รีวิววิธีลงโฆษณา TikTok Ads ดีไหม แพงไหม ใช้ยากหรือเปล่า?

เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ แน่นอนว่าหลายคนคงจะเทคะแนนให้กับ ‘TikTok’ แพลตฟอร์มการทำวิดีโอสั้นที่เป็นกระแสและได้รับความนิยมไปทั่วโลก ยิ่งในช่วง Covid-19 ที่ผ่านมาจะเห็นว่า Tiktok ในไทยเติบโตขึ้นมาก จากการที่ทั้งใช้งานง่าย เรียล และสร้างความบันเทิงให้คนไทยในช่วงหยุดอยู่บ้านได้ 

ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นที่สนใจของนักการตลาดสายดิจิทัลว่า หากเริ่มต้นทำโฆษณาบน TikTok Ad ที่เพิ่งจะเปิดตัวมาจะคุ้มค่ามาก-น้อยแค่ไหน? และฟีเจอร์หลังบ้านจะมีของอะไรให้ลองเล่นบ้าง?

ไม่ต้องเสียเวลาไปทดลองเองค่ะ บทความนี้เราเก็บคำตอบและเขียนออกมารีวิวการใช้งานแบบละเอียดยิบให้กับคุณแล้วค่ะ ????

 

TikTok Ads คืออะไร? มาทำความรู้จักกันหน่อย

ภาพจาก https://ads.tiktok.com/homepage/

TikTok Ads เป็นการทำการตลาดด้วยการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม TikTok โดยในช่วงแรกที่เปิดให้ใช้พื้นที่โฆษณาบน TikTok Ads นั้นยังจำกัดให้เฉพาะกลุ่ม Official Brand ต่างๆ หรือการสร้างแคมเปญใหญ่ๆ 

เช่น การซื้อโฆษณาแบบเหมาพื้นที่, การสร้างแคมเปญ Hastag Challage ฯลฯ ซึ่งใช้ค่าโฆษณาในแต่ละรูปแบบ Ads ที่สูงพอสมควรถึงจะสามารถลงโฆษณาได้ แต่ในตอนนี้ TikTok Ad มีการเปิดให้กลุ่ม SMEs สามารถลงโฆษณาได้เองในราคาที่ไม่สูงได้แล้วค่ะ

ประเภทของ TikTok Ads

ก่อนอื่นมาดูรูปแบบการทำโฆษณาบน TikTokk Ads กันก่อน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่

โฆษณา TikTok Ads ที่เหมาะสำหรับแบรนด์

เพราะ TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ถือได้ว่า เติบโตสูงสุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครกับคอนเซปต์ Short Video Entertainment เล่นเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ แถมยังใช้พลังทางจิตวิทยาทำให้คน ‘ติด’ และ ‘หลง’ อยู่ได้เป็นวันๆ

สำหรับฝั่งแบรนด์ใหญ่ที่มี Budget ในการทำโฆษณาเพื่อ Brand Awareness หรือการสร้าง Engagement ที่ค่อนข้างสูง (เริ่มตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านบาท) อยากให้แบรนด์ของคุณเข้าถึงคนได้เป็นจำนวนมากจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ TikTok Ads จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าลองใช้พื้นที่โฆษณานี้ในการ PR แบรนด์ในยุคนี้ เพราะแพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้งานขนาดใหญ่ ที่จะมองเห็น Ads ของคุณได้มากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว

สร้างรูปแบบ ads ที่แปลกใหม่ให้แบรนด์ได้ใน TikTok Ads

ในเรื่องรูปแบบของ Ad Placements ที่ทาง TikTok เปิดให้แบรนด์สร้าง Official Account เองก็ยังมีความน่าสนใจ เพราะแบรนด์สามารถออกแบบรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายตำแหน่งได้ และมีลูกเล่นมากมายให้ได้ลอง เช่น

