พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior) เปลี่ยนไป เพราะยุคที่เข้าสู่ช่วงรับมือกับผลกระทบที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง AI หรือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง ทำให้การใช้ชีวิต การทำงาน ไปจนถึงพฤติกรรมของคนแต่ละ Generation เองก็เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น
ซึ่งแน่นอนว่า พฤติกรรมผู้บริโภค มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะถ้าคุณไม่สามารถจับใจผู้บริโภคได้ ยอดขายของคุณก็ไม่กระเตื้องแน่นอน
ดังนั้นเรามาดูข้อมูลเจาะเทรนด์โลกจาก TCDC กันดีกว่าว่าผู้คนในแต่ละช่วงวัยหรือ Generation ต่างๆ จะมีแนวโน้มพฤติกรรมอย่างไรในปี 2024
ยาวไป อยากเลือกอ่าน?
Baby Boomer (1946-1964)
กลุ่มผู้สูงวัยที่มีอายุระหว่าง 59-77 ปี ถ้าจะให้พูดง่ายๆ ก็เป็นวัยคุณตาคุณยายมีลูกมีหลาน เป็นวัยที่กำลังเกษียณหรือเกษียณไปแล้ว เป็นรุ่นที่เกิดหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง (World War II) ยุติลง ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศชาติบ้านเมืองกำลังฟื้นฟูต้องการแรงงานคน ทำให้คนสมัยนั้นนิยมมีลูกกันค่อนข้างเยอะเป็นที่มาของชื่อ Baby Boomer

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Baby Boomer
- หันมาค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต ให้ความสำคัญกับเวลาพักผ่อน การเล่นโซเชียลมีเดีย โดยเน้นใช้งาน และซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Facebook, TikTok และการพบปะเข้าสังคมมากขึ้น
- ยึดติดในกิจกรรมและไลฟ์สไตล์เดิมๆ และเลือกงานในรูปแบบชั่วคราวที่รับจ้างระยะสั้น (Gig Worker หรือ Gig Economic) โดย 40% ของคนเจนนี้ ยังอยากทำงานไปเรื่อยๆ จนกว่าจะตกงาน
- ชอบการเรียนรู้สถานการณ์ที่ใช้เวลาร่วมกับ Gen อื่น เพื่อเท่าทันคนรุ่นใหม่
- อยากออกไปพบปะสังสรรค์ ท่องเที่ยวกับเพื่อนฝูง มากกว่าถูกกำหนดขอบเขตการใช้ชีวิตโดยลูกหลาน
- ถึงแม้จะเผชิญกับวิกฤตแต่ยังให้ความสำคัญด้านสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางจิตเป็นอันดับต้นๆ
- ไม่ชอบความรู้สึกเหมือนที่ควบคุม จึงต้องการที่พักอาศัยที่เหมือนกับบ้าน แต่ครบเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกทุกด้าน
- กลายเป็น SOL (Senior Opinion Leader) หรือผู้นำทางด้านความคิด คอยให้คำปรึกษาในสิ่งที่เชี่ยวชาญ
รู้เทรนด์พฤติกรรม Baby Boomer แล้วเอาไปใช้ยังไงดี?
