ประชากรกว่าครึ่งโลกใช้ Internet และ Social Media ก็กลายเป็นอีกโลกหนึ่งที่คน 4 พันล้านคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน คุณอาจจะใช้ Social Media ในการทำงาน เรียนรู้ แลกเปลี่ยนข่าวสาร แต่อีกด้านหนึ่ง Social Media ได้ส่งผลเสียอย่างที่เราคาดไม่ถึง…

มีรายงานกล่าวว่ายิ่งเราใช้เวลากับ Social Media มากเท่าไร ยิ่งทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยวมากเท่านั้น และมีแนวโน้มเกิดภาวะซึมเศร้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย คุณอาจจะเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หลงในยอดไลก์ ยอดแชร์มากกว่าจะสนใจปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในชีวิตจริง

บทความนี้จะพาไปดูว่า Social Media จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเพื่อแก้ปัญหานี้

Social Media ตื่นตัวกับแคมเปญ “Time Well Spent”

ปัญหาการใช้ Social Media กำลังขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งผู้ให้บริการอย่าง Facebook, Instagram, Google ก็ตระหนักถึงปัญหานี้เช่นกัน บริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต่างแสดงความคิดเห็นว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทจะต้องแสดงความรับผิดชอบกับปัญหานี้อย่างจริงจัง และสร้างเครื่องมือที่ส่งผลเชิงบวกกับผู้ใช้

Time Well Spent เป็นแคมเปญที่กระตุ้นให้เราใช้เวลาบนโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงแอปพลิเคชันให้มีการป้องกัน User ใช้งานสมาร์ทโฟนมากเกินไป

ตัวอย่างผู้บริหารที่ตอบรับกับแคมเปญนี้ Mark Zuckerberg CEO ของ Facebook เมื่อต้นปี 2018 มาร์คเขียน “New Year’s Resolution” ว่าสนับสนุนให้ผู้คนมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น และตั้งใจจะทำให้การใช้เวลาบน Facebook มีคุณภาพดี เป็นไปในทิศทางบวก

รวมฟีเจอร์ที่ช่วยคุณใช้เวลาบนโลกโซเชียลอย่างมีคุณภาพ

Facebook และ Instagram มีเครื่องมือใหม่ช่วยจัดการเวลา

แฟลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Instagram ออกแบบแอปให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้อย่างมีคุณค่ามากขึ้น โดยการออกฟีเจอร์ช่วยจัดการเวลาเมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกันของผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและองค์กรต่างๆ คุณสามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้แล้วทั้งแอปพลิเคชันของ Facebook และ Instagram

ข่าว Facebook

ที่มารูป socialmediaexaminer.com

  • หน้า Dashboard จะแสดงเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันโดยเฉลี่ยในแต่ละวัน
  • คุณสามารถตั้งค่าจำกัดเวลาการใช้แอป และจะมีการแจ้งเตือนรายวันเมื่อคุณใช้เวลาครบตามที่กำหนด
  • ควบคุมการแสดง Notification

ที่มารูป twitter.com

Instagram ได้ออกฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการจัดการเวลามาก่อนหน้าแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยใช้ชื่อว่า “Usage Insights” (อยู่ตรงแถบด้านข้างของแอปพลิเคชัน) จะบอกว่าผู้ใช้มีการใช้แอปมากแค่ไหน และแจ้งเตือนเมื่อใช้เวลาบนแอปมากเกินไป เพื่อให้เกิดความตระหนักในการใช้งาน Instagram มากขึ้น

ฟีเจอร์คัดกรองเนื้อหาบน News feed

คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าบางฟีเจอร์บน Facebook นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด คำสั่ง See First, Hide, Unfollow, Keyword Snooze สามารถใช้คัดกรองเนื้อหาบน News Feed ได้

  • See First เลือกคนหรือเพจที่ต้องการติดตามให้ปรากฏบน News Feed ก่อน
  • Hide ให้คุณซ่อนบางโพสต์ หรือแสดงโพสต์ให้น้อยลงจากคน, เพจ และกรุ๊ปตามกำหนด
  • Unfollow ซ่อนทุกโพสต์จากคนที่เลือก
  • Keyword Snooze จะทำให้คุณไม่เห็นโพสต์ที่มี Keyword ตามที่คุณกำหนดเป็นเวลา 30 วัน

ที่มารูป marketingland.com

News Feed ของ Instagram ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ฟีเจอร์ Notification ชื่อ “You’re all caught up” จะทำให้ User รู้ว่าได้เห็นโพสต์เมื่อ 48 ชั่วโมงล่าสุดครบทั้งหมดแล้ว คราวนี้หมดปัญหาสำหรับคนที่ลืมว่าอ่านถึงตรงไหน 🙂

YouTube เพิ่มฟีเจอร์เตือนให้คุณ “หยุดดู”  

แต่ละคนอาจจะมีวัตถุประสงค์ใช้ YouTube แตกต่างกัน บางคนใช้เพื่อเรียนรู้ บางคนต้องการหาความสนุกสนาน บันเทิง แต่คุณเคยรู้สึกตัวเองใช้เวลากับ YouTube เยอะเกินไปหรือเปล่า? ดูคลิปแล้วคลิปเล่าแบบ Non-stop อยากหยุดดูแต่ก็หยุดไม่ได้…คุณอาจต้องการตัวช่วย

