Twitter ประกาศปล่อยอัปเดตใหม่อยากเป็นทางการสำหรับหน้า Professinal Profile เพื่อให้แบรนด์และเหล่าครีเอเตอร์สามารถใช้พื้นที่หน้า Feed บนทวิตนำเสนอความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ผ่านเครื่องหมาย Verified พร้อมกับลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย 

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Twitter ในทุกวันนี้คือชุมชนออนไลน์ที่กำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นในทุกๆ วัน ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ของตัวเองออกมาพูดใน Topic ที่ตัวเองสนใจ และยังสามารถสร้าง Story ของเราให้มีอิมแพคได้ผ่านปุ่มที่เรียกว่า ‘Retweet’ ส่งผลให้ข้อความของเราสามารถไปโผล่ในหน้าฟีดของคนอื่นๆ และสร้าง Engagement จากพวกเขาเหล่านั้นได้ ดังนั้น Twitter ในตอนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจของ Content Creators ในอุตสากรรมต่างๆ รวมถึงแบรนด์ที่ต้องการเข้าหาลูกค้าใหม่ๆ อีกด้วย

เอ๋ แล้วแบบนี้จะแตกต่างจากทวิตปกติยังไงบ้างละ? 

ความแตกต่างระหว่าง Professional Profile vs. Normal Profile

Twitter Professional Profile
รูปภาพจาก Twitter

ความแตกต่างก็คือ ‘ลูกเล่น’ ใหม่ๆ นั่นเอง Professional Profile จะเพิ่มฟีเจอร์ที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์ โดยฟีเจอร์ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการจะมีดังนี้

  1. Verification badge หรือ สัญลักษณ์ติ๊กถูกในกรอบสีฟ้าเพื่อบอกว่า Account ได้ถูก Verified จากทวิตเตอร์แล้ว 
  2. Business category หรือ ฟีเจอร์บ่งบอกประเภทธุรกิจที่คุณทำอยู่
  3. New business badge type หรือ ชื่อบริษัทของคุณ
  4. Business Information หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของคุณ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ เบอร์ติดต่อ หรืออีเมล

ซึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Normal Profile ปกติแยกแทบไม่ออกเลยว่าใช้ทวิตเตอร์ในการทำงานหรืออะไร อีกทั้งยังไม่ค่อยสะดวกสบายถ้าลูกค้าหรือใครต้องการติดต่อสอบถามจะต้องกดทักแค่ Direct Message เพียงเท่านั้น 

Twitter Professional Profile Feature
รูปภาพจาก Twitter

นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นพิเศษอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการซะทีเดียว ซึ่งบอกเลยว่าเหมาะกับธุรกิจขายของหรือ Content Creators อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น

  • ฟีเจอร์แสดง Product หรือ Service
  • ฟีเจอร์แสดงแอปพลิเคชั่น จาก Appstore
  • ฟีเจอร์รูปภาพแบบ Gallery 

และการปล่อยอัปเดตใหม่ตัวนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่แบรนด์สามารถให้ความสะดวกสบายกับลูกค้าได้มากและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งตัวทวิตเตอร์เองยังสามารถจัดแบ่งประเภท Account รวมถึงอาจจะใช้ฟีเจอร์สำหรับ Business Promotion ในอนาคตก็เป็นไปได้ 

ที่มาของข่าว : Socialmediatoday.com