Blog

5 กลยุทธ์ยกระดับ Customer Engagement ด้วยศาสตร์ AI x Psychological Marketing

• 19 มีนาคม 2025

5 ขั้นตอนยกระดับ Customer Engagement ด้วย AI x Psychological Marketing

Share on

Share on

ในยุคดิจิทัลที่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของการตลาด AI และ จิตวิทยา (Psychology) ได้กลายเป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยสร้าง Customer Engagement ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า รวมถึงการสร้างข้อความหรือประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับความต้องการและอารมณ์ของลูกค้าโดยตรงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกวิธีที่แบรนด์สามารถนำ AI และ จิตวิทยา มาประยุกต์ใช้ในการสร้างกลยุทธ์ Customer Engagement ที่ทรงพลัง พร้อมนำเสนอตัวอย่างกลยุทธ์ 5 ข้อที่สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที!

การตลาดที่มีการประยุกต์ใช้ศาสตร์ทางจิตวิทยา (Psychological Marketing) ในธุรกิจยุคดิจิทัล

จิตวิทยาเป็นศาสตร์ที่ศึกษาพฤติกรรม ความรู้สึก และความคิดของมนุษย์ เมื่อนำมาใช้ในการตลาดในธุรกิจยุคดิจิทัล ศาสตร์จิตวิทยาช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแรงจูงใจ ความกลัว หรือความต้องการในทุกแง่มุม 

ศาสตร์การนำจิตวิทยามาใช้กับการตลาดไม่ใช่เรื่องใหม่ และถูกเรียกในชื่อที่หลากหลาย เช่น User Experience Design, Product Design, Psychology Strategy ก็ต่างมีฐานมาจากศาสตร์ทางจิตวิทยา และถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบ เช่น การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX/UI) ในแอปพลิเคชัน การเลือกคำพูดในโฆษณา หรือการใช้กลยุทธ์ที่เจาะลึกถึงอารมณ์ของลูกค้า

AI x Psychological Marketing จะเป็นอย่างไร?

เมื่อนำเทคโนโลยี AI มาผสานกับจิตวิทยา ซึ่งเน้นการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างแม่นยำ เราจะได้โมเดลการตลาดที่ช่วยวิเคราะห์ และคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว การรวมสองศาสตร์นี้จึงทำให้แบรนด์สามารถสื่อสาร และตอบสนองความต้องการแบบเฉพาะเจาะจงในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สำหรับธุรกิจที่ต้องการนำศาสตร์ทางจิตวิทยามาใช้ในเชิงลึก ก็มีเครื่องมืออย่าง Digital Alchemy ที่นำ ‘Periodic Table Psychological Techniques’ มาปรับใช้เพื่อออกคำสั่งกับ AI ในการวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลอ้างอิงตามศาสตร์จิตวิทยาและพฤติกรรม

💡 Shifu แนะนำ Digital Alchemy

Digital Alchemy ผู้ให้บริการด้าน Database Marketing ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตลอดเวลากว่า 20 ปี ได้มุ่งเน้นและพัฒนาจนมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบฐานข้อมูลการตลาด ช่วยแบรนด์สร้าง Customer Journey ที่ไร้รอยต่อและมอบประสบการณ์แบบ Hyper-Personalization ด้วยเทคโนโลยี MarTech ขั้นสูง เราเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างความ Loyalty ให้ลูกค้าและมอบผลลัพธ์ที่จับต้องได้

5 กลยุทธ์ยกระดับ Customer Engagement ด้วยศาสตร์ AI x Psychological Marketing

1. ปรับแต่งคอนเทนต์เฉพาะบุคคลแบบ Real-Time ด้วย AI-Driven Personalization

ปัจจัยสำคัญในการสร้าง Engagement ที่ดี คือ การส่งคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้า แต่การต้องปรับคอนเทนต์ให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเป็นเรื่องยาก ปัจจุบันจึงมีเทคโนโลยี AI ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าแต่ละคนแบบเรียลไทม์ เช่น ประวัติการซื้อ หรือการคลิกบนเว็บไซต์ และ AI จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับพฤติกรรมเฉพาะของลูกค้า

ผลลัพธ์

ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ “เข้าใจพวกเขา” ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะกดเข้าชมสินค้า/บริการมากขึ้น โดยเกิด Engagement และ Conversion Rate ที่สูงขึ้น

ตัวอย่างใช้งานเครื่องมือ Digital Alchemy กับธุรกิจต่าง ๆ

บริษัทประกันสุขภาพต้องการส่งข้อความแนะนำแผนดูแลสุขภาพกับลูกค้าที่ค้นหาเกี่ยวกับค่ารักษา “โรคร้ายแรง” จึงเลือก Concept: POC (Paradox of Choice), SP (Social Proof) และ SA (Safety)  เพื่อให้ AI ประมวลข้อมูลลูกค้า แล้วเลือกใช้คำโดยอิงจาก Concept ทางจิตวิทยาที่เลือกไว้

