Google Year in Search 2020: คนไทยค้นหาอะไรบ้าง? คำแนะนำจาก Google สำหรับแบรนด์ [Free Report]

ปี 2020 ที่ผ่านมา เราทุกคนผ่านวิกฤตการณ์ใหญ่ๆ อย่างแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้เราต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน มีมาตรการ Lockdown ปิดห้างร้านต่างๆ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้ ก็ส่งผลให้เกิดสภาวะ “New Normal” ผู้คนเกิดพฤติกรรมและนิสัยใหม่ๆ ขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นนิสัยที่ยังดำรงต่อไป

สอดคล้องกับพฤติกรรมการเสิร์ชของคนไทย ตาม Report: Year in Search จาก Google ที่เก็บสถิติการค้นหาของคนไทย ที่สะท้อนภาวะและพฤติกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยสกัดออกมาเป็น 5 เทรนด์ Google Search ที่แบรนด์ควรตามให้ทัน

ในภาวะที่เราไม่มีใครคาดเดาอนาคตได้นี้ Report และ Insight จริงจากผู้คน น่าจะพอให้เราคลำทางได้มากขึ้น พร้อมกันนั้น Google ก็ได้ให้ “Key takeaway” สิ่งที่แบรนด์ควรให้ความสนใจต่ออีกด้วย 

สรุป 5 เทรนด์ Google Search จากรายงาน Year in Search 2020

1. Individual Matter – ให้ความสำคัญกับปัจเจกหรือความเป็นบุคคลมากขึ้น

คนสนใจเรื่องของความแตกต่างกันมากขึ้น ให้ความสำคัญกับตัวเองและความเป็นปัจเจก (Individualism) โดยมีการเสิร์ชเรื่อง..

• การโดนรังแก หรือ “Bullying” มากขึ้นในปี 2020 ถึง +70% 
• เสิร์ชเรื่องเกี่ยวกับความเท่าเทียม “Equality” มากขึ้นถึง +40%

นอกจากนี้ อีกเทรนด์ที่คนไทยเสิร์ชเยอะขึ้นมาก ซึ่งน่าจะเป็นผลจากสถานการณ์ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา คือ คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ “โรคซึมเศร้า” +37% 

Key takeaway สำหรับแบรนด์และธุรกิจ

1. Consider the individual journey of each consumer หรือใส่ใจกระบวนการตัดสินใจและบริบทแวดล้อมของผู้บริโภคแบบรายบุคคลมากขึ้น ไม่ใช่แค่เหมารวม ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญ “Buy with your time” ของ Ikea ที่สามารถเปลี่ยนเวลาที่ใช้ในการเดินทางมาซื้อของแทนเงินสดได้จริงๆ 
2. Build for inclusivity into your brand ใส่ใจเรื่องความเท่าเทียมและสื่อสารว่าแบรนด์ใส่ใจในเรื่องนี้ ยกตัวอย่างเช่น เคสของ Google ที่แสดงออกว่าไม่เหมารวมกิจกรรมที่จำกัดเพศหรือคนบางกลุ่มที่สังคมเคยชิน 

2. Higher Purpose คนให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ใหญ่กว่าตัวเอง

 ผู้คนสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ใส่ใจสังคมมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

• คนเสิร์ช “หน้ากากผ้า” +600% มากกว่าคำว่า “หน้ากาก” ที่เสิร์ชมากขึ้นเพียง “+65%”
• คนเสิร์ช “กระทงรีไซเคิล” มากขึ้น +50%
• หรือเสิร์ชคำที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิล เช่น “สิ่งประดิษฐ์จากขวดพลาสติก” “ปลูกผักในขวดพลาสติก” “ดอกไม้จากขวดพลาสติก”

ผู้คนสนใจเรื่องการแบ่งปันสู่สังคมและการบริจาคมากขึ้น ยกตัวอย่างคำที่คนค้นหา เช่น

• “บริจาค โควิด” “บริจาคเสื้อผ้า 2563” “บริจาคผม 2563”
• “ตู้ปันสุข” “ตู้ปันสุขเชียงใหม่” “ตู้ปันสุข ใกล้ฉัน”

Key takeaway สำหรับแบรนด์และธุรกิจ 

1. Create new ways for consumer to connect with environment and each other หาทางใหม่ๆ ในการเชื่อมโยงทั้ง แบรนด์ + ลูกค้า + สิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญ “#ConverseCityForests” ของแบรนด์รองเท้า Converse ที่ร่วมมือกับศิลปินวาดรูป Graffity ด้วยสีที่สามารถช่วยฟอกอากาศได้ เป็นการเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้คนและสิ่งแวดล้อม

