Blog

เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing by HubSpot เพื่อวางกลยุทธ์ปีหน้า!

• 13 มิถุนายน 2025

เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing by HubSpot เพื่อวางกลยุทธ์ปีหน้า!

Share on

Share on

ปี 2025 นี้ AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยทำงานอีกต่อไปแล้วค่ะ แต่กลายมาเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม” ทางการตลาดอย่างแท้จริง

จากรายงานล่าสุดของ HubSpot ที่ชื่อ The State of Marketing 2025 เขาได้ไปสำรวจนักการตลาดหลายพันคนทั่วโลก และจากข้อมูลทำให้เราได้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นว่า เทรนด์ กลยุทธ์ และเครื่องมือแบบไหนที่ใช้งานแล้วเวิร์คจริงในยุคปัจจุบัน (และอนาคตอันใกล้)

เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing 2025 by HubSpot

นักการตลาดจำนวนมากเริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และนำคอนเทนต์ไปปรับใช้ซ้ำ (Repurpose) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยประหยัดเวลา และเปิดโอกาสให้ทีมการตลาดได้หันไปโฟกัสกับงานสร้างสรรค์คุณภาพสูงที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

Kieran Flanagan, SVP of Marketing จาก HubSpot บอกไว้อย่างน่าสนใจว่า “ในปี 2025 เราไม่ควรโฟกัสแค่การเพิ่ม Traffic อีกต่อไป แต่ควรหันมาดึงดูดแสง หรือสร้าง ‘ความสนใจ’ (Scaling Attention) แทน” และเพราะว่า AI ได้เข้ามาทำหน้าที่ช่วยดูแลกระบวนการวิเคราะห์และวัดผลแล้ว นักการตลาดอย่างเราๆ ก็ควรแบ่งเวลาไปโฟกัสกับความสร้างสรรค์ให้มากขึ้นด้วย

บทความนี้ทีม Content Shifu ได้ สรุปเนื้อหาสำคัญจากรายงานฉบับเต็ม มาให้อ่านกันแบบกระชับ เข้าใจง่าย และพร้อมนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์สำหรับปีหน้าได้ทันที พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะว่า HubSpot เขาค้นพบอะไรที่มีประโยชน์ที่นักการตลาดอย่างเราๆ เอาไปใช้งานกันได้บ้าง!

ยาวไป อยากเลือกอ่าน?

เทรนด์กลยุทธ์การตลาด: กระแสการตลาดกำลังเปลี่ยนไปสู่คอนเทนต์ที่เน้นคุณค่า

กลยุทธ์มาแรง! “ความจริงใจ” คือกุญแจสำคัญในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค

  • นักการตลาดเริ่มให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายอย่าง คนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z มากขึ้น
  • ธุรกิจหันมาลงทุนกับ การตลาดที่นำโดยแบรนด์ มากขึ้น และผู้บริโภคก็ให้ความสนใจกับ ความจริงใจและความเป็นของแท้
  • การวางกลยุทธ์การตลาดโดยใช้ข้อมูล (Data-driven) ไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ก็กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนกังวล
  • ทีมการตลาดกำลังมุ่งหน้าไปสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย คอนเทนต์คุณภาพและโซเชียลมีเดียเป็นหลัก
  • การตลาดแบบ Personalized Marketing ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทรนด์ที่ 1: ทั้ง B2B และ B2C มุ่งเป้าไปที่กลุ่ม Millennial และ Gen Z มากขึ้น

เพราะว่า Gen Z และ Millennial เติบโตมากับโลกออนไลน์ เลยทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มที่เข้าถึงยากที่สุดสำหรับทั้ง B2B และ B2C