2. ใช้ AI เลือกช่องทางและข้อความสื่อสารที่มีประสิทธิภาพที่สุด

ไม่ใช่แค่คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ แต่ช่องทางที่ใช้สื่อสารก็สำคัญ ยิ่งกับแบรนด์ที่มีหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย, อีเมล, แชทต่าง ๆ การเลือกนำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะกับแต่ละบุคคลเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและกินเวลา 

เครื่องมือ AI ที่มีฟีเจอร์ Smart Decision Engine จาก Digital Alchemy สามารถกำหนดว่าควรสื่อสารผ่านช่องทางใดและเวลาไหน เช่น ลูกค้าบางคนมีส่วนร่วมกับอีเมล ในขณะที่บางคนอาจมีส่วนร่วมผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่า เทคโนโลยี AI จะวิเคราะห์ข้อมูล Engagement ที่ผ่านมาเพื่อเลือกช่องทางที่เหมาะสมที่สุดกับลูกค้าแต่ละคน

ผลลัพธ์

ลดเวลาในการทดลองแคมเปญ ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่ม ROI และ Engagement แต่ละช่องทางได้อย่างชัดเจน

3. สร้าง Emotional Connection ด้วย Psychological Tools

การสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ (Emotional Connection) เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการยกระดับ Engagement การใช้เครื่องมือจาก Digital Alchemy เช่น ‘Periodic Table Behavioral Techniques’ ตารางสูตรทางจิตวิทยา ที่จะช่วยปรับแต่งประสบการณ์ให้ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ 

ลูกค้ารู้สึกผูกพันและประทับใจในตัวแบรนด์เพราะได้รับประสบการณ์ที่ดี ทำให้เพิ่มระดับความภักดี (Loyalty) และเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าประจำ (Loyalty Customers)

แนะนำ Periodic Table Psychological Techniques

Digital Alchemy

เป็นกรอบความคิดที่พัฒนาโดย Digital Alchemy ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยนักการตลาด นำเครื่องมือทางจิตวิทยา (Psychological Tools) เพื่อสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ตรงจุด โดยแบ่งออกเป็น 7 กลุ่มหลัก ที่ครอบคลุมเทคนิคทางพฤติกรรมจิตวิทยา

โดยจะแบ่งออกเป็น 7 กลุ่มหลัก

  • Core Tools 

เครื่องมือแกนหลักที่ทรงพลังที่สุด เหมาะกับการใช้งานในทุกแคมเปญ เช่น Fast Thinking (FT): ตัดสินใจรวดเร็วโดยอิงจากสัญชาตญาณ เช่น ใช้คำโฆษณาสั้น ง่าย กระชับ

  • Influencing Tools

หลักการเชิงอิทธิพลเพื่อเพิ่มแรงจูงใจทั้งแบบจริงจังและผ่านการกระตุ้นด้วยแรงกดดันทางกลุ่ม เช่น Social Proof (SP): ใช้รีวิวหรือความคิดเห็นจากลูกค้าคนอื่นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

  • Individual Focused

หลักการวิเคราะ์ลูกค้าในระดับบุคคล โดยตอบสนองต่ออารมณ์ ความต้องการ เช่น Craving Certainty (CCT): ใช้ข้อความหรือข้อเท็จจริงเพื่อลดความไม่แน่นอน เช่น รับประกันคืนเงิน 100%

  • Context Focused

เน้นการสร้างผลกระทบจากเวลาสถานที่ และสถานการณ์เฉพาะ เจาะจงโดยคำนึงถึงบริบท เช่น Anchoring (AN): เสนอบริการหรือสินค้าเทียบราคาที่ถูกกว่าเพื่อสร้างคุณค่า

  • Social Focused

เครื่องมือที่สร้างความสัมพันธ์ในระดับกลุ่ม โดยใช้พลังของเครือข่ายสังคมและการมีส่วนร่วม เช่น Belonging (BE): กระตุ้นความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมหรือกลุ่ม เช่น การสร้าง Community ที่มีค่าหรือประโยชน์ร่วม

  • Rewards 

สร้างแรงจูงใจด้วยรางวัลหรือการตอบแทนในลักษณะที่คุ้มค่า เช่น ใช้คูปองส่วนลดหลังจากการซื้อเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

  • Narratives

ใช้เรื่องราวและ storytelling เพื่อเพิ่มอารมณ์ความรู้สึก เช่น ถ่ายทอดข้อความในรูปแบบของเรื่องราวที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงหรือเชื่อมโยงประสบการณ์ได้ง่าย

วิธีใช้ Periodic Table Psychological Techniques

  • สร้างกลยุทธ์การสื่อสารแบบครบวงจร

ใช้เครื่องมือ Core Tools ร่วมกับ Influencing Tools และเสริมด้วยหมวดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การเจาะจงกลุ่มเป้าหมายรายบุคคล (Individual Focused) และเลือกบริบทที่เหมาะสม (Context Focused)