• Brand Takeover: รูปแบบโฆษณาที่เรียกยอด Reach ได้สูงที่สุด เป็นรูปแบบ Ad ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีแคมเปญอยู่แล้ว แต่อยากสร้าง Brand Awareness ให้กับผู้ใช้งาน TikTok ก่อนจะเข้าสู่หน้า Feed 
• Hashtag Challenge: ช่วยสร้าง Engagement และ Awareness ปริมาณมากให้กับแบรนด์ โดยจะจัดทำขึ้นมาเป็นแคมเปญ ให้ผู้ใช้งานได้เข้าร่วมสนุกและลุ้นเข้าชิงรางวัล
• Branded effects: ใช้สำหรับการทำ Effects เพื่อให้เหล่า Content Creator นำไปใช้ในวิดีโอ (คล้ายกับ Snapchat และ Instagram) หรือใช้เพื่อสนับสนุน Hashtag Challenge ที่ซื้อเพิ่มเติมก็ได้

(รูปแบบ Ad Placements แบบพรีเมียมสำหรับแบรนด์นี้จะต้องซื้อโฆษณาผ่านตัวแทนของ TikTok เองนะคะ)

โฆษณา Tiktok Ads ที่เหมาะสำหรับ SMEs

เป็นบริการใหม่ที่มาได้เพียงไม่นานเลย กับการเปิดให้ธุรกิจ SMEs ได้ใช้พื้นที่ของ TikTok ในการโฆษณาสินค้าและบริการเพิ่มเติมในเรทราคาที่จับต้องได้ แต่รูปแบบโฆษณาอาจจะไม่ได้หลากหลายเท่ากับการซื้อโฆษณาในฝั่งแบรนด์

โดยรูปแบบโฆษณาที่เปิดให้ SMEs ได้เข้ามา Bidding กันจะเป็นแบบ In-feed ads ซึ่งเป็นการรัน Ads แทรกระหว่างการรับชมวิดีโอบน TikTok (รูปแบบเหมือนกันกับ Video feed ads ของ Facebook) โดยคุณสามารถทำการโฆษณาเพื่อขายของ แจ้งโปรโมชัน แถมยังสามารถเพิ่ม Call to Action ต่างๆ เพื่อเพิ่ม Conversion ได้อีกด้วย

วิธีลงโฆษณา TikTok Ads

สำหรับรีวิวนี้จะเป็นการพาไปเยี่ยมชมหลังบ้านการทำ TikTok Ads แบบ Step by Step นะคะ โดยในรอบนี้เราเลือกลงโฆษณาและรีวิวหลังบ้านการลงโฆษณาในรูปแบบ In-feed Ads ที่เปิดให้ธุรกิจ SMEs ได้ใช้กันแบบหมาดๆ มาดูกันดีกว่าว่า หน้าตาหลังบ้านและฟีเจอร์การใช้งานจะเป็นอย่างไรบ้าง

Business Center

หน้าตา Dashboard ของ Business Center

ก่อนทำการสร้างแคมเปญ Ads คุณจะต้องทำการสร้าง Ad Account ที่ https://ads.tiktok.com/ หลังจากนั้นจะพาเข้าสู่หน้า Business Setting ที่เรียกว่า Business Center หน้าตา Dashboard จะคล้ายคลึงกับ Facebook Business Manager ที่เราเคยใช้กันอยู่ 

โดยภายใต้ Business Center จะมีส่วนประกอบ 4 ส่วนด้วยกันคือ…

• Overview: เป็น Dashboard แสดง Trends ผลลัพธ์โดยรวมของแคมเปญที่ทำงานอยู่ใน Account ที่เราถืออยู่ รวมถึงโชว์ My Ad Account ที่คุณผูกไว้กับทาง TikTok Ads ให้ ซึ่งคุณสามารถเข้าไปเซ็ตแคมเปญต่างๆ ได้จากส่วนนี้
• User: ส่วนที่ใช้ในการ Invite member เพิ่มเติม
• Asset: จัดการเรื่อง Ad Accounts ที่ช่วยในการบริหารจัดการทีมได้
• Setting: ใช้แก้ไขข้อมูล Information เช่น อีเมล รหัสผ่าน ฯลฯ 