ถ้าวิเคราะห์จากเทรนด์ปี 2024 แล้ว นี่ถือว่าเป็นโอกาสของร้านค้าออนไลน์ หรือธุรกิจออนไลน์ ในการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพทางกาย และสุขภาพทางจิตใจ ไปจนถึงธุรกิจด้านบริการ ห้ามพลาดฐานลูกค้ากลุ่มนี้เด็ดขาด เพราะเป็นวัยที่มีกำลังในการจับจ่ายมากกว่าเจนอื่นๆ มีความมั่นคง และด้วยการที่เข้าถึงออนไลน์มากขึ้นก็ยิ่งทำให้มีโอกาสซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นเช่นกัน แนะนำว่าต้องหากลยุทธ์การตลาดที่จับใจกลุ่ม Baby Boomer ให้ได้
Gen X (1965-1980)
กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 44-59 ปี เป็นกลุ่มคนที่เกิดมาในยุคแห่งความมั่งคั่งกำลังขยายไปทั่วโลก มีการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจสูง และอัตราการเกิดลดลงเพราะคนไม่นิยมมีลูกมาก

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen X
- เป็นวัยที่ต้องดูแลครอบครัว จึงกดดันด้านการเงิน และแผนในอนาคต ทำให้ระวัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ
- เจนนี้เริ่มหันมาใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลอย่าง TikTok เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในครอบครัวและแบรนด์สินค้ามากขึ้น
- เป็นเจนที่เติบโตด้วยการพึ่งพาตัวเอง คอยพัฒนาทักษะตัวเองอยู่เสมอ หากเจอหนังสือหรือคอร์สอัปสกิลจะสนใจอย่างมาก
- เจนนี้เริ่มกังวลเรื่องฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป จึงให้ความสำคัญกับความสวยความงาม โดยใส่ใจในเรื่องปัญหาผิว เส้นผม และหนังศรีษะเป็นพิเศษ
- ชื่นชอบการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 51% เพราะรู้สึกสะดวกสบายในเลือกของ แต่อีก 49% นิยมซื้อสินค้าที่หน้าร้าน เพื่อทดลองใช้งานจริง
รู้เทรนด์พฤติกรรม Gen X แล้วเอาไปใช้ยังไงดี?
เนื่องจากเป็นเจนที่ค่อนข้างมีความกังวล ความเครียด ทั้งด้านการเงิน ทั้งด้านร่างกาย ถือเป็นโอกาสของแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อาหารเสริม วิตามิน ยิ่งแบรนด์ไหนมีกลยุทธ์ใช้การสะสมแต้มแลกของ มีระบบ Membership หรือโปรโมชั่นต่างๆ ก็ถือว่าสามารถดึงดูดคนกลุ่มนี้ได้ดี นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ต้องการหันมาใส่ใจความต้องการของตัวเองผ่านการพักผ่อนจากการไปเที่ยวมากขึ้น
Millennials หรือ Gen Y (1981-1995)
กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 29-43 ปี สามารถเรียกได้ว่า Millennials และ Gen Y เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในยุคของการพัฒนาเทคโนโลยี เข้าถึงโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen Y
- คนเจนนี้ยังคงพักอาศัยกับพ่อแม่ ทำให้มีข้อจำกัดมากมายในการใช้ชีวิตส่วนตัว จึงมองว่าการมีความสัมพันธ์เป็นเรื่องยาก ชื่นชอบสินค้า/บริการที่เหมาะกับการไปคนเดียว
- ชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์หรูหราหรือเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากผู้อื่น
- ติดโซเชียลแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น จึงใช้วันหยุดไปกับกิจกรรมชื่นชอบการท่องเที่ยวสไตล์หรูหรหรือเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปจากผู้อื่น
- ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตที่ดี จึงเริ่มตระหนักผลกระทบด้านการกินอาหาร/เครื่องดื่ม เลยลดการกินกาแฟ และหันมาดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหรือไร้คาเฟอีน
- ให้ความสนใจเรื่องที่อยู่หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยยึดหลัก “Finding happiness in a rented home.”
- เหล่ากลุ่มเจนวายคาดหวังให้องค์กรมีการพัฒนาเทคโนโลยีการทำงานให้ทันสมัย เพื่อให้การทำงานออกมามีประสิทธิภาพและใช้เวลาน้อยลง
- แบรนด์ที่มีเป้าหมายเป็นเจนนี้ควรมีจุดยืนความจริงใจ และความซื่อสัตย์ต่อกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน
รู้เทรนด์พฤติกรรม Gen Y แล้วเอาไปใช้ยังไงดี?