  • นักการตลาดกว่า 70% วางแผนจะเน้นกลุ่ม Millennial ในปี 2025 ทำให้พวกเขา เป็นกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจที่ใหญ่ที่สุด
  • ความสนใจในการทำการตลาดกับ Gen Z ก็เพิ่มขึ้นทุกปี สวนทางกับกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers ที่ถูกให้ความสนใจในการทำการตลาดลดลงกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing 2025 by HubSpot

ตัวอย่างจากแบรนด์ Jaguar: Jaguar ได้มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ในปี 2024 เพื่อเข้าถึงกลุ่ม Gen Z และ Millennial ให้มากขึ้นด้วยการเน้นโปรโมตรถ EV รุ่นใหม่ๆ เพราะพวกเขารู้ว่าคนซื้อรถสมัยนี้ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม บวกกับที่แบรนด์อยากสร้างภาพลักษณ์ว่าแบรนด์ที่ไม่กลัวที่จะฉีกกฎ และถึงแม้ผลตอบรับจากกลยุทธ์นี้จะไม่ได้หวือหวาอะไรนัก แต่ก็ช่วยให้ Jaguar ก็กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง

เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing 2025 by HubSpot

จากการสำรวจ 2025 Gen Z and Millennial Survey ของ Deloitte พบว่า

  • Gen Z 64% และ Millennial 63% ยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม
  • 1 ใน 4 ของ Gen Z และ Millennial เคยลดความสัมพันธ์กับธุรกิจเพราะแนวปฏิบัติที่ไม่ยั่งยืน ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้เขาให้ความสำคัญกับค่านิยมของแบรนด์และการรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากๆ ค่ะ
  • Gen Z ใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเยอะ โดยเฉพาะ TikTok, Instagram, และ YouTube และเชื่อ Influencer ในการแนะนำสินค้า
  • Millennial ใช้ YouTube, Facebook, และ Instagram สำหรับการติดตามข่าวสาร, การแนะนำสินค้า, ไลฟ์สไตล์, และการศึกษา แถมยังฟัง Podcast เป็นประจำ และสมัครบริการแบบ subscription เยอะด้วยค่ะ

เทรนด์ที่ 2: การตลาดที่จริงใจและเน้นตัวตนของแบรนด์

ในปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของวงการการตลาด 2 อันดับแรกคือเรื่องประสบการณ์แบรนด์ (Brand Experience) และคอนเทนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบรนด์ (Brand-led content) สำคัญกว่าการเรื่อง Data หรือ AI ซะอีก แถม 13% ของนักการตลาดที่ HubSpot ไปสำรวจมาก็มีการวางแผนจะลงทุนกับการสร้าง Brand Awareness เป็นครั้งแรกในปี 2025 ด้วย

  • 65% ของนักการตลาดบอกว่าการพูดถึงประเด็นทางสังคมในแคมเปญการตลาดปี 2024 นั้นส่งผลดีต่อแบรนด์ของพวกเขา
  • 92% ของนักการตลาดวางแผนที่จะคงการลงทุนหรือเพิ่มการลงทุนในการสร้าง Brand Awareness ในปี 2025
  • 1 ใน 4 ของนักการตลาดกำลังคิดเรื่องการสร้างคอนเทนต์ที่สะท้อนค่านิยมของแบรนด์ด้วย

แจก Prompt วัด Brand Awareness ด้วย AI

  • ใช้ AI ประเมิน NPS (Net Promoter Score): ลองใช้ ChatGPT หรือ Claude วิเคราะห์การปรากฏตัวบนโลกออนไลน์ของแบรนด์
    • Prompt ตัวอย่าง: “ช่วยประเมิน Brand Awareness และ Positioning ของแบรนด์ [ชื่อแบรนด์] หน่อย เราเป็น [คำอธิบายบริษัท] ขายให้ [กลุ่มเป้าหมาย] ช่วยประเมิน Aided Awareness ในกลุ่มเป้าหมาย เหตุผลที่ลูกค้าเลือกเรา และช่วง NPS ที่เป็นไปได้”
  • วิเคราะห์รีวิวและ Customer Support Ticket ด้วย AI: เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกของลูกค้าและ Positioning ของแบรนด์
    • Prompt ตัวอย่าง: “วิเคราะห์ข้อมูล feedback ลูกค้าชุดนี้และให้ข้อมูล 1) แนวโน้มและความรู้สึกหลัก, 2) ปัญหาและความต้องการของลูกค้า, 3) การวิเคราะห์คู่แข่ง, และ 4) โอกาสในการวาง Positioning ที่แนะนำ. โปรดระบุปริมาณที่ทำได้และยกตัวอย่าง/คำพูดสนับสนุน”

