ปี 2020 เป็นอีกปีที่ความเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบครั้งใหญ่ หนุนด้วยคลื่นวิกฤติอย่างโควิด19 ที่เข้ามากระตุ้นให้การทำธุรกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กิจวัตรประจำวันหลายๆ อย่างย้ายแพลตจากออฟไลน์มาอยู่บนดิจิทัลเป็นหลัก

ทุกวันนี้ผู้บริโภคสนใจอะไรก็สามารถเข้าอินเทอร์เน็ต เล่นโซเชียลมีเดีย ค้นหาข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้เลย ..ซึ่งกิจกรรมการซื้อ-ขายอาจจบลงภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงชั่วโมง ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตขึ้นมาก 

มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซและอัตราการเติบโต ปี 2020

จากความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งออนไลน์ และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 (COVID-19)ในประเทศไทย เป็นแรงผลักให้ผู้บริโภคหันมาช้อปปิ้งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจกลุ่มอีคอมเมิร์ซมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี คาดการณ์มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซปี 2020 อาจมีมูลค่าสูงถึง 220,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 35% จากปีก่อนหน้าเลยทีเดียว

Thailand E-Commerce Landscape ตัวละครและสารบบของอีคอมเมิร์ซ ไทยปี 2020

จากอัตราการเติบโตและการแข่งขันทางธุรกิจกลุ่มอีคอมเมิร์ซที่มากขึ้นทุกปี เป็นเรื่องน่าสนใจว่า Ecosystem ของอีคอมเมิร์ซไทยมีตัวละครใดบ้างที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนวิเวศน์นี้

PriceZa ได้รวบรวมกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่มีส่วนขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2020 ออกมาโดยแบ่งตามบทบาทสำคัญๆ ได้แก่ 

  • กลุ่มซอฟต์แวร์ Marketing และแหล่งความรู้ Training ที่คอยสนับสนุนให้แบรนด์ทำการตลาดและการขาย (Content Shifu ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย)
  • กลุ่ม E-commerce Channel หรือตลาด E-commerce นั่นเอง
  • กลุ่ม Payment ที่ช่วยปิดการขาย
  • กลุ่ม Logistic การขนส่ง

Thailand E-commerce Landscape 2020

1. เครื่องมือการทำการตลาด (Marketing Tools)

กว่าที่แบรนด์จะเป็นที่รู้จักและประสบการณ์ความสำเร็จนั้น ไม่ได้ใช้เวลาเพียงแค่วันสองวัน ก็สามารถโด่งดังเป็นพลุแตกได้ แต่แบรนด์ต้องมีการวางแผนการตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงโฆษณา การคิดรายการส่งเสริมการขาย การบริหารจัดการดูแลฐานลูกค้าที่ดี วางแผนช่องทางในการโปรโมท หรือจะเป็นประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักต่อผู้บริโภคมากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จ ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องมือการทำการตลาดต่างๆ จึงสำคัญกับแบรนด์ผู้ผลิตเป็นอย่างมาก

และนอกจากเครื่องไม้เครื่องมือที่เลือกใช้แล้ว ตัวละครที่ทำหน้าที่เป็น Supporter อย่างซอฟต์แวร์ Ecommerce ระบบการเงินออนไลน์ รวมทั้ง Training หรือแหล่งเรียนรู้ด้าน Digital Marketing ต่างๆ เช่น Content Shifu เป็นต้น ก็มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน Ecommerce ไทยให้เติบโตด้วยเช่นกัน  

2. อีคอมเมิร์ซ (E-commerce Channel)

เมื่อแบนด์ผู้ผลิตได้มีการเลือกใช้เครื่องมือในการทำ Marketing เรียบร้อยแล้ว ก็มาในส่วนของช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้เลย 

เรียกได้ว่า ช่องทาง E-commerce เป็นหนึ่งในช่องทางที่ผู้ผลิตต่างๆควรที่จะเข้ามาแข่งขันในช่องทางนี้ได้แล้ว เนื่องจากว่าปัจจุบันเทคโนโลยี และความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ตทำให้ไม่มีช่องวางระหว่างผู้ค้าและผู้ซื้ออีกต่อไป การจับจ่ายใช้สอยสามารถทำได้ง่ายๆที่บ้าน ในระยะเวลาเพียงไม่กี่นาที

ทำให้การขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแบรนด์ผู้ผลิตสามารถขายผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่

  •  E-marketplace การนำสินค้าไปขายบนเว็บไซต์ตลาดสินค้าออนไลน์ ที่รวมร้านค้าหลายแห่งไว้ในที่เดียว ซึ่งเราสามารถไปเปิดร้านในนั้นได้ เช่น Lazada Shopee เป็นต้น
  • Social Commerce การขายออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, หรือ Line@ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบัน Social Media หลายตัวได้เพิ่มฟังก์ชั่นสำหรับการขายสินค้า ทำให้ง่ายต่อการวางขายมากขึ้น
  • E-tailer/Brand.com คือการทำร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง ไม่ต้องผ่าน Marketplace คนกลาง ดังนั้นจึงไม่มีการถูกหักค่าคอมมิชชั่นเมื่อเราขายได้ ซึ่งสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์เองผ่าน Webstore Platform ต่างๆ เช่น Tarad, LnwShop หรือเปิดร้านค้าออนไลน์เอง ทำเว็บเอง ขายเอง เช่น Powerbuy.com และ Beauticool.com เป็นต้น

3. ระบบการชำระเงิน (Payment)

แน่นอนว่าเมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตมากขึ้นในทุกๆปี สิ่งหนึ่งที่จะต้องเติบโตควบคู่กันไปนั่นก็คือ ระบบการชำระเงิน เมื่อเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยเริ่มก้าวเข้าสู้สังคมยุคไร้เงินสด (cashless society) เห็นได้จากผู้คนเริ่มใช้เงินสดในชีวิตประจำวันน้อยลง และหันมาใช้บริการระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แทน ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินเพื่อซื้อสินค้า การชำระบิลค่าบริการต่างๆ ทำให้การแข่งขันของระบบการชำระเงินมีความดุเดือดมากยิ่งขึ้นทั้งจากผู้เล่นธนาคารและกลุ่มบริษัทเอกชน

4. ระบบขนส่ง (Logistic)

จากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคดิจิทัลและการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่สอดคล้องกัน ส่งผลให้ตลาดบริษัทขนส่งในไทยมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากการวิเคราะห์ของ SCB: Economic Intelligence Center โดยการคำนวณจากบริษัทขนส่งพัสดุในไทยรายใหญ่ประมาณ 22 ราย ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา 2017-2019 พบว่ามูลค่าตลาดของบริษัทขนส่งในไทยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปีเลยทีเดียว เป็นผลให้การแข่งขันของธุรกิจบริษัทขนส่งมีความดุเดือด รุนแรงมากขึ้นทุกปี เห็นได้จากการกดราคาค่าบริการ เพื่อดึงดูดให้ผู้ประกอบการต่างๆหันมาใช้บริการขนส่งของตน ซึ่งระบบขนส่งก็ยังแบ่งออกยิบย่อยได้อีกเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ประกอบการและผู้บริโภค

________________
อ่านเพิ่มเติม
อัปเดตเทรนด์ E-commerce 2020
หรืออ่านข่าวฉบับเต็มได้