Semrush คืออะไร?

Semrush คือ เครื่องมือแบบ All-in-one ที่ทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ทั้งฝั่งของตัวเองและคู่แข่ง ซึ่งบอกเลยว่ามีฟีเจอร์เด็ดๆ หลายด้านมากกว่า 40 ฟีเจอร์ เช่น SEO, PPC, Social Media Management, Keyword Research, Competitive Research, Content Marketing, Marketing Insights และ Campaign Management

ถ้าอยากรู้ว่าเจ้า Semrush ทำอะไรได้บ้าง มีจุดเด่นอะไร เหมาะกับใคร ฟรีไหม และราคาเท่าไร ไปอ่านกันได้เลย!

ฟีเจอร์เด่นๆ ของ Semrush ได้แก่

• SEO ล้วงลึกจับทุกคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับ เปรียบเทียบกับคู่แข่งได้มากถึง 5 โดเมน ดูถึง Traffic Sources ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ด้วยเครื่องมือมากถึง 20 เครื่องมือ
• Competitive Research ค้นคว้าทุก Insight ของคู่แข่ง ดูภาพรวม SEO และแคมเปญ PPC จนเข้าใจทุกกลยุทธ์และสามารถนำไปปรับใช้กับเว็บไซต์ของคุณ
• Content Marketing ช่วยพัฒนาปรับปรุงแผนคอนเทนต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพด้วยการหา Content Gap เพื่อเข้าใจช่องโหว่ของคอนเทนต์และปรับปรุงให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเจอคีย์เวิร์ดใหม่ๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณได้ Topic หรือหัวข้อคอนเทนต์ที่ส่งผลดีต่อ SEO ด้วย
• Advertising ช่วยวางแผนการทำแคมเปญบน Google Ads คุณจะได้ศึกษาแคมเปญที่คู่แข่งเคยทำ และนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ในการทำแคมเปญโฆษณา
• Social Media เครื่องมือที่จะช่วยทำให้การใช้งานแพลตฟอร์มต่างๆ สะดวกสบายมากขึ้น โดยสามารถสร้างโพสต์และเผยแพร่ได้ 6 แพลตฟอร์มในที่เดียว และดูข้อมูลประสิทธิภาพของคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียได้โดยเฉพาะของคู่แข่งเพื่อนำมาเปรียบเทียบข้อมูลของคุณ เท่านี้ก็สามารถทำให้คุณรู้ภาพรวมกลยุทธ์ของคู่แข่งอีกด้วย

ลองรับชมหน้าตาของ Semrush และรีวิวการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้จากวิดีโอ

Semrush ดีไหม? เหมาะกับใคร?

จุดเด่นของ Semrush คือ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลของคู่แข่งเชิงลึกได้ ทำให้รู้กลยุทธ์ต่างๆ ไม่ว่าจะ SEO PPC หรือแม้แต่คอนเทนต์ แถมช่วยทำให้คุณหาคีย์เวิร์ดใหม่ๆ ได้ด้วย เรียกได้ว่าครบจบในตัวเดียวทั้งช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ พัฒนาคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ จนสามารถเอาชนะคู่แข่งได้โดยไม่ทิ้งรอย

Semrush แนะนำสำหรับ

• นักธุรกิจ นักการตลาด หรือมืออาชีพที่ต้องการวิเคราะห์เว็บไซต์ของตัวเองและคู่แข่ง
• Digital Marketing Agency ที่ต้องใช้เครื่องมือในการทำ Report ให้ลูกค้า
• SEO/ SEM Specialist
• Content Marketer

Semrush ฟรีไหม? ใช้ฟีเจอร์อะไรได้บ้าง?

Semrush สามารถใช้งานได้ฟรีแต่มีข้อจำกัด ซึ่งฟีเจอร์ที่สามารถใช้ได้ฟรีมีดังนี้

• Domain และ Keyword Analytics สามารถค้นหาได้แค่ 10 ครั้ง/วัน
• Backlinks, Advertising Research และ Keyword Report จะแสดงผลคำค้นหาได้แค่ 10 ผลลัพธ์ เท่านั้น
• Keyword Magic Tool สามารถค้นหาได้ 10 ครั้ง/วัน และผลลัพธ์จะขึ้นแสดงเพียงแค่ 10 ผลลัพธ์ต่อการค้นหา 1 ครั้ง
• Project สามารถสร้างและจัดการได้ 1 โปรเจกต์ โดยมีเครื่องมือที่สามารถใช้ได้ 12 เครื่องมือ
• Site Audit จะแสดงให้เห็นถึงภาพรวม Health Score ของเว็บไซต์ แต่มีการจำกัดให้สามารถ Crawl ได้แค่ 100 หน้าเท่านั้น
• Position Tracking สามารถติดตามคีย์เวิร์ดได้ 10 คีย์เวิร์ดเท่านั้น
• SEO Ideas Units ฟีเจอร์นี้จะอยู่ในเครื่องมือ SEO Content Template, SEO Writing Assistant, และ On Page SEO Checker โดยสามารถช่วยให้คำแนะนำโครงสร้างการเขียนคอนเทนต์หลังจากมีการใส่คีย์เวิร์ดลงไป ซึ่งมีข้อจำกัดคือสามารถใช้ได้แค่ 10 ครั้ง เท่านั้น
• Topic Research สามารถค้นหาลิสต์ Subtopic และไอเดียเขียนคอนเทนต์โดยอิงจากสิ่งที่คุณเสิร์ช ซึ่งสามารถค้นหาได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น
• My Reports สามารถ Schedule Report ได้ 1 ไฟล์ เป็น PDF

ภาพรวมของ Semrush