ก่อนหน้าที่เราจะปล่อยเว็บเวอร์ชันรีแบรนด์ของพวกเรา อันที่จริงแล้วก็ดันมีเจ้าใหญ่อีกเจ้าชิงประกาศรีแบรนด์ตัดหน้าไปก่อน ?

นั่นก็คือGoogle AdWordsซึ่งรีแบรนด์เป็นGoogle Ads‘ ตามที่ประกาศไว้ในหน้าบล็อกของ Google AdWords

คิดว่าหลายคนที่ได้ติดตามอยู่คงได้ยินเรื่องนี้มาเรียบร้อยแล้ว แต่ก็อาจจะมีบางท่านที่ยังไม่ทราบในรายละเอียด

บทความนี้จะขอสรุปแบบสั้นๆ เป็นภาษาไทยเข้าใจง่าย และที่สำคัญคือแถมบทวิเคราะห์ให้เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย (ได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งมาจาก clixmarketing.com)

และสำหรับคนเวลาไม่เยอะ เราขอเวลาของคุณแค่ 1-2 นาทีเพื่ออ่านข่าวนี้

Google Ads มาแทน Google AdWords มีอะไรน่ารู้บ้าง

1. การโฆษณานั้นมีรูปแบบหลากหลายมากข้ึน

Google AdWords เปิดตัวมาตั้งแต่เมื่อ 18 ปีที่แล้ว (ปี 2000) ในยุคที่ Search Engine ของ Google ยังเน้นแสดงผลเป็นข้อความ แต่อย่างที่เราเห็นๆ กันในยุคนี้ โปรดักส์ของ Google ไม่ได้มีแค่ Google ที่เป็น Search Engine อีกต่อไปแล้ว อีกทั้งโฆษณาในยุคนี้ก็ไม่ได้มีแค่คำ‘ หรือข้อความแล้ว จึงตัดคำว่า ‘Words' ออก เปลี่ยนเป็น Ads เฉยๆ ซึ่งครอบคลุมการโฆษณาหลากหลายแบบ หลากหลายฟอร์แมตมากขึ้น และหลายโปรดักส์ของ Google

2. เครื่องมือใหม่ที่เฟรนลี่กับ SMEs มากขึ้น

หากได้อ่านดูจะพบว่า เขาพยายามจะทำให้ Google Ads รองรับกลุ่ม SMEs ได้ดีมากยิ่งขึ้น เฟรนลี่กับกลุ่มนี้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น Google Local Service Ads ที่เพิ่งปล่อยออกมา  รวมไปถึงฟีเจอร์ Smart Campaigns เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ (ที่ปัจจุบันมักจะศึกษาการลงโฆษณาด้วยตนเอง หรือมีทีมและระดับพื้นฐาน) สามารถลง Ads ที่ซับซ้อนขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี Machine Learning

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Campaigns ได้ที่นี่

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google for Small Business ได้ที่นี่

โดยส่วนตัวคิดว่าน่าสนใจ เพราะเมื่อดูจากผู้ประกอบการไทยปัจจุบันนี้ หลายท่านเรียนรู้ที่จะลง Facebook Ads ด้วยตัวเองและทำได้เป็นอย่างดี แต่กับ Google AdWords ยังมีสัดส่วนผู้ประกอบการไทยลงด้วยตนเองน้อยกว่า (ไม่ได้มีสถิติรองรับแต่มาจากการสังเกตส่วนตัว) หลังจากนี้ถ้ามันฉลาดขึ้นและง่ายขึ้น ก็คงเป็นอีก Movement ที่น่าสนใจ

3. Google Marketing Platform ครบจบที่เดียวสำหรับบริษัทใหญ่

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงคือ การรวมเอาโซลูชันส์สองตัว อย่าง DoubleClick และ Google Analytics 360 (Google Analytics เวอร์ชันพรีเมียม) มารวมกันเป็นแพลตฟอร์มเดียว ตั้งชื่อว่า Google Marketing Platform

4. Google Ads Manager เพื่อดึงดูด Publisher

Google กำลังจะมีอีกโปรดักส์คือ Google Ad Manager เน้นเจาะกลุ่มเว็บที่เป็นสาย Publishers ให้สามารถหารายได้ได้จากกลุ่ม Audience ทั้งไลฟ์สด, Connected TVs, Accelerated Mobile Pages (AMP) แอปเกมมือถือ และแอปอื่นๆ

ตาคุณแล้ว

โซลูชันส์ต่างๆ เหล่านี้จะถูกปล่อยออกมาในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ เพราะฉะนั้นกลางเดือนนี้มีการบ้านใหม่ให้ต้องศึกษาอะไรใหม่ๆ สำหรับพวกเรารออยู่นะ 🙂