ไทยรัฐกรุ๊ป เปิดตัวสื่อธุรกิจน้องใหม่ Thairath Money ในเครือไทยรัฐออนไลน์ต่อยอดคอนเทนต์ด้านเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน และเทคโนโลยี ที่ไม่ว่าใครก็เสพได้ เพื่อสนับสนุนคนไทยมี’การเงินดีชีวิตดี’ เปิดเวทีเชิญ 5 เซเลปการเงินแชร์เทคนิคสร้างความมั่งคั่ง

ไทยรัฐถือฤกษ์ดีวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับสื่อธุรกิจแบรนด์ใหม่ “Thairath Money” : การเงินดีชีวิตดี ในเครือไทยรัฐกรุ๊ป ต่อยอดผู้นำอุตสาหกรรมสื่อชั้นนำของไทย ซึ่งในงานนี้ นายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยรัฐทีวีและไทยรัฐออนไลน์ กล่าวถึงที่มาของ Thairath Money ที่จะเข้ามาพลิกโฉมคอนเทนต์ในแวดวงธุรกิจการเงิน และการลงทุนว่า เดิมไทยรัฐ เป็นที่รับรู้ของสังคมว่าเป็นแบรนด์สื่อสิ่งพิมพ์เก่าแก่ แต่ที่ผ่านมา เราไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง และ ท้าทายยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา นำมาซึ่ง แบรนด์ยอดนิยม Thairath Online และสื่อทีวีเบอร์ต้น Thairath TV นอกจากนี้ยังมี Thairath Plus, Thairath Sport และ Mirror

“Thairath Money” เป็นสื่อใหม่ ที่เรามองเห็นช่องว่างทางการตลาด และเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มีความสน ใจเฉพาะในแง่การเงินและการลงทุนโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ๆ ซึ่งเนื้อหาในแพลตฟอร์มดังกล่าว จะเข้ามาผนึกกับความแข็งแกร่ง ของหมวดข่าวเศรษฐกิจไทยรัฐ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในคนหมู่มาก ทั้งกลุ่มนักลงทุนและคนทั่วไปอยู่แล้ว

หัวใจสำคัญของ Thairath Money คือ ความเข้าใจในมุมคนเสพสื่อ และมีวิธีการนำเสนอเนื้อหาด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ยึดติดการสื่อข่าวแบบเดิมๆ บวกกับสไตล์การเล่าเรื่องที่ดึงเอาความรู้ของผู้เขียนออกมาเล่า (Storytelling) เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย และสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา

“ภายใต้ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป ไทยรัฐจะเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ใช้คอนเทนต์ในเรื่องราวของธุรกิจ การเงินและการลงทุน อย่างไทยรัฐมันนี่ ดึงดูด ครอบคลุมช่องทางที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ IG และ TikTok”

ขณะในงานนี้ยังมีการเปิดเวทีเสวนาสำคัญเชิญกูรูและไอดอลวงการการเงิน การลงทุนแนวหน้าของประเทศไทยมาร่วมพูดคุยกันใน Thairath Money Talk : การสร้างความมั่งคั่งกับการเงินหลากสไตล์ โดยแต่ละท่านได้ให้มุมมองในแง่การลงทุนและบริหารจัด การด้านการเงินหลากหลายรูปแบบภายใต้แนวคิด ทำอย่างไรให้เป็นผู้มีความสุขและมีอิสระทางการเงินไว้อย่างน่าสนใจ

นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้ก่อตั้ง อุ๊คบี และซิก เน็ตเวิร์ค ระบุว่า ความเสี่ยงในปัจจุบันที่หลายคนไม่ตระหนัก คือความเสี่ยงจากการไม่ลงทุน ท่ามกลางปัญหา “เงินเฟ้อ” เร่งตัวมูลค่าของเงินที่ถือ หรือสินทรัพย์ที่มีอยู่ จะลดลงตามเงินเฟ้อในแต่ละปี ซึ่งในหลักการของการเริ่มลงทุน ง่ายๆ คือ เริ่มจากการไม่สร้างหนี้ และมองหาการลงทุน เพื่อปิดสวิตช์เงินเฟ้อ และหาโอกาสจากเงินเฟ้อไม่ว่าจะ บ้าน คอนโดมิเนียม หรือนาฬิกา ก็เป็นหน่วยลงทุนง่ายๆ ของคนรุ่นใหม่

ขณะเดียวกันประเมินการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี ยังมองว่าไปต่อได้ อยากให้แบ่งพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลายเพื่อบริหารความเสี่ยงและเลือกให้น้ำหนัก กับตลาดการลงทุนที่ตนเองมีความสนใจและเชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดความสนุกกับการลงทุนขณะสไตล์การลงทุนส่วนตัวนั้นเน้นการลงทุนในธุรกิจตนเอง กองทุนสตาร์ทอัพ และคริปโตฯ เป็นต้นด้าน นายพงศ์ธร ธาราไชย เจ้าของธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุน ที่ผันตัวเองเป็นอินฟลูเอนเซอร์ใน TikTok เจ้าของช่อง

p1forall ระบุว่า คนยุคนี้เหนื่อยและยากเข็ญกว่าคนยุคก่อน เพราะสิ่งเร้าเยอะ เช่น อยากมีเหมือนเพื่อน อยากประสบความสำเร็จเร็ว อยากร่ำรวย อยากมั่งคั่ง และมีความสุข แต่ไม่ได้คำนึงถึงการหารายได้ เป็นวัยที่ต้องการผู้นำ ไอดอล หรือสื่อดีๆ มาให้ความรู้ เพราะหลายคนสับสนกับความหมายของคำว่า “รวย” ซึ่งในมุมของตนเอง คำว่า รวย นั่นหมายถึง เป็นช่วงเวลาที่เราจะสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเงินจะหมด เพื่อสร้างอิสระทางการเงินให้กับตนเองอย่างแท้จริง ขณะ 3 สมการของ “การเงินดี ชีวิตดี” ต้องเริ่มด้วย

  1. มีความเข้าใจเรื่องการเงิน
  2. มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนแวดล้อม
  3. การมีสุขภาพที่ดี

ขณะ นายอรรถวัติ ศิริสิทธิธงไชย เซียนพระชื่อดังและนักลงทุนอิสระ เจ้าของฉายา “บอยท่าพระจันทร์” และ “กระเพาะปลาเปลี่ยนชีวิต” กล่าวถึงข้อคิดในการลงทุนว่า ก่อนจะเป็นเซียนต้องตายก่อน เป็นเรื่องไม่เกินจริง จากประสบการณ์ของตนเอง ซึ่งทำให้รู้ว่า ความรู้ในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งภายใต้ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนขึ้นและลง มองได้เป็นทั้งวิกฤติและโอกาส ถ้ามีองค์ความรู้ เหมือนที่เซียนหุ้นหลายคนสามารถรวยสวนจุดตกต่ำของตลาดได้

ทั้งนี้การลงทุนไม่ได้ถูกจำกัดแค่ตลาดใดตลาดหนึ่ง เช่น หุ้น ทองคำ หรือ คริปโตฯ ซึ่งจากประสบการณ์ของตนเองที่สามารถสร้างกำไรจากการลงทุนกระเพาะปลาสายพันธุ์กิมจี้ 20 ล้านบาท นั่นเพราะได้เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ “ราคาขาย” แต่เป็นการหาคนเช่า และคนซื้อให้เจอ สิ่งนั้นถึงจะมีมูลค่า

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ นักวางแผนทางการเงินชื่อดัง กล่าวว่า การวางแผนทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญในยุคปัจจุบัน ถ้าเงินเราหมด แต่เรายังไม่เสียชีวิต นั่นคือหายนะ ซึ่งการวางแผนดังกล่าว จะช่วยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ พร้อมมองว่า ในอดีตการยกระดับฐานะครอบครัวเป็นเรื่องยาก และแลกมาด้วยความพยายาม แต่ปัจจุบันแตกต่าง จากเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ฉาบฉวยมากขึ้น แม้จะมีรายได้สูง รวยเร็ว แต่อยากให้บันทึกรายรับ-รายจ่าย วางแผนการเงินให้เป็น และ เรียนรู้การลงทุน

โดยนิยามของ “คนรวย” คือ คนที่หาเงินได้มากกว่าที่ใช้ จึงอยากแนะให้คนรุ่นใหม่วางแผนการเงินให้ดี หัดออมเงิน เริ่ม 10 – 20% ของรายรับหรือหากมีโบนัสก็ออมเพิ่มเพื่อให้มีเงินฉุกเฉินรองรับ 6 เดือน และอย่าลืมที่จะลงทุนจัดพอร์ตตามความเหมาะสมของตัวเอง จะทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตจากการเงินที่ดี

ปิดท้าย นายปุริม รัตนเรืองวัฒนา นักแสดงและนักลงทุนอิสระ ระบุ ยิ่งใครที่มีอาชีพอิสระมีรายได้ไม่แน่นอน การวางแผนทางการเงิน และการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นยุคนี้ ที่แบกรับค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ดีคือมีโอกาสมากกว่าคนยุคก่อน เพราะการเกิดขึ้นของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง มีไอดอล ผู้รู้ในวงการมากมาย ให้ศึกษาหาความรู้ ต่างจากอดีตที่คนมักจะกลัวการลงทุนจากความเสี่ยงสูง ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ชีวิตดีต้องเริ่มจากการหางานให้เก่งเก็บเงินให้เป็นก่อนศึกษาและนำไปลงทุนอย่างเหมาะสม และไม่ลืมที่จะอัปเดตความรู้ใหม่ๆ พัฒนาตัวเองร่วมด้วย