เทรนด์ที่ 3: Data คือสิ่งจำเป็น Data Privacy คือสิ่งสำคัญ

ความท้าทายเรื่องการใช้ Data ที่เรารู้กันคือ ลูกค้าไม่ค่อยอยากแชร์ข้อมูลส่วนตัวเท่าไหร่ หรือถ้าได้ข้อมูลแล้วก็อาจจะอยู่ในสภาพที่นำไปใช้ได้ยาก แถมกฎเรื่อง Data Privacy ก็เข้มงวดขึ้น (ที่เห็นได้ชัดเลยคือการยกเลิก Third-party Cookies นี่แหละ ไหนจะเรื่อง Privacy ของ Apple อีก)

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Data ถือเป็น Asset ที่สร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจได้เยอะจริงๆ ค่ะ

  • Data ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 35%
  • Data ช่วยเพิ่ม ROI ของการตลาดได้กว่า 34%
  • Data ช่วยวางแผน Media Mix ให้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น 32%
เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing 2025 by HubSpot

HubSpot ได้แชร์ขั้นตอนการทำงานกับ Data เอาไว้ในรายงานฉบับนี้ด้วยค่ะ เพื่อให้เหล่านักการตลาดนำไปตัดสินใจในธุรกิจได้แม่นยำมากขึ้น

  1. กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่าต้องการอะไร
  2. รวบรวมและเตรียมข้อมูลจากแหล่งที่เกี่ยวข้อง เช่น ฐานข้อมูลภายใน, การสำรวจ, Feedback ลูกค้า, การวิจัยตลาด
  3. วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้รายงานแบบครั้งเดียว (one-off reports) และ Dashboard แบบเรียลไทม
  4. ตีความผลลัพธ์ด้วยการเปรียบเทียบกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของเรา
  5. ประเมินทางเลือกในการตัดสินใจ เช่น การวิเคราะห์ต้นทุน-ผลประโยชน์ หรือ Decision Tree
  6. ตัดสินใจ
  7. ติดตามผล, เรียนรู้, และปรับปรุง

เทรนด์ที่ 4: อนาคตที่เน้นคอนเทนต์และโซเชียลมีเดีย

ผู้บริโภคอยากรู้จักแบรนด์ที่พวกเขา มีปฏิสัมพันธ์ด้วย และอยากติดตามข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดียและช่องทางที่พวกเขาชอบและสะดวก ยิ่งแบรนด์ปรากฏให้เห็นบ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความไว้วางใจได้มากขึ้นเท่านั้น

  • ผู้นำด้านการตลาดให้ความสำคัญกับการจ้างงานในตำแหน่ง Social Media, Creative, และ Content ในปี 2025 รวมถึงนักวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดด้วย
  • แบรนด์ยังมองหา AI มาช่วยลดช่องว่างระหว่างจำนวนพนักงานกับปริมาณงานที่คาดหวัง
  • การตลาดแบบ Passive ที่ใช้ได้กับทุกคนกำลังจะหมดไป แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในปี 2025 คือแบรนด์ที่ฟังอย่างกระตือรือร้น, ปรับตัว, และมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายแบบเรียลไทม์!

