Twitter ประกาศปล่อยอัปเดตใหม่อยากเป็นทางการสำหรับหน้า Professinal Profile เพื่อให้แบรนด์และเหล่าครีเอเตอร์สามารถใช้พื้นที่หน้า Feed บนทวิตนำเสนอความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ผ่านเครื่องหมาย Verified พร้อมกับลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Twitter ในทุกวันนี้คือชุมชนออนไลน์ที่กำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นในทุกๆ วัน ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ของตัวเองออกมาพูดใน Topic ที่ตัวเองสนใจ และยังสามารถสร้าง Story ของเราให้มีอิมแพคได้ผ่านปุ่มที่เรียกว่า ‘Retweet’ ส่งผลให้ข้อความของเราสามารถไปโผล่ในหน้าฟีดของคนอื่นๆ และสร้าง Engagement จากพวกเขาเหล่านั้นได้ ดังนั้น Twitter ในตอนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจของ Content Creators ในอุตสากรรมต่างๆ รวมถึงแบรนด์ที่ต้องการเข้าหาลูกค้าใหม่ๆ อีกด้วย
เอ๋ แล้วแบบนี้จะแตกต่างจากทวิตปกติยังไงบ้างละ?
ความแตกต่างระหว่าง Professional Profile vs. Normal Profile

ความแตกต่างก็คือ ‘ลูกเล่น’ ใหม่ๆ นั่นเอง Professional Profile จะเพิ่มฟีเจอร์ที่ดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์ โดยฟีเจอร์ที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการจะมีดังนี้
- Verification badge หรือ สัญลักษณ์ติ๊กถูกในกรอบสีฟ้าเพื่อบอกว่า Account ได้ถูก Verified จากทวิตเตอร์แล้ว
- Business category หรือ ฟีเจอร์บ่งบอกประเภทธุรกิจที่คุณทำอยู่
- New business badge type หรือ ชื่อบริษัทของคุณ
- Business Information หรือ ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทของคุณ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ เบอร์ติดต่อ หรืออีเมล
ซึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Normal Profile ปกติแยกแทบไม่ออกเลยว่าใช้ทวิตเตอร์ในการทำงานหรืออะไร อีกทั้งยังไม่ค่อยสะดวกสบายถ้าลูกค้าหรือใครต้องการติดต่อสอบถามจะต้องกดทักแค่ Direct Message เพียงเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นพิเศษอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการซะทีเดียว ซึ่งบอกเลยว่าเหมาะกับธุรกิจขายของหรือ Content Creators อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น
- ฟีเจอร์แสดง Product หรือ Service
- ฟีเจอร์แสดงแอปพลิเคชั่น จาก Appstore
- ฟีเจอร์รูปภาพแบบ Gallery
และการปล่อยอัปเดตใหม่ตัวนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่แบรนด์สามารถให้ความสะดวกสบายกับลูกค้าได้มากและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งตัวทวิตเตอร์เองยังสามารถจัดแบ่งประเภท Account รวมถึงอาจจะใช้ฟีเจอร์สำหรับ Business Promotion ในอนาคตก็เป็นไปได้
ที่มาของข่าว : Socialmediatoday.com