กรณีศึกษานี้เป็นของ Pedigree แบรนด์อาหารสุนัขระดับโลก ที่เชื่อว่าสุนัขทุกตัวสมควรได้รับความรักและมีบ้านที่อบอุ่น
กรณีศึกษาของ Pedigree
เรื่องราว Campaign ของ Pedigree

ลองนึกภาพตาม… 🐕
ทุกวันนี้ เวลาเราเปิด Social Media เราจะเจอคลิปน่ารักๆ ของเหล่าสุนัขที่มีเจ้าของ ขนฟู ตาใส วิ่งเล่นอย่างมีความสุข แต่ความเป็นจริงที่เราอาจมองข้ามคือ ยังมีสุนัขอีกนับล้านตัวที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ไม่มีบ้าน ไม่มีคนรัก
Pedigree เห็นปัญหานี้และพบว่า… สาเหตุสำคัญที่คนไม่อยากรับเลี้ยงสุนัขจรจัดคือ “ภาพลักษณ์แรกพบ”
เมื่อเห็นสุนัขจรจัดที่ดูซอมซ่อ ขนเก่า สกปรก คนส่วนใหญ่มักจะ
- รู้สึกสงสาร แต่ไม่กล้าเข้าใกล้
- กังวลเรื่องโรคติดต่อ
- ไม่มั่นใจในการเลี้ยงดู
แต่ความจริงคือ… สุนัขจรจัดทุกตัวมีศักยภาพที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักได้ พวกเขาแค่ต้องการโอกาส
Pedigree จึงจับมือกับ Microsoft สร้างนวัตกรรมที่ช่วยให้คนมองเห็น “ความน่ารักที่ซ่อนอยู่” ของสุนัขจรจัด
พวกเขาพัฒนา “Adoptable Social Filter” โดยใช้ AI ที่ถูก Train ด้วยภาพสุนัขที่มีเจ้าของนับหมื่นภาพ เพื่อให้ AI เรียนรู้ว่า
- ขนที่สะอาด ฟู นุ่ม ควรมีลักษณะอย่างไร
- ดวงตาที่เป็นประกายควรมีแววตาแบบไหน
- ท่าทางที่ดูน่ารัก น่าเลี้ยงเป็นอย่างไร
เมื่อใครก็ตามพบเจอสุนัขจรจัด และอยากช่วยหาบ้านให้ สามารถ
- ถ่ายรูปสุนัข
- อัพโหลดผ่านฟิลเตอร์
- AI จะทำการ Transform ภาพให้ดูสดใส น่ารัก
- แถมข้อมูลการติดต่อรับเลี้ยง
ทันทีที่โพสต์ ภาพสุนัขจรจัดที่ดูไม่น่าสนใจ จะกลายเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนหยุดเลื่อน หยุดดู และอยากให้โอกาส
ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่การแต่งภาพให้สวยหลอกตา แต่เป็นการเปิดมุมมองใหม่ ให้คนเห็นว่า “ทุกชีวิตมีความสวยงาม ถ้าได้รับโอกาส”
ที่สำคัญ ฟิลเตอร์นี้ไม่ได้สร้างภาพลวงตา แต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของสุนัขแต่ละตัว ว่าพวกเขาสามารถสวยงาม และมีความสุขได้ หากมีคนรักและดูแล
ผลลัพธ์ Campaign ของ Pedigree
Campaign นี้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่วัดผลได้จริงหลายอย่าง ตั้งแต่
- มีการใช้งานฟิลเตอร์มากกว่า 500,000 ครั้ง
- เพิ่มโอกาสการรับเลี้ยงสุนัขจรจัดขึ้น 73%
- สร้างการรับรู้เรื่องการรับเลี้ยงสุนัขจรจัดในวงกว้าง
- เปลี่ยนทัศนคติของผู้คนต่อสุนัขจรจัด
- มีสุนัขจรจัดได้บ้านใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Shifu’s Learnings จาก Campaign ของ Pedigree
1. Tech for Good ที่จับต้องได้
เทคโนโลยีอย่าง AI ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาได้จริง การผสมผสาน AI กับความคิดสร้างสรรค์สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม
2. Perception is Reality
การเปลี่ยนการรับรู้คือกุญแจสำคัญ Campaign นี้ไม่ได้แค่แต่งภาพให้สวย แต่เปลี่ยนมุมมองและทัศนคติของผู้คนที่มีต่อสุนัขจรจัด
3. Purpose-led Marketing ต้องลงมือทำจริง
การทำการตลาดเพื่อสังคมที่ดีต้องสร้าง Solution ที่ใช้งานได้จริง วัดผลได้จริง ไม่ใช่แค่สร้างคอนเทนต์ให้คนดูแล้วรู้สึกดี
ดูเผินๆ Metrics ต่างๆ เหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับยอดขายของ Pedigree เลย แต่จริงๆ เกี่ยวอย่างมาก เพราะมันเป็นการสร้างภาพจำที่ดีให้กับคนรักสุนัขทุกคน ซึ่งคนเหล่านี้แหละคือลูกค้าของ Pedigree
ในอนาคตเวลาที่พวกเขาจะเลือกซื้ออาหารให้สุนัขของพวกเขา Pedigree จะเป็นหนึ่งใน Top of Mind อย่างแน่นอน
สรุป Campaign ของ Pedigree
และนี่คือกรณีศึกษาของ Pedigree ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตสุนัขจรจัดด้วยพลังของ AI และ Creativity
การผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับความเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ ทำให้ Pedigree สามารถเปลี่ยน “ภาพแรกพบ” ของสุนัขจรจัดให้กลายเป็นโอกาสในการได้บ้านใหม่
การใช้ Technology ที่ Advance แบบ Pedigree อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การเปลี่ยน Perception ของคนเป็นสิ่งที่ทำได้เพียงแค่ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของคุณลงไป
และสุดท้าย สำหรับ Campaign ของ Pedigree นี้ แสดงให้เห็นว่าการทำการตลาดที่ดีไม่ได้แค่สร้างยอดขาย แต่ยังสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมได้อีกด้วย
ลองดูรายละเอียด Campaign เพิ่มได้จากคลิปด้านล่างครับ