2. Make your values and internal practices externally visible สื่อสารคุณค่ามที่แบรนด์ให้ความสำคัญออกมาให้เห็นชัดๆ ยกตัวอย่างเช่น AIS ทำตู้รับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แล้ว เช่น โทรศัพท์ คีบอร์ด เมาส์ เป็นต้น เพื่อนำมาแยกแยะและหาวิธีจัดการอย่างถูกต้อง

3. Whole Selves เมื่อชีวิตทุกด้านปนกันไปหมด คนจึงหาวิธีแก้ไขปัญหาใหม่ๆ

จากสถานการณ์โควิดในปี 2020 ทำให้คนต้องอยู่บ้านมากขึ้น และ Work from Home ทำงานกันที่บ้านมากขึ้น ทำให้เส้นแบ่งชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัวพร่าเลือน เมื่อคนอยู่บ้านมากขึ้น ผู้คนจึงสนใจค้นหาสิ่งเหล่านี้

ผู้คนเสิร์ชหาสิ่งที่จะช่วย “Optimize” ชีวิตการทำงานที่บ้านให้ดีขึ้น เช่น

• คนเสิร์ชคำที่เกี่ยวข้องกับ “internet speed test” เพิ่มขึ้น +25%
• คนเสิร์ชเกี่ยวกับ “โปรเน็ต 200” มากขึ้น +12X เท่า
• รวมไปถึง “เก้าอี้ทำงาน” มียอดค้นหาเพิ่มขึ้น +34%

คนให้ความสนใจและความสำคัญกับการดูแลตัวเองมากขึ้น เช่น

• คนเสิร์ช “Serum” มากขึ้น +37% ในขณะที่คำที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางลดลง
• คนเสิร์ชเกี่ยวกับ “Yoga” ใน YouTube มากขึ้น +60%

และอีกหนึ่ง Insight ที่น่าสนใจมากๆ คือ พฤติกรรมการเสิร์ชของคน เลือกใช้คำที่เฉพาะเจาะจง (Specific) มากขึ้น ด้วยการเสิร์ชคำที่ยาวๆ (Niche long-tail keyword) มากกว่าคำค้นหลักเปลือยๆ (Seed keyword) ยกตัวอย่างเช่น

• “หม้อหุงข้าวลดน้ำตาล”
• “ผลไม้น้ำตาลน้อย”
• “โฟมล้างหน้าผู้ชาย”
• “โฟมล้างหน้าผิวแพ้ง่าย”

Key takeaway สำหรับแบรนด์และธุรกิจ 

1. Speak to your customer like a local พูดคุยภาษาเดียวกับลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น Google ที่ใช้ Google Ads เป็นภาษาไทย แม้คนเสิร์ชจะเสิร์ชเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม แต่เลือกใช้ภาษาไทยตามโลเคชั่นของผู้เสิร์ช ส่งเสริมให้ยอดคลิก (CTR) สูงขึ้น
2. Rethink your business boundaries เมื่อเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์ – ออฟไลน์หายไป การ Optimize และทำ Google My Business ให้คนจองหรือโทรเข้าหาแบรนด์ได้ทันที
3. Fit into consumers’ world เข้าใจและปรับตัวไปกับผู้บริโภค Google แนะนำว่า ให้ใช้ Broad Keyword หรือคนค้นกว้างๆ ในการทำโฆษณาและเลือกใช้ Resposive Search Ads ในการ Localize / Personalize เข้าหาคนแต่ละคนโดยเฉพาะ 

4. Sweet Relief ผู้คนยังคงมองหาความบันเทิงและวิธีคลายเครียด

จากสถานการณ์ที่ในปีที่ผ่านมา เทศกาลและงานบันเทิงต่างๆ เช่น คอนเสิร์ตต้องระงับไป อย่างไรก็ตาม คนไทยยังต้องการความบันเทิงและการคลายความเครียดจากสถานการณ์อยู่

ผู้คนเสิร์ชถึงความบันเทิงมากขึ้นและกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดที่บ้าน เช่น

• คนเสิร์ชเกี่ยวกับการทำอาหาร (cooking) มากขึ้น +81%
• คนเสิร์ชหา “Comedy movie” บน YouTube มากขึ้น +90%
• คนเสิร์ชหา “เก้าอี้เกมมิ่ง” มากขึ้นถึง +125%

นอกจากนี้ ผู้คนยังเสิร์ชเกี่ยวกับต้นไม้และการปลูกต้นไม้อีกด้วย

และนอกจากเรื่องความบันเทิงและการคลายเครียดให้ตัวเองแล้ว ผู้คนยังต้องการให้กำลังใจกันอีกด้วย เช่น