  • ลดความซับซ้อน

หากสถานการณ์มีตัวเลือกมากมาย ใช้ Paradox of Choice (PoC) ลดตัวเลือก หรือใช้ Fast Thinking (FT) เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจที่รวดเร็ว

  • สร้าง Emotional Connection

เลือกใช้เครื่องมือในหมวด Narratives และ Social Focused เพื่อสร้างความผูกพัน เช่น การเล่าเรื่องราวที่สื่อถึงคุณค่าแบรนด์ หรือการส่งต่อข้อเสนอผ่าน Referral

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.digitalalchemy.global/solutions/ หรือ แอดไลน์ @digitalalchemyth

4. ใช้ข้อมูลแบบ Real-Time สร้างแคมเปญที่ปรับตัวตามความต้องการ

ในโลกที่เทรนด์เปลี่ยนไปตลอดเวลา ธุรกิจไม่สามารถพึ่งพาแคมเปญเดิม ๆ ได้ฟีเจอร์ Real-Time Customer Insights จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลปัจจุบันที่เกิดขึ้น เช่น การมีส่วนร่วมของลูกค้าต่อโปรโมชันในขณะนั้น เพื่อปรับเปลี่ยนแคมเปญหรือข้อเสนอใหม่ได้ทันที ไม่รอให้แคมเปญจบก่อนแล้วค่อยวัดผล 

ผลลัพธ์

ธุรกิจสามารถตอบสนองได้ทันที ลดโอกาสขาดทุนของแคมเปญ และสร้างประสบการณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้า

5. ทำการตลาดแบบ Personalization at Scale ลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ

ส่วนสำคัญสำหรับธุรกิจใหญ่ คือ การจัดการ Personalization ในกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก AI Automation ช่วยลดจำนวนงานให้กับทีมการตลาด ตัวอย่าง เช่น การส่งอีเมลที่แตกต่างกันให้ลูกค้านับหมื่นคน โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและพฤติกรรมในการปรับแต่งข้อความ

ผลลัพธ์

ใช้ทรัพยากรที่น้อยลง แต่ได้แคมเปญที่มีความแม่นยำสูง ทีมการตลาดสามารถโฟกัสที่กลยุทธ์ใหญ่ และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้

กรณีศึกษา: การนำ Periodic Table Psychological Techniques ไปใช้ในแคมเปญอีเมล

สมมติฐาน:

สมาชิกจะมีแรงจูงใจในการกระทำบางอย่างมากขึ้นเมื่อเขาถูกกระตุ้นด้วยความกลัวว่าจะ “เสีย” สิ่งที่มีอยู่

การทดสอบ:

ในแคมเปญนี้ ทีมได้ทดลองส่งอีเมลถึงลูกค้าสองกลุ่ม:

  • Group 1: แนบวันที่หมดอายุของคะแนนสะสมในข้อความ เช่น “คะแนนสะสม XXX จะหมดอายุในวันที่ DD/MM/YYYY”
  • Group 2: ข้อความทั่วไปที่แจ้งว่าลูกค้ามีคะแนนสะสม แต่ไม่มีการระบุวันหมดอายุ

ผลลัพธ์ (Results):

กลุ่มที่ได้รับข้อความพร้อมข้อมูลวันหมดอายุ (Group 1) มี Click-to-Open Rate เพิ่มขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับข้อมูลนี้

สรุป

ในยุคดิจิทัลที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ศาสตร์ AI x Psychology ถือเป็นการยกระดับการสร้าง Customer Engagement ที่มีความเฉพาะเจาะจงตามแต่ละบุคคล ช่วยให้แบรนด์เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Emotional Connection, การปรับเปลี่ยนแคมเปญแบบเรียลไทม์ หรือการทำ Personalization ที่ปรับสเกลได้ รองรับกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก

ตาคุณแล้ว

สำหรับใครที่ต้องการนำศาสตร์ AI x Psychology มาปรับใช้กับการตลาดของคุณ เพื่อยกระดับ Customer Engagement กับลูกค้าให้ดีขึ้นในทุกทาง เราขอแนะนำ Digital Alchemy ผู้เชี่ยวชาญและคิดค้นการนำศาสตร์ทางจิตวิทยามาปรับใช้กับ AI และ การตลาด เพื่อผลักดันประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งกว่าเดิม

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.digitalalchemy.global/solutions/  หรือ Add Line @digitalalchemyth

Digital Alchemy

Share on

Kusalin

Writer

Kusalin

Namkhing l Content Creator แห่ง Content Shifu ที่หลงใหลการตลาดดิจิทัล เทรนด์ธุรกิจ และ ไลฟ์สไตล์ของผู้คน ว่างๆ มักจะอ่านหนังสือในคาเฟ่ ชอบเที่ยวคนเดียว รักการเขียนและพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเป็นพิเศษ

More From Me