เข้าใช้งานเพื่อสร้าง Campaign ได้จากการคลิกผ่าน Acoount Name ของคุณ

TikTok Ads Management

เข้าสู่ส่วนของการสร้างแคมเปญของ TikTok Ads จะมี Structure ของโฆษณาที่คุณต้องใช้งานอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน คือ…

• Dashboard
• Campaign
• Library
• Reporting

Dashboard

หน้าตาของ Dashboard ของ TikTok Ads ในภาพรวมดูแล้วคล้ายกับหน้า Dashboard ของ Business Center แต่จะต่างกันตรงที่รายละเอียดของ Metric ที่นำมาแสดงผล 

โดย Dashboard  นี้จะแสดงผลลัพธ์ของแคมเปญทั้งหมดที่เรากำลังเปิดใช้งานอยู่ให้เห็นทั้งในรูปแบบของกราฟในรูปแบบต่างๆ ซึ่งรูปแบบการแสดงผลของ Metric เหล่านี้เราจะเห็นได้อยู่บ่อยๆ บนหน้า Google Analytics และ Facebook Ads

Campaign

มาดูกันต่อในแถบเมนู Campaign จะเป็นส่วน Create และรันการทำงานของ Ad โดยเริ่มต้นกันง่ายๆ เพียงแค่กดที่ปุ่ม Create และจัดการสร้างองค์ประกอบของโฆษณาตามลำดับ ดังต่อไปนี้

1. Campaign Objective
2. Ad Group
3. Ads

Campaign Objective

 

หลังจากกดปุ่ม Create เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้าการสร้าง Campaign Objective หรือที่เรียกกันในนี้ว่า Advertising Objective ซึ่งรูปแบบของรายละเอียดต่างๆ คล้ายกันกับ Facebook Ad มากๆ ใครที่เคยทำการตลาดบน Facebook มาก่อนก็น่าจะรู้สึกว่าใช้งานง่ายมากเลยทีเดียว

ส่วน Objective ที่คุณสามารถเลือกใช้งานได้จะมีอยู่ 3 Objective ด้วยกัน ได้แก่ 

• Awareness (Reach)
• Consideration (แยกออกเป็น Traffic, App Installs, Video Views) 
• Conversion (Conversions) 

และนอกจากคุณจะตั้ง Objective ได้แล้ว คุณยังสามารถเซ็ต A/B Test พร้อมกำหนด Limit Budget ที่คุณต้องการได้ในส่วนนี้อีกด้วย

Ad Group

เมื่อทำการสร้าง Advertising Objective เสร็จแล้ว ต่อมาจะเป็นการตั้งค่า Ad Group ต่างๆ ซึ่งเป็นรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายที่คุณจะเลือกตั้งค่าให้ Ads ส่งไปให้เห็น โดยจะมี Structure ของโฆษณาที่คุณจะต้องลงรายละเอียด ดังนี้

Settings:  เป็นส่วนของการเลือกว่าจะสร้าง Ad Group Name ขึ้นมาใหม่หรือจะเลือกใช้ของเดิมที่คุณเคยทำเอาไว้แล้ว

Placements: เป็นการระบุถึงสถานที่ที่โฆษณาของเราจะไปปรากฏ อย่าง Facebook Ads ก็จะมีการแสดงผลใน Massenger, New feed หรือแม้แต่ Story IG ก็สามารถเลือกเป็น Placement ที่คุณนำ Ads ขึ้นไปโชว์ได้ ซึ่งบน TikTok เองก็มี Placement ที่หลากหลาย และอาจจะยังไม่เคยได้ลองซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วย 

• TikTok: จะเป็น In-feed ads ปรากฏบน “For You” page 
• News Feed Apps (TopBuzz, BuzzVideo, News Republic, etc.): จะปรากฏบน Newsfeed ads และ Detail page ads 
• Vigo: จะปรากฏอยู่บน Poster ads and Video ads 
• Helo: จะปรากฏอยู่บน In-feed ads Pangle (TikTok Audience Network)

