุ่มทรู ตอนนี้ย้ายไปอยู่ภายใต้กลุ่มแอสเซนด์แทน ซึ่งทรูกับแอสเซนด์ ก็เป็นบริษัทลูกของกลุ่มซีพีเช่นกัน

“Academy Bangkok – A Google Space” ศูนย์ฝึกอบรมทักษะและความรู้ด้านดิจิทัล

ต่อจากลอนดอน ก็คือกรุงเทพฯ ของเรานี่เอง สำหรับ Google Space ศูนย์ฝึกอบรมทักษและความรู้ในด้านดิจิทัล ที่ช่วยในการผลักดันบุคลากรที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย Google เชื่อว่าที่นี่ จะสามารถช่วยให้ธุรกิจได้บุคลากรที่มีความเป็นเลิศด้านดิจิทัล และช่วยบ่มเพาะทักษะเฉพาะทางสอดคล้องกับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

สำหรับ Google Space ในประเทศไทย มีชื่อว่า “Academy Bangkok – A Google Space” รองรับนักศึกษาได้ประมาณ 150 – 200 คน ต่อครั้ง ตั้งอยู่ที่ “True Digital Park” ซิลิคอนวัลเลย์สำหรับเหล่า Startup ในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Whizdom 101” ที่ยังมีคอนโด และคอมมูนิตี้มอลล์อีกด้วย ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS สถานีปุณณวิถี โดยมีแผนที่จะเปิดปลายปีนี้

Twitter @GoogleThailand

“YouTube ประเทศไทย” มาพร้อมบริการใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งคนดู ทั้งครีเอเตอร์

“ประเทศไทย” ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องครีเอทีฟ ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก (อย่างโฆษณาไทย ก็ได้เข้าชิงรางวัลใน Cannes Lions เป็นประจำทุกปี) อย่าง YouTube ประเทศไทย ก็ให้ความสำคัญกับผู้ผลิตวีดิโอทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการทีวีที่นำรายการมาปล่อยรีรันใน YouTube และเหล่า YouTuber ต่าง ๆ ที่สร้างคาแรกเตอร์ให้ตัวเองจนโด่งดังบนโลกออนไลน์กันมามากมาย

“YouTube ประเทศไทย” มีสถิติที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาในหลาย ๆ เรื่อง..

  • ประเทศไทยมีประชากร 66 ล้านคน (สิ้นปี 2560) มีผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพียง 42 ล้านคน ซึ่งดูน้อย เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ แต่ในทางกลับกัน Watchtime (เวลารวมในการดูจากทุกคนทั่วประเทศ) ติด 10 อันดับแรกของโลก
  • ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีการอัปโหลดคอนเทนต์สู่ YouTube ประเทศไทย รวมกันมากกว่า 2 ล้านชั่วโมง เติบโตเป็นสองเท่าของชั่วโมงการอัปโหลดรวมในปี 2559
  • มีช่องที่ได้ Silver Play Button (ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 แสนคน) มีมากกว่า 1,200 ช่อง มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน
  • มีช่องที่ได้ Gold Play Button (ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 1 ล้านคน) มีมากกว่า 100 ช่อง มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 2 ของเอเชียแปซิฟิก
  • มีช่องที่ได้ Diamond Play Button (ช่องที่มีผู้ติดตามเกิน 10 ล้านคน) 3 ช่อง ได้แก่ WorkpointOfficial, GMM GRAMMY OFFICIAL และ RsiamMusic ซึ่งประเทศไทยของเรา เป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีช่องที่ได้รางวัลนี้ไป

Brand Buffet

จากสถิติที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้ ทำให้ Google ตัดสินใจนำ “YouTube Pop-Up Space” มาสู่ประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง..

