Blog

รวม Highlight งาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 พร้อม Marketing Tips จาก 5 แบรนด์ดัง

• 16 พฤษภาคม 2025

รวม Highlight Solutions ของจากงาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 พร้อม Case Study และ Tips จาก 5 แบรนด์ดัง

Share on

Share on

ปัจจุบัน ความก้าวหน้าของ AI และ Automation ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการการตลาดอย่างมหาศาล ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อลดต้นทุน ประหยัดเวลา และพุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้าที่ตรงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การทำให้ระบบ Automation และ AI ทำงานอย่างสมบูรณ์แบบต้องอาศัยการวางแผนและการใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง  

ในงาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 ที่ผ่านมา Meta ได้พูดถึงการพัฒนาโซลูชันในกลุ่ม Advantage+ Campaigns และ Messenger Tools เพื่อช่วยให้นักการตลาดและธุรกิจสามารถปรับปรุงการทำงานในทุกจุดของ Customer Journey ได้ตั้งแต่การสร้าง Lead จนถึงการปิดการขาย 

ยาวไป อยากเลือกอ่าน?

Advantage+ Campaigns: AI ที่ยกระดับการตลาดดิจิทัล  

ในยุคที่ข้อมูล (Data) และความเร็วกลายเป็นหัวใจของการตลาดดิจิทัล ความสามารถในการปรับเปลี่ยนแคมเปญอย่างรวดเร็วและแม่นยำเป็นจุดได้เปรียบสำคัญ Meta ได้นำเสนอ Advantage+ Campaigns ซึ่งผสาน AI และ Machine Learning เพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถเพิ่ม ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

1. Advantage+ Sales Campaigns  

Advantage+ Sales Campaigns (เดิมชื่อ Advantage+ Shopping Campaigns) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการโดยตรง สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ที่มีสินค้าหลายประเภท AI จะช่วยคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อนำเสนอให้ลูกค้าในเวลาที่พวกเขาต้องการ  

2. Advantage+ App Campaigns  

สำหรับธุรกิจที่มีแอปพลิเคชันเป็นช่องทางหลัก การเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสดาวน์โหลดแอปมากที่สุดเป็นภารกิจที่สำคัญ Advantage+ App Campaign จะทำการวิเคราะห์ User Insights เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อ Lead และเพิ่มโอกาสการใช้งานแอป  

รวม Highlight Solutions จากงาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 พร้อม Case Study และ Tips จาก 5 แบรนด์ดัง

Highlight Meta Solution 2025

ปี 2025 Meta โฟกัสที่การช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บ Quality Lead ได้แม่นยำและจำนวนเยอะขึ้น พร้อมทำงานกับ Automation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย Solution ใหม่

1. Advantage+ Lead Campaigns  

Advantage+ Lead Campaigns เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจที่เน้นการเก็บลูกค้าเป้าหมาย (Leads) AI จะช่วยปรับแต่งโฆษณาให้เข้าถึงกลุ่มคนที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการมากที่สุด  

2. เชื่อม CRM กับระบบของ Meta

รองรับการเชื่อมต่อระบบ Meta กับ CRM เพื่อ track journey ของลูกค้าได้ตั้งแต่ Submission ถึง Closing ด้วยการ Optimize Multiple Actions: ตัวอย่างเช่น Submission + Booking หรือ Submission + Call-back เป็นต้น 

Messenger เครื่องมือสร้าง Lead และ Sales ที่ธุรกิจยังใช้ไม่เต็มศักยภาพ  

จากการที่ผู้บริโภคต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วจากแบรนด์ Messenger ได้กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจในการปิดการขายและพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า แต่น่าเสียดายที่บางธุรกิจยังใช้เครื่องมือนี้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

งานนี้ Meta จึงได้หยิบความสามารถของเครื่องมือนี้มาขยายให้ทุกธุรกิจได้นำไปปรับใช้กัน 

ความสามารถหลักของ Meta Messenger  

1. การเพิ่มประสิทธิภาพ Lead

Messenger ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางแชต แต่ยังเป็นเครื่องมือในการติดตามลูกค้าที่ให้ความสนใจสินค้า เช่น การใช้ Messenger ในการ Follow-Up หรือเสนอส่วนลดเพิ่มเติมเพื่อปิดการขาย เป็นต้น