• คนเสิร์ชกลุ่มคนค้น “ของขวัญให้เพื่อน” “โอนเงินให้เพื่อน” “ให้กำลังใจเพื่อน”
• คนเสิร์ชคำว่า “เล่นเกมกับเพื่อน” มากขึ้นถึง +105% มากกว่า “game” ที่เสิร์ชมากขึ้นเพียง +28% 

Key takeaway สำหรับแบรนด์และธุรกิจ 

1. Make things in a fun way เมื่อคนเครียดแล้ว ก็ช่วยเขาคลายเครียด การทำ ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญของ Mars ช็อคโกแล็ตบาร์ ที่ส่งช็อคโกแล็ตให้กับคนที่เสิร์ชถามเรื่องหรือปัญหาชวนหงุดหงิดปนขำใน Google
2. Make it easier to share joy ยกตัวอย่าง แบรนด์ซอสปรุงรส Maggi ที่ผันตัวมาทำอาหารส่ง Delivery ให้กับฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่ไม่ทำอาหารเอง 

5. Future Proofing ท่ามกลางอนาคตที่ไม่แน่นอน คนมุ่งหาความมั่นคงมากขึ้น 

เมื่ออนาคตยุคหลังโควิด-19 ยังพร่าเลือน ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้คนก็ให้ความสนใจกับการสร้างความมั่นคงมากขึ้นทั้งเรื่องของการพัฒนาตัวเองพัฒนาทักษะ เรื่องของการเงิน และเรื่องสุขภาพ เป็น 3 เรื่องที่คนให้ความสำคัญมากขึ้นกว่าทุกๆ ปี

ผู้คนสนใจเสิร์ชหาความรู้และคำค้นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตัวเอง เช่น

• “เรียนออนไลน์” มียอดเสิร์เพิ่มขึ้น +6X เท่า
• คนเสิร์ชคำว่า “Digital Marketing” มากขึ้นถึง +50%
• และอีกคีย์เวิร์ดที่คนไทยเสิร์ชมากที่สุดก็คือ คนค้นที่เกี่ยวข้องกับ “ขายของออนไลน์” มากขึ้นถึง +32%

 นอกจากเรื่องของการพัฒนาทักษะแล้ว ผู้คนก็ยังสนใจเรื่องความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น สนใจเรื่องการเงินมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น

• คนหาเรื่อง “พักชำระหนี้” มากขึ้นถึงกว่า +9X เท่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ
• คนเสิร์ชเรื่อง “เงินชดเชย” ถึง +200%
• คนสนใจเรื่องการลงทุนให้หุ้นมากขึ้น เสิร์ช “เปิดพอร์ต” สูงขึ้น +72%
• และมีการค้นหา “stock” ใน YouTube มากขึ้น +40%

และอีกเรื่องที่จะขาดไม่ได้ คือ เรื่องของสุขภาพ โดยคนไทยมียอดเสิร์ชเกี่ยวกับการดูแลตัวเองและการรักษาตัวเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

• คนเสิร์ช “Vitamins” สูงขึ้น +80%
• คนเสิร์ชเกี่ยวกับ “ฟ้าทะลายโจร” เพิ่มขึ้นถึง +233%
• และคนยังค้นหาวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับ “Fitness” ใน YouTube เพิ่มขึ้น +80%

Key takeaway สำหรับแบรนด์และธุรกิจ 

1. Communicate to empower your customer not overwhelm them สื่อสารกับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือพวกเขา ไม่ให้ข้อมูลล้นเกินไปจนไม่รู้เรื่อง ในเคสนี้ Google ยกตัวอย่าง การเขียน Terms & Conditions ในการติดตั้งแอปพลิเคชั่น ซึ่งนับรวมแอปฯ ยอดนิยมที่คนติดตั้งเยอะที่สุด ต้องใช้เวลาอ่านมากกว่าอ่านหนังสือ Harry Potter เสียอีก ทำให้คนอาจตัดสินใจไม่ใช้งาน
2. Make in easy for to act on information easily เมื่อคนใช้ Google ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ แบรนด์ก็น่าจะใช้ช่องทางนี้ในการให้ความรู้แก่เขา

Recognize the role brands can play in empowering people to grow their skillset อีกเทรนด์ใหม่ของการทำแบรนด์ คือ การช่วยกลุ่มปู้บริโภคพัฒนาทักษะของพวกเขา เช่น การเปิด Academy ของ Google อย่าง Grow with Google และ Saphan Digital ที่ทำคอร์สสอนให้ SMEs และบุคคลทั่วไปได้เรียน เป็นต้น

Year in Search 2020 ยังมียังมีสถิติการเสิร์ชที่น่าสนใจอีกมาก โดยแยกออกตามอุตสาหกรรมใหญ่ 6 อุตสาหกรรม

สนใจเพิ่มเติมสามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่ g.co/thsearchreport2020