“YouTube Pop-Up Space” พื้นที่ที่เปิดให้เหล่าครีเอเตอร์ได้มาพอปะแลกเปลี่ยนไอเดียต่าง ๆ

“YouTube Pop-Up Space” เป็นอีกหนึ่งโครงการของ Google ที่มาทำในประเทศไทย เป็นที่แรกของเอเชีย ซึ่งเคยจัดมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในปี 2559 ซึ่งที่ผ่านมา มีเหล่าครีเอเตอร์มาร่วมผลิตคอนเทนต์ที่นี่ รวมกันมากกว่า 100 คลิปแล้ว สำหรับ YouTube Pop-Up Space ที่จะจัดอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ให้เหล่าครีเอเตอร์ได้มาใช้งานกัน ทั้งสตูดิโอ ระบบแสง สี เสียง รวมไปทั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง 360 องศา และ VR

Twitter @GoogleThailand

ซึ่ง “YouTube Pop-Up Space” ในครั้งนี้จะพิเศษกว่าครั้งก่อน ๆ เพราะได้นำอีก 2 กิจกรรม มาอยู่ร่วมกับ YouTube Pop-up Space อีกด้วย ได้แก่..

“YouTube Next Up” โครงการที่ให้เหล่าครีเอเตอร์เข้าร่วมเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์

โครงการที่ทีมงาน YouTube จัดขึ้น เพื่อสนับสนุนเหล่าครีเอเตอร์ขนาดกลาง ที่มีศักยภาพและมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ โดยจะมีเวิร์กช็อปในการสร้างสรรค์ผลงานคอนเทนต์ดี ๆ ออกสู่ผู้รับชม ตั้งแต่ก่อนการผลิต ไปจนถึงหลังการผลิต โดยมีวิทยาการผู้เชี่ยวชาญจากวงการนี้ มาทำการสอน และการสนับสนุนจากทีมงานของ YouTube เอง ทั้งหมดนี้ จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน

Twitter @GoogleThailand

“YouTube Creator for Change” เปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์สร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางบวก

โครงการระดับโลกของ YouTube ที่เปิดโอกาสให้เหล่าครีเอเตอร์ได้ใช้พื้นที่ของ YouTube ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดียิ่งขึ้น โดยทาง YouTube จะสนับสนุนให้เหล่าครีเอเตอร์ได้เข้าร่วม Section ต่าง ๆ ที่จะเชิญองค์กรที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น ๆ มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนปัญหา แนวทางการแก้ไข รวมไปถึงการระดมทุน ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

โดยหัวข้อที่ทาง YouTube ได้นำมาสู่ประเทศไทย จะมุ่งเน้นไปที่ปัญหาของความอคติโดยไม่รู้ตัว (Unconscious Bias) ความเกลียดชังในสังคม (Social Hatred) และการเช็กก่อนแชร์

Twitter @GoogleThailand

“YouTube Go : Video Data Pack” ดูคลิปไม่อั้นตลอดเดือน ผ่านแอป YouTube Go ในราคาเท่ากับก๋วยเตี๋ยวสองชาม

ไม่ได้มีเพียงเหล่าครีเอเตอร์เท่านั้นที่ทาง YouTube ได้ขนโครงการต่าง ๆ มาให้ สำหรับผู้ใช้เอง ก็มีเช่นกัน อย่างแอปที่มีชื่อว่า “YouTube Go” เป็นแอปหนึ่งในซีรีส์ของ “Android Go” ที่ออกแบบมาให้ตัวแอปเอง กินทรัพยากรของเครื่องให้น้อยที่สุด ซึ่งเหมาะสมกับโทรศัพท์มือถือที่สเปกไม่ได้แรงมากนัก

สำหรับ “YouTube Go” เอง ได้ให้คนไทยได้ดาวน์โหลดมาใช้กันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ที่จะเพิ่มเติมเข้ามาตอนนี้ จะเป็น “YouTube Go: Video Data Pack” ที่ให้ผู้ใช้บริการของ AIS ได้ดูคลิปต่าง ๆ จาก YouTube ผ่านแอป “YouTube Go” ได้ไม่อั้น ไม่หักดาต้าจากแพ็กเกจปกติ โดยมีค่าบริการเพียง 59 บาท/เดือน

Twitter @GoogleThailand

“Google Maps Motorbike Mode” แนะนำเส้นทางการเดินทาง สำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ

บนท้องถนนบ้านเรา สิ่งหนึ่ง ที่คนไทยทุกคนเห็นกับตาก็คือ “มอเตอร์ไซค์นี่เยอะจริงเชียวนะคุณผู้โชมมม” หนึ่งในเหตุผลที่รถจักรยานยนต์เยอะขนาดที่มีผู้เดินทางด้วยวิธีนี้กว่า “20 ล้านคน” ก็คงจะเป็นเพราะความสะดวกสบายในการขับขี่ ซอกแซกได้ในทางที่แคบ ๆ ทั้งซอยต่าง ๆ และช่องว่างระหว่างรถในขณะที่รถแสนจะติด

Twitter @daradaily

จากเหตุผลนี้ ประกอบกับการที่ใช้ Google Maps แบบ Car Mode มาแนะนำเส้นทางให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ น่าจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นัก เพราะบางเส้นทางที่รถจักรยานยนต์ใช้ไม่ได้ แต่ระบบดันแนะนำ แต่บางเส้นทางที่รถจักรยานยนต์เข้าได้ โดยที่รถยนต์ทั่วไปเข้าไม่ได้ ระบบกลับไม่แนะนำ Google ประเทศไทย จึงได้นำ “Motorbike Mode” มาให้ใช้บริการ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดให้ใช้บริการที่ประเทศอินเดียมาแล้ว และเปิดให้บริการที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกับประเทศไทย

จากการที่รถจักรยานยนต์สามารถซอกแซกเส้นทางได้ดีกว่ารถยนต์ การพัฒนาฟีเจอร์นี้จะมาจากการนำข้อมูลของผู้ขับขี่นับหมื่นคน มาผนวกกับ Machine Learning ของ Google และสร้างแบบจำลองที่ทำให้การคาดคะเนเวลาที่จะถึงจุดหมายปลายทางได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่เรากดให้นำทางจากบ้านของเราไปที่ทำงาน แอปอาจจะแสดงผลมาว่า “1 ชั่วโมงถึง” ใน Car Mode แต่ถ้าเป็น Motorbike Mode ก็อาจจะได้เวลาที่เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม

Twitter @GoogleThailand

ซึ่งฟีเจอร์นี้ จะปรับเส้นทางให้เหมาะสมกับจักรยานยนต์ โดยเพิ่มช่วงถนนมากกว่า 3,000 จุด เพิ่มถนนใหม่ ๆ กว่า 4,500 กิโลเมตร และระบุช่วงถนนที่รถจักรยานยนต์ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้กว่า 7,500 จุด ซึ่งตอนนี้ Motorbike Mode ก็ได้เปิดให้ใช้บริการบน Google Maps เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนไหนที่ขี่รถจักรยานยนต์ สามารถลองใช้กันได้เลย

ตัวผู้เขียนเองสังเกตว่า แอปเรียกรถชื่อดังอย่าง Grab ที่มีบริการ GrabBike การคำนวณค่าบริการ จะคำนวณจากเส้นทางที่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะปรากฎราคาให้เห็นก่อนที่จะขึ้นรถจักรยานยนต์เลย ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า การที่ Google Maps มีฟีเจอร์นี้ขึ้นมา อาจจะทำให้ GrabBike คำนวณค่าบริการจากเส้นทางที่สั้นลงกว่าเดิม และมีค่าบริการที่ถูกลง

“Google My Business” สิ่งที่ทำให้ SME เข้าถึงโลกดิจิทัลได้ง่ายยิ่งขึ้น

ถ้าช่วงนี้ใครได้เข้าไปดูคลิปต่าง ๆ ใน YouTube นอกจากโฆษณา Netflix ที่เราเห็นกันบ่อยมาก อีกเจ้านึงที่เราเห็นไม่น้อยไปกว่ากัน ก็คงเป็น “Google My Business” (ตัวผู้เขียนเอง ดูจนจะจำคำพูดในโฆษณาได้หมดแล้ว !) จากปี 2560 ธุรกิจในไทยทั้งหมด กว่า 99.7% เป็น SME การจ้างงานทั้งหมด กว่า 78% ก็อยู่ที่ SME 42% ของ GDP ประเทศไทย มาจาก SME และการเติบโตของ SME ยังรวดเร็วกว่าการเติบโตของธุรกิจขนาดใหญ่ กว่า 1.7 เท่า