2. Purchase Optimization ด้วยฟีเจอร์ Mark as Paid  

ธุรกิจสามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อติดตามสถานะการขาย เช่น เมื่อลูกค้าชำระเงินแล้ว ธุรกิจสามารถส่งสัญญาณกลับไปที่ Meta Ads เพื่อ Optimize แคมเปญต่อไปได้แม่นยำมากขึ้น  

3. Conversion API  

เครื่องมือเพื่อวัดผลและปรับปรุงกระบวนการให้เป็นไปตามเป้าหมายของธุรกิจ  

สถิติที่ยืนยันความสำคัญของ Messaging Strategy  

– 80% ของลูกค้าชาวไทยชื่นชอบการติดต่อธุรกิจผ่าน Messenger

– 95% ของนักการตลาดเผยว่า Messenger ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์กับลูกค้าและ Customer Experience  

กรณีศึกษา: แบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จด้วย Meta Solutions  

1. Sansiri

Sansiri เป็นแบรนด์ที่ใช้ Meta Solutions อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหาบ้าน

ความท้าทายของ Sansiri

การจัดการกับ Touchpoint ของแบรนด์

เนื่องจากลูกค้าของ Sansiri สามารถเข้าถึงแบรนด์ได้หลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ คำถามสำคัญคือ จะรวบรวม Touchpoint เหล่านี้อย่างไร เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ Customer Journey ได้อย่างแม่นยำ?” เป้าหมายของ Sansiri คือการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และค้นหา Real Target ที่แท้จริง ซึ่งข้อมูลเชิงลึกจากระบบหลังบ้านของ Meta เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในกระบวนการนี้

การวัดผลที่จับต้องได้

แม้การสื่อสารทางการตลาดจะมีเป้าหมายด้านภาพลักษณ์หรือการรับรู้แบรนด์ แต่ผู้บริหารย่อมต้องการเห็นผลลัพธ์ที่สามารถวัดผลเป็นตัวเงินได้อย่างชัดเจน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ต้องมี โซลูชันที่แสดงให้เห็นว่า Ads Objective บนแพลตฟอร์มของ Meta สามารถเชื่อมโยงกับยอดขายจริงได้ ไม่ใช่แค่เพียงตัวเลข Impression หรือ Engagement

การปรับตัวด้วยเทคโนโลยีที่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า

เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น จากเดิมที่ลูกค้าอาจไม่ค่อยโต้ตอบ แต่ปัจจุบันเริ่มมีการแชทสอบถามข้อมูลมากขึ้น Sansiri ต้องมองหา AI หรือเทคโนโลยีที่สามารถช่วยตรวจจับแนวโน้มพฤติกรรมเหล่านี้ได้ และยังสามารถเข้ามาช่วยเสริมประสบการณ์ลูกค้า เช่น การตอบแชทอัตโนมัติแบบมีประสิทธิภาพ

รวม Highlight Solutions จากงาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 พร้อม Case Study และ Tips จาก 5 แบรนด์ดัง

Strategy  

Upper Funnel

  • Every Day… Life is Good ทุกวัน…ชีวิตดี: แคมเปญแบบ Always-on ของ Sansiri ที่มุ่งสร้างการจดจำแบรนด์ ให้ Sansiri เป็นชื่อแรกที่คนจะนึกถึงเมื่อต้องการซื้อบ้าน
  • ทำ Content Marketing ครอบคลุมทุกช่องทาง: เน้นสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ และจับมือกับครีเอเตอร์หลากหลายกลุ่ม เพื่อขยายการเข้าถึงและสร้าง Engagement อย่างต่อเนื่อง
  • สร้าง Brand Awareness ผ่านละครคุณธรรม: การเล่าเรื่องในรูปแบบที่เข้าถึงใจผู้ชม กลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาความสำเร็จด้านการสร้างการรับรู้แบรนด์ของ Sansiri