Ad Detail: ส่วนนี้จะเป็นรายละเอียดของ Ad ทั้งการใส่ URL ของ App หรือหน้า Landing Page ที่ต้องการจะโปรโมต, การตั้ง Display Name และ Profile Image ที่จะใช้เเสดง และการใส่ Category และ Ad Tags ที่เกี่ยวข้องกับโฆษณา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาทำงานได้ดีขึ้น

Creative Type: TikTok Ads สามารถเปิดระบบ Automated Creative เพื่อประเมินประสิทธิภาพของโฆษณาและปรับรูปแบบให้อัตโนมัติ (คล้ายกับการทำ Dynamic Ads ของ Google และ Facebook)

Targeting: ถ้าหากคุณใช้งาน Facebook Ads อยู่แล้ว การเซ็ต Targeting ของ TikTok Ads ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณเลยค่ะ เพราะคุณสามารถเลือก Target ได้ทั้งจาก Audience ที่คุณมี, เลือกตั้งค่าจาก Demographic, ความสนใจ และการใช้งาน Device ของกลุ่มเป้าหมายได้เหมือนกัน

Budget & Schedule และ Bidding & Optimization : ในเรื่องของค่าใช้จ่ายคุณสามารถเลือกตั้ง Budget ได้ทั้งแบบ Lifetime Budget (ขั้นต่ำสุดที่ 6,000 บาท) หรือ Daily Budget (ขั้นต่ำสุดที่ 200 บาท/วัน) โดยเลือก Schedule วันและช่วงเวลาได้ตามที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกราคา Bid/Click ที่คุณรับได้เพิ่มเติมได้อีกด้วย

Ads

มาถึงส่วนสำคัญส่วนที่ 3 ของการสร้างแคมเปญบน TikTok Ads แล้วนะคะกับการเซ็ต Ads Format ซึ่งหลังจากที่คุณตั้งค่ารายละเอียดของ Ad Group พร้อมกดปุ่ม ‘Next’ เรียบร้อยแล้ว ก็จะเข้าสู่หน้า Create Ads ที่คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เป็นรูปแบบ Single Video หรือ Single Image ก็ได้ในการทำการโฆษณา

• Single Video

หากใครที่เลือกใช้โฆษณาในรูปแบบวิดีโอ คุณสามารถเลือกใช้วิดีโอที่ทำขึ้นมาเอง แต่ต้องมีขนาดไฟล์ รูปแบบ และความยาวที่ไม่เกินกำหนด หรือจะเลือกใช้วิดีโอที่อัปโหลดจาก Library ของคุณ รวมถึงจะเลือกใช้วิธีการ Create ใหม่ก็ได้

 

ซึ่งฟีเจอร์ของการ Create a Video ก็มีระบบ AI ที่จะช่วยตัดต่อวิดีโอที่เราอัปโหลดขึ้นไปให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มได้มากขึ้นอีกด้วย

 

• Single Image

การสร้าง Single Image จะแสดงผลแค่ใน 3 แพลตฟอร์มนี้ ได้แก่ TopBuzz & BuzzVideo, Vigo และ Helo โดยคุณสามารถเลือกเพิ่มไฟล์ Single Image ได้จากคอมพิวเตอร์หรือเลือกใช้งานจาก Library ที่คุณสร้างเก็บไว้ก็ได้

หลังจากที่เราตั้งค่าโฆษณามาจนถึงขั้นตอนนี้ และกด Submit เรียบร้อยแล้ว ก็รอให้ Ad Approval ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานค่ะ หลังจากนั้นแคมเปญก็จะเริ่มทำงานแล้วค่ะ

Library

Library เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้การทำ TIkTok Ads ของคุณง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะแบ่งออกมาเป็น 3 หมวดการใช้งานด้วยกัน ได้แก่…

• Event

เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในการจัดการเรื่องของการ Tracking ต่างๆ ซึ่งทำได้ทั้งบน Application โดยตัวจัดการ App Event หรือถ้าใครมี Website ก็สามารถเลือกสร้างโค้ด Pixel ในส่วนนี้เพื่อนำไปติดตั้งในเว็บไซต์ได้ด้วยเหมือนกัน