จากการโปรโมตของ Google ทั้งบนสื่อออนไลน์ และสื่อทีวี ที่พยายามชักชวนให้คนไทยค้นหาร้านค้าต่าง ๆ ใกล้ ๆ ตัว ผ่าน Google ให้มากยิ่งขึ้น โดยการค้นหาด้วยคำว่า “…ประเภทของร้าน… ใกล้ฉัน” เช่น ร้านปะยางใกล้ฉัน ร้านขายยาใกล้ฉัน ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การค้นหาคำว่า “ร้าน” มากขึ้น 2 เท่า ในช่วงปี 2559 – 2561 และคำว่า “ใกล้ฉัน” มากขึ้น 3 เท่า ในช่วงปี 2560 – 2561

Twitter @GoogleThailand

“Google My Business” บริการจาก Google ซึ่งเปิดให้ร้านค้าในไทยได้ใช้กันตั้งแต่ปี 2557 เป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้ร้านค้าบนโลกออฟไลน์ มีตัวตนในโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทั้งการค้นหาข้อมูลของร้านบน Google Search และการนำทางบน Google Maps ซึ่งมากไปกว่านั้น ร้านค้ายังสามารถ..

  • สร้างเว็บไซต์ ควบคุม ปรับเปลี่ยนข้อมูล ได้ฟรี
  • เข้าถึงลูกค้าโดยตรงผ่านการโทร รีวิว และตอบคำถาม บนหน้าเว็บไซต์ Google
  • และสามารถเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้า เพื่อนำมาปรับใช้กับบริการของตนเองได้อีกด้วย

เมื่อมีผู้คนมาตั้งคำถามหรือคอมเมนต์ร้านของเราบน Google เจ้าของร้านก็สามารถตอบคอมเมนต์นั้นได้เลย – Google

จากเดิม ที่การยืนยันตัวตนว่าร้านค้านี้มีอยู่จริง Google จะส่งไปรษณีย์ไปที่ที่อยู่ของร้านค้านั้น ประหนึ่งคล้าย ๆ กับ One Time Password ที่ใช้ในการยืนยันตัวตน แต่จากนี้เป็นต้นไป ขั้นตอนนี้จะทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยการจับมือกับ “ธนาคารไทยพาณิชย์” ผู้ให้บริการสินเชื่อ SME แก่ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ

ซึ่งการร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้การยืนยันตัวตนของร้านเป็นเรื่องที่สะดวกยิ่งขึ้น แทนที่จะต้องรอไปรษณีย์ แต่จะเป็นการที่พนักงานจากธนาคารฯ จะเดินทางไปถึงหน้าร้านด้วยตัวเองเลย การร่วมมือนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ ได้เข้าถึงโลกออนไลน์ ได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น

Twitter @GoogleThailand

จากบริการที่ Google ประเทศไทยได้เปิดตัวในครั้งนี้ ในแง่มุมของคนทำคอนเทนต์ ก็น่าจะได้รับประโยชน์ไปอย่างไม่น้อยเช่นกัน ทั้งการที่มีอินเทอร์เน็ตให้บริการในที่ต่าง ๆ ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ของเราได้มากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นคนทำคอนเทนต์ในฝั่ง YouTuber ที่มีเวิร์กช็อปดี ๆ มาให้ร่วมเรียนรู้ และสตูดิโอ อุปกรณ์ เครื่องมือมากมาย ที่ช่วยให้เหล่าครีเอเตอร์สร้างสรรค์ผลงานให้โดนใจผู้ชมมากยิ่งขึ้น

Google ประเทศไทย ไม่หยุดปล่อยบริการใหม่ ๆ เพียงแค่นี้แน่นอน แล้วเมื่อมีบริการใหม่ ๆ ทาง Content Shifu จะนำข่าวคราวดี ๆ มาบอกต่อกันให้ ในโอกาสต่อ ๆ ไปอีกนะครับ 😀