Middle Funnel

  • เจาะกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อบ้าน: ใช้แคมเปญ Always-on ที่เจาะลึกลงในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เช่น แบ่งตามช่วงราคา พื้นที่ หรือ Insight เฉพาะอย่าง “บ้านใกล้โรงเรียน” หรือ “คอนโดติดรถไฟฟ้า” เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม
  • ใช้ AI ของ Meta ช่วยระบุกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณภาพ: นำข้อมูลพฤติกรรมของผู้ที่เข้าชมอสังหาฯ มาใช้กับ Advantage+ Catalogue Ads เพื่อให้ระบบ AI ของ Meta เรียนรู้และช่วยคัดกรองเป็น Qualified Leads ได้อย่างแม่นยำ

Result

  • Advantage+ Catalogue Ads ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตั้งแคมเปญของ Sansiri ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น
  • ผลลัพธ์ที่ได้: Reach เพิ่มขึ้น +45%, Lead เพิ่มขึ้น +108% และคุณภาพของ Lead เพิ่มขึ้นอีก +10% ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของแคมเปญที่ดีขึ้นทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ

2. Central Group และ กรุงศรีออโต้

ความท้าทายของ Central Group

ต้องการเพิ่มยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์

แม้การทำการตลาดออนไลน์จะส่งผลต่อยอดขายออฟไลน์อย่างเห็นได้ชัด แต่ความท้าทายคือ จะติดตามผลอย่างไรให้แม่นยำ จึงจำเป็นต้องมีโซลูชันที่ช่วยให้เห็นภาพรวมแบบ Omni View เพื่อนำไปปรับปรุง Customer Journey ได้อย่างครบวงจร

ใช้ The 1 Card เชื่อมข้อมูลการซื้อขายระหว่าง Online และ Offline

Central Group ใช้ The 1 Card เป็นเครื่องมือในการติดตามข้อมูลลูกค้า เพื่อตรวจสอบและเปรียบเทียบพฤติกรรมของผู้ที่เห็นโฆษณาและผู้ที่ไม่ได้เห็น ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรในแต่ละ Journey

ธุรกิจต้องพร้อมเป็น Omni ให้ทันลูกค้า

เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและมีช่องทางให้เลือกมากขึ้น ธุรกิจต้องปรับตัวให้สามารถเชื่อมโยงและตอบสนองลูกค้าได้ในทุก Touchpoint อย่างไร้รอยต่อ

AI & Automation Tips จาก Central และ กรุงศรีออโต้

  1. ข้อมูลคือพื้นฐานของทุกสิ่ง: การมีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนคือจุดเริ่มต้นของการวัดผลว่าแคมเปญหรือกลยุทธ์ที่ทำไปนั้น คุ้มค่าหรือไม่ หากวัดผลได้ไม่ครบ ก็จะไม่รู้ว่า สิ่งที่ควรปรับจริง ๆ คืออะไร
  2. “Garbage in, garbage out” คือหลักการสำคัญของ AI: คุณภาพของผลลัพธ์จาก AI ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้อมูลที่ใส่เข้าไป หากข้อมูลไม่ดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะไม่แม่นยำ ดังนั้นต้องให้ความสำคัญกับความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูลตั้งแต่ต้น
  3. AI ให้คำตอบได้ แต่ไม่มีอารมณ์ความรู้สึก: เมื่อใช้ AI ไปนาน ๆ เราอาจชินกับคำตอบที่มันให้ แต่คำตอบเหล่านั้นไม่มี ความรู้สึก การใช้มนุษย์ในการสื่อสารยังคงสำคัญ เพื่อรักษาอารมณ์ ความสัมพันธ์ และความเป็นแบรนด์

3. เงินติดล้อ และ Open Durian  

ความท้าทายของเงินติดล้อ

ลูกค้ามักหาข้อมูลและสอบถามผ่าน Messaging ก่อนเดินทางมาสาขา

ช่องทางแชทจึงกลายเป็นจุดสำคัญที่สามารถปิดการขายได้ เงินติดล้อจึงพัฒนา Chatbot และสร้างระบบ Ecosystem เพื่อมอบประสบการณ์การสนทนาที่ดีให้กับลูกค้า โดยร่วมมือกับ Botnoi และใช้ Purchase Optimization ของ Meta เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขายผ่านแชท

ลูกค้าที่คลิกโฆษณาแล้วต้องได้รับประสบการณ์ที่ดี

การตอบคำถามให้ตรงประเด็นและสื่อสารอย่างชัดเจนไม่เพียงช่วยสร้างความเชื่อมั่น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อ ROI ของแคมเปญด้วย