ตำแหน่งฮอตที่ถูกเล็งจ้างงานมากที่สุดในปี 2025 (Top 5)

  • Social Media Coordinator (16%)
  • Content Creator (16%)
  • Social Media Strategist (15%)
  • Creative Director (14%)
  • Marketing Data Analyst (13%) 

เทรนด์ที่ 5: เพิ่มยอดขายด้วยกลยุทธ์ Personalized Marketing

การเปลี่ยนแปลงอันดับหนึ่งที่ผู้นำด้านการตลาดบอกว่าเกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาคือ การให้ความสำคัญกับลูกค้าและประสบการณ์ของลูกค้ากับแบรนด์มากขึ้น และจากการสำรวจของ HubSpot พบว่า 96% ของนักการตลาดบอกว่าประสบการณ์เฉพาะบุคคล หรือการทำ Personalize Marketing ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริงค่ะ

เจาะลึกเทรนด์การตลาด จากรายงาน The State of Marketing 2025 by HubSpot

ไอเดียการใช้ AI ทำ Personalized Marketing

  • อีเมล: ใช้ AI รวบรวมรายละเอียดลูกค้า จากนั้นใส่ข้อมูลลงใน LLM (Large Language Model) ก่อนส่งอีเมลการตลาด
  • Thought Leadership: ตั้งค่า Social Listening โดยใช้ AI ช่วยหาโอกาสในการเป็น Thought Leadership แล้วใช้ AI หรือ Automation ตอบกลับให้เร็วกว่าคู่แข่ง
  • Chatbots: ตั้งค่า Chatbot บนเว็บไซต์เพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนตัวให้ลูกค้าเมื่อเข้าชมเว็บไซต์หรือขอความช่วยเหลือ
  • Landing Pages: ลองใช้ AI สร้างแคมเปญการตลาดที่ Personalized เช่น Niche Landing Page
  • Localization and Translation: ปรับแต่งเนื้อหาตามภูมิภาคและภาษา โดยการแปลงเนื้อหาหลักให้เป็นเนื้อหาที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นสำหรับกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะกลุ่มที่กำลังเติบโต 

เทรนด์คอนเทนต์: กลุ่มเป้าหมายอยากเชื่อมโยงกับแบรนด์ในที่ที่พวกเขาอยู่

เทรนด์ที่ 1: Visual Storytelling กำลังมาแรงกว่าคอนเทนต์แบบข้อความ

รูปแบบคอนเทนต์ที่นักการตลาดบอกว่าให้ ROI สูงสุด

  • วิดีโอสั้น (21%)
  • รูปภาพ (19%)
  • วิดีโอ Live Stream (16%)

ในขณะที่ทั้ง B2B และ B2C ให้ความสำคัญกับรูปแบบสื่อแต่ละประเภทใกล้เคียงกัน และจากผลสำรวจจะเห็นว่า Short-form Video คือคอนเทนต์ที่ถูกให้ความสำคัญมากที่สุดเหมือนกัน

  • วิดีโอสั้น (B2B: 30%, B2C: 30%)
  • รูปภาพ (B2B: 29%, B2C: 30%)
  • บทสัมภาษณ์ (B2B: 24%, B2C: 21%)
  • บทความบล็อก (B2B: 23%, B2C: 20%)
  • วิดีโอยาว (B2B: 19%, B2C: 18%)
  • คอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (User-generated content) (B2B: 18%, B2C: 21%)
  • วิดีโอ Live Streaming (B2B: 17%, B2C: 22%)

เทรนด์ที่ 2: Podcast และ Audio Content เติบโตขึ้นสำหรับทั้ง B2B และ B2C

Podcast เป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย และอยู่ตรงกลางระหว่างการให้ความรู้หรือแรงบันดาลใจและการฟังแบบสบายๆ แถมยังได้รู้จัก Host มากขึ้นด้วย โดยในปี 2024 มีคนฟัง Podcast เยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมี 46% ของผู้ฟัง Podcast รายสัปดาห์ที่ทำการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกพูดถึงใน Podcast ด้วย

