Clarity คืออะไร?


Clarity คือ เครื่องมือใช้งานฟรีจาก Microsoft ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของ Website User ว่ามีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของคุณมากน้อยแค่ไหน ผ่านฟีเจอร์ Heatmap และ Recording ที่ช่วยทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงแก้ไขเว็บไซต์ให้มี User Experience (UX) ที่ดีมากยิ่งขึ้น

Microsoft Clarity เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์แบบฟรีจาก Microsoft ที่ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ และปรับปรุงการใช้งานเว็บให้ดีขึ้น ผ่านฟีเจอร์ Heatmap และ Recording ที่ช่วยทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงแก้ไขเว็บไซต์ให้มี User Experience (UX) ที่ดีมากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์เด่นๆ ของ Clarity ได้แก่

  • Heatmaps
    Heatmaps คือเครื่องมือที่ช่วยแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ทำอะไรบ้างในหน้าเว็บของเรา เช่น คลิกตรงไหน เลื่อนหน้าจอถึงส่วนไหน หรือจุดไหนที่คนสนใจมากที่สุด จะช่วยให้เรารู้ว่าคอนเทนต์ไหนมันโดนใจคนอ่าน หรือบางพื้นที่ที่เราอาจคิดว่าสำคัญ คนกลับไม่สนใจเลย เราก็เอาไปปรับปรุงได้ ให้เหมาะสมขึ้น
  • Session Recordings
    ฟีเจอร์นี้เหมือน CCTV สำหรับเว็บไซต์ โดยมันจะบันทึกวิดีโอการใช้งานของผู้ใช้ในเว็บเรา เช่น เขาเข้ามาแล้วทำอะไร คลิกตรงไหน หรือเลิกใช้งานเพราะอะไร เหมาะมากในการหาว่ามีตรงไหนที่ทำให้คนใช้งานไม่สะดวก เช่น ปุ่มกดยาก ฟอร์มยาวเกิน หรืออะไรที่คนอ่านแล้วงง
  • Insights Dashboard
    ถ้าจะให้เปรียบ ก็คือเหมือนมีแผงควบคุมใหญ่ที่รวบรวมทุกอย่าง เช่น สถิติคนเข้าเว็บ แนวโน้มต่างๆ หรือว่าช่วงเวลาไหนเว็บเราคึกคัก สามารถคลิกดูข้อมูลต่างๆ ได้จากที่เดียว ไม่ต้องเสียเวลาไปเจาะลึกหลายที่
  • Funnel Analytics
    Funnel Analytics เอาไว้ดูว่าในกระบวนการต่างๆ บนเว็บ เช่น การซื้อของหรือการกรอกฟอร์ม มีคนหลุดออกไปที่จุดไหนบ้าง เช่น คนเข้าหน้าตะกร้าสินค้าเยอะมาก แต่พอมาถึงหน้าชำระเงิน คนหายไปเกินครึ่ง เราจะได้รู้ว่าต้องปรับปรุงอะไรตรงจุดนั้นเพื่อไม่ให้ลูกค้าหาย
  • Rage Click Detection
    ช่วยจับพฤติกรรมที่คนคลิกซ้ำๆ เช่น คลิกปุ่มที่ไม่ทำงานหรือลิงก์ที่กดไม่ได้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเว็บเราอาจมีปัญหาและสามารถแก้ไขได้ทัน
  • Scroll Depth Tracking
    ฟีเจอร์นี้ช่วยวัดการเลื่อนหน้าจอของผู้ใช้ เช่น ถ้าบทความยาวๆ มีคนเลื่อนแค่ 50% แปลว่าเนื้อหาช่วงล่างๆ อาจไม่มีคนสนใจ หรือคนอ่านไม่ไหวเพราะดูน่าเบื่อเกินไป
  • Unlimited Traffic
    ม่มีขีดจำกัดว่าเว็บไซต์เล็กหรือใหญ่ ไม่ต้องกลัวว่าถ้าคนเข้าเยอะ ข้อมูลจะตกหล่น
  • Privacy Compliance
    รองรับ GDPR (กฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของยุโรป) และ CCPA (ของแคลิฟอร์เนีย) มีฟีเจอร์ปกปิดข้อมูลเพื่อไม่ให้หน้าจอผู้ใช้ที่บันทึกมีข้อมูลที่เป็นส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรเครดิต

ลองรับชมหน้าตาของ Clarity และรีวิวการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้จากวิดีโอ


Feature Overview


  • Dashboard
  • Recordings
  • Heatmaps

Clarity ดีไหม? เหมาะกับใคร?


จุดเด่นของ Clarity

  • ข้อมูลเชิงภาพที่เข้าใจง่าย: ช่วยให้เรามองเห็นและเข้าใจวิธีที่ผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บไซต์ของเราได้ง่าย เช่น คลิกตรงไหน สนใจอะไร หรือเจอปัญหาตรงไหน ทำให้สามารถปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานได้ตรงจุด
  • ช่วยปรับปรุงการใช้งานเว็บไซต์: ด้วยฟีเจอร์เด่นอย่าง Heatmaps และ Session Recordings เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจปรับปรุงหน้าเว็บโดยอิงจากข้อมูลจริง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกให้ผู้ใช้งาน
  • เรียลไทม์และรองรับการใช้งานขนาดใหญ่: ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กๆ หรือบริษัทใหญ่ๆ Clarity รองรับการติดตามการใช้งานได้ไม่จำกัด ทั้งจำนวนผู้ใช้งานและปริมาณทราฟฟิก โดยไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม

Clarity แนะนำสำหรับ

  • Business Owner ที่มีเว็บไซต์
  • Website Owner 
  • UX/UI Designer
  • Content Marketer 
  • Digital Marketer หรือ Online Marketer
  • SEM Marketer
  • SEO Marketer 
  • Content Writer 
  • Content Creator

ภาพรวมของ Clarity


Clarity ราคาเท่าไร?


Microsoft Clarity ใช้งานได้ฟรี ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่ออัปเกรดเป็นพรีเมียมเลย เพราะทาง Microsoft ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมได้

Explore Tech Tools น่าสนใจ ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น