ด้วยพฤติกรรมของเจนวาย ถือเป็นโอกาสของแบรนด์ สินค้าเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่ม Non-Caffeine สินค้าที่โชว์ไลฟสไตล์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เรียบง่าย ก็ตอบโจทย์กลุ่มคนเหล่านี้ นอกจากนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ และเน้นสร้างประสบการณ์มักจะทำให้คนเจนวายมีความสนใจเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญด้วยความที่เป็นเจนที่เชื่อในการขับเคลื่อนสังคม ดังนั้นแบรนด์ควรจะมีจุดยืนที่ชัดเจนด้านสังคมเช่นกัน
Gen Z (1996-2011)
กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 13-28 ปี เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีรุ่งเรือง ทำให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เป็นดิจิทัล กลุ่มคนเหล่านี้จึงถนัดการดำเนินชีวิตในสังคมดิจิทัล

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen Z
- เพราะเป็นวัยที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงบรรลุนิติภาวะ จึงเริ่มตระหนักถึงผลกระทบของโลกออนไลน์ และหันไปทำกิจกรรมแบบออฟไลน์หรือใช้สิ่งของยุคเก่ามากยิ่งขึ้น
- พร้อมแสดงความคิดเห็นหรือลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม จึงชื่นชอบการจับจ่ายใช้สอยตามหน้าร้านที่ Niche Market และใช้สินค้าที่รักษ์โลกเป็นพิเศษ
- คอนเทนต์ไวรัลหรือที่เป็นกระแสมักมาจากเจนซี ทำให้เป็นเจนที่มีส่วนสำคัญในการขึ้นเทรนด์บนโลกโซเชียลมีเดีย และยังคงตามเทรนด์บนโลกออนไลน์อยู่เสมอ (Internet of Trends)
- กลุ่มเจนซีนิยมชอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง และมักหาคำตอบจากแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก โดยใช้ Google ถึง 70% และรองลงมาเป็น TikTok
- ไม่ยึดติดกับงานสาขาใดสาขาหนึ่ง จึงชอบที่จะเรียนรู้ทักษะอาชีพหลายๆด้าน เพื่อค้นหาตัวเองไปในตัว
- สนใจในแบรนด์ที่แตกต่าง ซึ่งจะเลือกซื้อจากแบรนด์ที่มีจริยธรรมการค้าขาย ความเป็นธรรมกับคนทุกกลุ่ม ดังนั้นภาพลักษณ์ของแบรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการตัดสินใจเลือกซื้อ
- ให้ความสำคัญกับสุขภาพทางใจ จึงมองหางานที่มีความ Flexibility และ Hybrid Work ได้
รู้เทรนด์พฤติกรรม Gen Z แล้วเอาไปใช้ยังไงดี?
เจนซีจะมีความคล้ายกับเจนวายอยู่หลายด้าน แต่เจนนี้จะมีความเป็นครีเอเตอร์อยู่สูง และชื่นชอบการสร้างรายได้บนโลกโซเชียลมีเดีย ดังนั้นแบรนด์ควรใส่ใจกลุ่มลูกค้าเจนนี้ ยิ่งกับแบรนด์สินค้าที่ใส่ใจโลกเป็นพิเศษ ยิ่งดึงดูดคนเจนนี้ได้ดี โดยเน้นไปที่แพลตฟอร์ม Google และ TikTok เป็นหลัก หากอยากเข้าถึงกลุ่มคนเจนนี้ก็สามารถใช้ช่องทางดังกล่าวในการเป็นโปรโมตแบรนด์
Gen Alpha (2010-2024)
เป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีลงไป เป็นกลุ่มช่วงวัยที่มีความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีได้สูงมากกว่าเจนอื่นๆ เพราะเติบโตมากับเทคโนโลยี ทำให้สามารถเรียนรู้ได้อย่างว่องไว และอาจจะเป็นเจนที่ฉลาดที่สุดเพราะการเติบโตมาบนโลกที่รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยี

พฤติกรรมผู้บริโภค ของ Gen Alpha
- เจนอัลฟามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการภายในครอบครัวอย่างมาก ซึ่งผู้ปกครองของเจนอัลฟาให้ความสำคัญกับสุขภาพทางกาย และจิตใจ
- เจนนี้ชอบวิธีการสื่อสารและการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งอุปกรณ์ AI เป็นแนวโน้มสำคัญในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้
- เป็นวัยที่เติบโตมาในยุคของดิจิทัลอย่างแท้จริง ทำให้เจนนี้มีความฉลาดทางด้านอารมณ์ เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกินวัย และมีความคิดที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก เนื่องจากได้รับข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์เป็นส่วนใหญ่
- ด้วยการรับรู้ข่าวสารได้ทั่วถึงมากขึ้น ทำให้เจนอัลฟามักชื่นชอบแบรนด์สินค้าที่มีคุณภาพดี ใส่ใจผลเชิงสุขภาพ และซัพพอร์ตการแสดงความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงต้องเข้าถึงได้ง่ายผ่านโซเชียลมีเดีย
- กำเนิด “Alphluence” เป็นการรวมคำระหว่าง Alpha และ Influence เรียกได้ว่าเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสามารถครองพื้นที่โซเชียลมีเดียได้นานกว่าเจนอื่นๆ เนื่องจากความสามารถที่คิดคอนเทนต์ได้อย่างรวดเร็ว
รู้เทรนด์พฤติกรรม Gen Alpha แล้วเอาไปใช้ยังไงดี?
เจนอัลฟา เด็กยุคใหม่ที่จะมาเป็นอนาคตของโลก ครีเอเตอร์คนใดกำลังทำช่อง YouTube หรือ TikTok การมีเนื้อหาที่เหมาะสำหรับเด็กก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี นอกจากนี้ยังเป็นเป็นโอกาสของสินค้าเพื่อสุขภาพ หรือแบรนด์ที่มีจุดยืน มีเอกลักษณ์ ส่งเสริมการเป็นอยู่ของคนทุกกลุ่มวัย อีกทั้งผู้ปกครองของกลุ่มวัยนี้ก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพของลูกด้วย ถ้าแบรนด์ไหนมีตัวเลือกสำหรับเด็กโดยเฉพาะแถมถ้าเป็นออร์แกนิคด้วยก็ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดี และทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
สรุป
โดยสรุปแล้วแต่ละเจน แต่ละวัย ก็มีความแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ ผลกระทบจากโรคระบาดส่งผลอย่างหนักต่อพฤติกรรมผู้บริโภคทั้ง Baby Boomer หันมาช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น Gen X ที่แบกรับความเครียดเพราะอยู่กึ่งกลางระหว่างเจนอื่นๆ Gen Y ผู้เป็นนักสู้ลงมือทำจริง ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า Gen Z คนรุ่นใหม่ไม่หยุดนิ่ง นักครีเอทคอนเทนต์สร้างกระแสเทรนด์ต่างๆ ได้ดี และสุดท้าย Gen Alpha กลุ่มคนที่เป็นอนาคตของโลกเพราะเติบโตมากับเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ๆ
ต้องขอขอบคุณข้อมูลเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคจาก “เจาะเทรนด์โลก 2024” โดย TCDC ที่ทำให้เราสามารถเห็นความกระจ่างชัดในแต่ละเจนได้ขนาดนี้ บอกเลยว่าทุกธุรกิจไม่ควรพลาด
ตาคุณแล้ว
หวังว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ในการนำไปประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์ทางธุรกิจนะคะ และอยากให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจความแตกต่างของเจนอื่นๆ นอกเหนือจากเจนตัวเองอีกด้วย เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าต่างวัยก็ต่างความคิด ไม่ใช่อ่านเพื่อ “แบ่งแยก” แต่เป็น “เข้าอกเข้าใจ”