ที่มารูป techcrunch.com

YouTube ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่มากมายช่วยคุณสร้างนิสัยที่ดีบนโลกออนไลน์ คุณสามารถตั้งค่าเตือนเวลาหยุดพักได้ทุกๆ 15, 30, 60, 90 และ 180 นาที โดยวิดีโอจะหยุดชั่วคราวจนกว่าคุณจะกดเล่นต่อ

วิธีตั้งค่าฟีเจอร์นี้คือ ในหน้า Account เลือก Settings > General > Remind me to take a break แล้วกดเลือกความถี่ที่ต้องการจะหยุดพัก

เลือกรับ Notification แค่ครั้งเดียวต่อวัน

Notication ที่เด้งตลอดทั้งวันทำให้คุณเสียสมาธิหรือไม่? คุณสามารถเลือกรับ Notification ใน YouTube ทั้งหมดเพียงแค่ครั้งเดียวต่อวัน และกำหนดได้ด้วยว่าจะให้แจ้งเตือนที่เวลาใด ซึ่งจะรวมการแจ้งเตือนทั้งหมดให้คุณ เช่น คลิปวิดีโอใหม่, การถ่ายทอดสด, คอมเมนต์ใหม่ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเมื่อคุณเลือกใช้ฟีเจอร์นี้คุณจะไม่สามารถดูถ่ายทอดสดได้จนกว่ามันจะจบลง

วิธีเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้คือ ในหน้า Account เลือก Settings > Notifications > Scheduled digest แล้วกำหนดเวลาที่คุณต้องการรับ Notification

ที่มารูป techcrunch.com

สำหรับใครที่รำคาญเสียงเจ้า Notification ฟีเจอร์ใหม่นี้อนุญาตให้คุณปิดเสียงและปิดสั่นการแจ้งเตือนได้ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด เช่น ช่วงทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น หรือช่วงก่อนนอนจนถึงเช้าวันถัดไป เพียงแค่กดเลือก Settings > Notifications > Disable sounds & vibrations แล้วกำหนดเวลาเริ่มและสิ้นสุด (ค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่สี่ทุ่มถึงแปดโมงเช้าวันถัดไป)

มาดูประวัติการใช้งาน YouTube (เร็วๆ นี้!)  

อีกฟีเจอร์ที่กำลังจะออกในไม่ช้า ฟีเจอร์นี้จะทำให้คุณเห็นภาพรวมเวลาที่ใช้บน YouTube ได้ดีขึ้น ซึ่งจะแสดงเวลาที่คุณใช้โดยเฉลี่ย และเวลาที่คุณดูวิดีโอในวันนี้ เมื่อวาน และ 7 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือช่วยจัดการเวลาด้วยเช่นกัน

Google ออกแบบสมาร์ทโฟนให้ “โดนเมิน” จากผู้ใช้

Google ได้เปิดตัว Android P ในงาน Google I/O 2018 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยจัดการเวลาและติดตามการใช้งานของคุณ นอกจากนี้เพื่อแก้ปัญหาคนเสพติดสมาร์ทโฟนมากจนเกินไป Google จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ที่จะทำให้ผู้ใช้ ‘เมิน’ หน้าจอมากขึ้น

ที่มารูป marketingland.com

  • Dashboard แสดงระยะเวลาการใช้งานสมาร์ทโฟน แยกเป็นรายแอปพลิเคชัน และสถิติ Notification ที่ได้รับในแต่ละวัน
  • Do Not Disturb โหมดปิดการแจ้งเตือน
  • App Timer ตั้งค่าจำกัดเวลาการใช้แอปพลิเคชัน และจะแจ้งเตือนเมื่อครบเวลาที่กำหนด โดยหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเทาเพื่อบอกว่าคุณใช้งานเกินเวลามาแล้ว
  • Wind Down โหมดก่อนนอน หน้าจอจะเปลี่ยนจากโหมดสีเป็นโหมดขาวดำ และลดความสว่างของหน้าจอ เป็นการเตือนผู้ใช้ให้วางมือถือลงก่อนเข้านอน
  • ผู้ใช้จะเห็นจำนวนครั้งที่ปลดล็อคมือถือ จำนวน Notification ทีไ่ด้ และระยะเวลาที่ใช้งานแอปพลิเคชัน เมื่อวางมือถือคว่ำหน้าลงจะเป็นการปิดเสียง Noticifation เมื่อมีสายเรียกเข้าและข้อความใหม่

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะช่วยควบคุมการใช้สมาร์ทโฟนของลูก โดยการบล็อกแอปพลิเคชันที่ไม่เหมาะสม กำหนดระยะเวลาการใช้งาน ตั้งค่าเวลานอน เป็นต้น

ที่มารูป metro.co.uk

บริษัท Apple ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ได้ออกฟีเจอร์ช่วยลดอาการเสพติด Smartphone เช่นกัน ทั้งในกลุ่มผู้ใหญ่และเด็ก ซึ่งจะมีหน้าจอแสดงระยะเวลาในการใช้แอปและตั้งค่าเพื่อจำกัดการใช้งานได้

สรุป

ในยุคที่ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตามองแต่หน้าจอ Social Media หลายค่ายได้พยายามปรับตัวเพื่อสร้างคุณค่าแก่ผู้ใช้มากขึ้น ทำให้เวลาในการใช้แอปพลิเคชันมีคุณภาพ อย่างไรก็ตามในมุมมองของผู้ใช้ เราไม่ควรอยู่ในโลก Social Media มากเกินไปจนสุดท้ายลืมใช้ชีวิตในโลกความเป็นจริง

ตาคุณแล้ว

ฟีเจอร์ไหนบ้างที่คุณเคยใช้? หรือหากมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ แชร์ในคอมเมนต์ได้เลย!