เทรนด์ที่ 3: ช่องทางโซเชียลยอดนิยมในปี 2025 คือ YouTube, Instagram, และ TikTok

ความท้าทายหลักของนักการตลาดในปี 2024 คือการตามเทรนด์ให้ทัน และพอเข้าปี 2025 ก็อยากเพิ่มผู้ติดตามแบรนด์และรักษาไว้ให้ได้มากขึ้น ในขณะที่ B2B ยังมีความท้าทายในการในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอยู่ โดยจากผลสำรวจนี้พบว่า

  • Facebook, TikTok, และ YouTube จะยังคงแข็งแกร่งสำหรับทั้งแบรนด์ B2B และ B2C
  • B2B วางแผนจะลงทุนใน LinkedIn มากขึ้น
  • B2C อยากลงทุนใน TikTok มากขึ้น

ตัวอย่าง: แบรนด์ Casio เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายและเพิ่ม Brand Awareness บนโลกออนไลน์ ผ่าน Instagram, TikTok, และ YouTube

เทรนด์ที่ 4: กลยุทธ์ Influencer Marketing ค่อนข้างประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะ Influencer ที่มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Niche Audience)

ในปี 2024 นักการตลาด 24% ได้มีการใช้ Influencer Marketing กับแบรนด์ B2B และ B2C โดยประสบความสำเร็จมากที่สุดกับ Micro Influencer ที่มีผู้ติดตาม 10,000 – 100,000 คน และยังบอกว่าการทำงานกับ Creator หรือ Influencer ขนาดเล็กช่วยให้แบรนด์สร้างความไว้วางใจกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ และใช้เงินงบประมาณ Influencer Marketing ได้คุ้มค่ามากขึ้น

โดยแพลตฟอร์มที่ใช้ทำ Influencer Marketing แล้วได้ ROI สูงสุดคือ 

  • Facebook (28%)
  • Instagram (22%)
  • YouTube (12%) 

ข้อมูลของเทรนด์ Influencer ที่สอดคล้องกับเทรนด์คอนเทนต์คือแบรนด์มักจะใช้ 50-74% ของงบประมาณการตลาดไปกับ Influencer หรือ Content Creator และในขณะเดียวกัน ผู้นำที่ให้การสำรวจกับ HubSpot มีความเห็นว่า Influencer ที่สร้างโดย AI หรือ Social Media Avatar จะมาแทนที่ Influencer ภายในสิ้นปี 2025

เทรนด์ AI: กระทบต่อบทบาทการตลาดสูง แต่ก็ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ

นักการตลาด 54% รู้สึกว่าการจะเอา AI มาใช้ในงานนั้นมันชวนเครียดและเกินจะรับมือไหว แต่ก็รู้ว่า AI คืออนาคต และ 92% บอกว่า AI เริ่มส่งผลกระทบต่อบทบาทของพวกเขาไปเยอะแล้ว

เทรนด์ที่ 1: เครื่องมือ AI ช่วยให้นักการตลาดรับมือกับความต้องการคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้นและทำ Research ได้ดีขึ้น

  • 1 ใน 4 ของนักการตลาดวางแผนที่จะใช้ AI เพื่อแปลงข้อความเป็นแคมเปญมัลติมีเดีย
  • 1 ใน 5 ของนักการตลาดวางแผนที่จะลองใช้ AI Agent เพื่อทำให้จัดการงานการตลาดได้แบบอัตโนมัติและครบวงจร ตั้งแต่ขั้นวางกลยุทธ์ไปจนถึงลงมือทำจริง

เทรนด์ที่ 2: การใช้ AI ในการตลาดยังต้องมีการเรียนรู้อีกเยอะ

ค่สองกว่าปีหลังจาก ChatGPT เปิดตัว นักการตลาดก็ถูกคาดหวังให้ใช้ AI ในเวิร์กโฟลว์การตลาดแล้ว บทบาทและความรับผิดชอบก็เปลี่ยนไปให้ปรับตัวได้รวดเร็วตาม AI