Messenger Tips จากเงินติดล้อ และ Open Durian

  1. Messenger คือกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า: จากยอดขายรวมกว่า 400 ล้านบาทของ Open Durian มีถึง 50% มาจาก Facebook และกว่า 90% ของยอดขายจากช่องทางนี้ มาจากการพูดคุยผ่าน Messenger
  2. ใช้ฟีเจอร์ ‘Mark as Paid’ ทันทีหลังปิดการขาย: Open Durian ส่งสัญญาณกลับไปยังระบบโฆษณาของ Meta ได้ทันที เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการ Optimize แคมเปญในแบบเรียลไทม์
  3. ให้ความสำคัญกับการเก็บ Data จากแชทอย่างต่อเนื่อง: เงินติดล้อมีการติดตามว่าผู้ที่ทักเข้ามามีโอกาสปิดการขายมากน้อยแค่ไหน หรือเดินทางมาสาขาหลังจบบทสนทนาหรือไม่ การมีข้อมูลครบตั้งแต่ต้น ทำให้สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
รวม Highlight Solutions จากงาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 พร้อม Case Study และ Tips จาก 5 แบรนด์ดัง

เทคนิคเพิ่ม ROI ด้วย Meta Solutions จาก 5 แบรนด์ดัง

  • Advantage+ Catalogue Ads: เครื่องมือที่ช่วยให้การตั้งแคมเปญโฆษณาง่ายและประหยัดเวลามากขึ้น โดย Sansiri ทดลองใช้กับโครงการยูนิตพิเศษ และได้ผลลัพธ์ที่โดดเด่น
  • Bid Multiplier: ฟีเจอร์ที่ช่วยให้สามารถตั้งราคาประมูลโฆษณา (Bid) ให้แตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย ภายในชุดโฆษณาเดียวกัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีหลายสาขา หรือกลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมแตกต่างกัน
  • Messenger: ไม่ใช่แค่ช่องทางแชททั่วไป แต่คือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และไม่จำเป็นต้องรอให้พร้อม” สามารถใช้หัวใจและความจริงใจในการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้ใจและปิดการขายได้เลย
  • Chatbot: ใช้บทสนทนาบน Messenger เพื่อวิเคราะห์ว่า ลูกค้าอยู่ในขั้นตอนใดของการตัดสินใจซื้อ แล้วนำเสนอประสบการณ์หรือข้อเสนอที่เหมาะสมกับแต่ละรายให้ตรงจุด
รวม Highlight Solutions จากงาน Meta Marketing Summit Thailand 2025 พร้อม Case Study และ Tips จาก 5 แบรนด์ดัง

สรุป: ปลดล็อกศักยภาพด้วย AI และ Automation จาก Meta  

โลกของการตลาดได้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Automation ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ “เทรนด์” แต่เป็น เครื่องมือสำคัญที่ช่วยปลดล็อกศักยภาพของธุรกิจในทุกขนาด โดย Meta คือหนึ่งในผู้เล่นหลักที่พัฒนาโซลูชันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Advantage+ Campaigns, Messenger Tools, หรือการเชื่อมต่อกับ CRM เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ตอบสนองเร็ว และปิดการขายได้จริง

หัวใจสำคัญ คือ ไม่ใช่แค่ “ใช้เครื่องมือให้เป็น” แต่ต้อง ใช้ให้เหมาะกับพฤติกรรมลูกค้าในแต่ละช่วงของ Journey พร้อมกับเก็บ Data อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบ AI เรียนรู้และพัฒนาได้อย่างแม่นยำ

สรุปง่าย ๆ คือ ธุรกิจที่พร้อมใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด จะสามารถเปลี่ยนโฆษณาให้เป็นยอดขายและโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ!

Share on

Chama

Writer

Chama

ชมา Content Creator จาก Content Shifu - ชอบสังเกตกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และ Customer Experience ส่วนตัวสนใจเรื่อง Productivity ของคนทำงาน และกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับ ESG เวลาว่างมักใช้เวลาบน Netflix กับเรียลลิตี้และสารคดีอาชญากร

More From Me