  • 47% ของนักการตลาดรู้จริง ว่าจะใช้ AI ในกลยุทธ์การตลาดได้อย่างไร
  • 47% ของนักการตลาดมีความเข้าใจเรื่องการวัดผลกระทบของ AI ในกลยุทธ์การตลาดได้อย่างไร 

เทรนด์ที่ 3: AI เปลี่ยนวิธีการค้นหา และแบรนด์ต้องคิดเรื่องการแสดงตัวบนออนไลน์มากขึ้น

เกือบครึ่งหนึ่งของนักการตลาดสังเกตเห็นว่าการที่ผู้บริโภคใช้ AI ค้นหาคำตอบ ค่อนข้างส่งผลกระทบเชิงบวกกับ Website Traffic

  • สำหรับ B2B: Traffic เพิ่มขึ้น 47%, คงที่ 48%, ลดลง 5%
  • สำหรับ B2C: Traffic เพิ่มขึ้น 45%, คงที่ 52%, ลดลง 3%

สำหรับแบรนด์ การได้แสดงตัวในที่ที่ผู้บริโภคอยู่ (หรือก็คือแพลตฟอร์มที่พวกเขาอยู่นั่นแหละ) และแสดงในรูปแบบที่พวกเขามักมีส่วนร่วมด้วย คือสิ่งสำคัญอันดับแรก! และ 19% ของนักการตลาดวางแผนที่จะสร้างกลยุทธ์ SEO สำหรับ Generative AI ในการค้นหาในปี 2025 ด้วย (คุณไอซ์จาก NerdOptimize เคยเขียนวิธีการทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงใน Generative AI เอาไว้ใน Blog ของ Content Shifu แล้ว ตามไปอ่านกันได้ในบทความ นักทำ SEO จะทำอย่างไร เมื่อ AI Search เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค? เลยค่า)

สรุป

จากรายงาน The State of Marketing 2025 ของ HubSpot เราได้เห็นภาพชัดเจนว่าการตลาดในปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องของเทคนิคหรือการทำคอนเทนต์ให้ไวรัลอีกต่อไป แต่เป็นการเข้าใจลูกค้าให้ลึกยิ่งกว่าเดิม

  • ใครคือกลุ่มเป้าหมายหลักที่ควรโฟกัส?
  • แบรนด์ของเรามีตัวตนและความจริงใจพอจะสร้างสายสัมพันธ์กับผู้บริโภคหรือยัง?
  • เราใช้ Data ได้ฉลาดและเคารพ Privacy มากแค่ไหน?
  • เราพร้อมหรือยังกับการทำ Personalized Experience ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม?
  • เราใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ หรือแค่ตามเทรนด์?

ในปี 2025 นี้ นักการตลาดที่ประสบความสำเร็จจะไม่ใช่คนที่ “ทำเยอะ” แต่เป็นคนที่ “เลือกทำสิ่งที่ใช่” ด้วยเครื่องมือและแนวคิดที่ถูกต้อง! ชมาหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ นักการตลาดมองเห็นแนวทางและวางกลยุทธ์ได้เฉียบคม พร้อมลุยในสนามการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไวในทุกๆ วันได้อย่างมั่นใจนะคะ!

เร็วนี้ๆ ชมาจะเขียนสรุปเทรนด์คอนเทนต์ จากรายงานฉบับนี้ด้วย ฝากติดตามกันไว้นะคะ

Share on

Chama

Writer

Chama

ชมา Content Creator จาก Content Shifu - ชอบสังเกตกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และ Customer Experience ส่วนตัวสนใจเรื่อง Productivity ของคนทำงาน และกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับ ESG เวลาว่างมักใช้เวลาบน Netflix กับเรียลลิตี้และสารคดีอาชญากร

More From Me