• Creative

นอกจากจะมีส่วน Support ด้านการ Tracking แล้วก็ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างงาน Creative เก็บไว้เป็นสต๊อกให้กับเราได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Video, สร้างสไลด์ภาพจาก Landing Page URL หรือแม้กระทั่ง Soundtrack ก็สามารถสร้างเก็บไว้ได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไอเดียที่ดี เพราะบางทีที่เรายังไม่สามารถรัน Ads ได้ก็เพราะเราไม่มีไอเดียในการทำงานดีไซน์สักที นี่จึงเป็นหนึ่งตัวช่วยในการทำงาน Creative ได้ดีทีเดียว

• Audience

วิธีการสร้าง Audience ของ TikTok Ads มีความคล้ายคลึงกับของ Facebook Ads มากๆ ค่ะ โดยคุณสามารถสร้างได้ทั้ง Custom Audience และ Lookalike Audience แต่ในส่วน Custom Audience จะมีรูปแบบการสร้าง Audience อยู่แค่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Customer File, Engagement, App Activity และ Website Traffic เท่านั้น

และหนึ่งหนึ่งอย่างที่อาจจะแตกต่างกับการเซ็ต Audience ของ Facebook Ads ก็คือ กลุ่มเป้าหมายอาจจะเซ็ตได้ไม่ละเอียดมากนัก เช่น บน TikTok Ads จะไม่สามารถเลือก Audience  เฉพาะหน้าเว็บไซต์หน้าใดหน้าหนึ่งได้เหมือนกับ Facebook Ads

Reporting

และเมนูสุดท้ายคือ Reporting เป็นฟีเจอร์สำหรับทำ Custom Report เอง โดยมีฟังก์ชันให้เลือกทั้งแบบ Custom ได้เองทั้งหมด หรือการเลือกจากเทมเพลตโดยมี 2 รูปแบบให้เลือกคือ Ad Group Performance และ Ad Performance ซึ่งก็จะมี Metric และ Dimensions ที่เกี่ยวข้องแนะนำขึ้นมาให้ 

นอกจากนี้ยังมีระบบ Scheduled Running สำหรับการตั้งเวลาการส่ง Report ไปยังอีเมลได้ทั้งแบบรายวัน, รายสัปดาห์, วันแรกของเดือน หรือวันสุดท้ายของเดือน (จำกัดสูงสุดที่ 5 อีเมล) ซึ่งถ้าใครเคยยิงโฆษณาบน Platform อื่นๆ มาแล้ว Report ตัวนี้ไม่ได้ใช้งานยากเกินไปเลยค่ะ

TikTok Ads ราคาเท่าไหร่ แพงไหม?

ดูภาพรวมของการใช้งานกันไปแล้ว คราวนี้มาถึงส่วนสำคัญอีกส่วนนั่นคือเรื่องของ ‘ราคา’ กันบ้างว่า คิดแบบไหน ราคาเท่าไหร่ และผลลัพธ์จากการลงโฆษณาหลังจากทดลองใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

• วิธีการจ่ายราคาโฆษณา

สำหรับวิธีการจ่ายราคาโฆษณาของ TikTok Ads สำหรับนั้นจะเป็นระบบเติมเงิน โดยจะตัดเงินได้จากหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น…

• บัตรเครดิต
• บัตรเดบิต
• Net Banking
• BHIM UPI
• บริการ Paytm

คุณจะต้องทำการเติมเงินเข้าระบบ Ad Account ก่อนจึงจะสามารถลงโฆษณาได้ ซึ่งในปัจจุบันมีขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 500 บาท จึงอาจจะเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันสำหรับคนที่อยากลงโฆษณาครั้งแรก แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำอยู่ที่เท่าไหร่ ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ และอาจทำให้เราใช้จ่ายมากเกินจริงได้จากการเติมเงินแบบ Pre Paid ไปก่อน

ส่วนการรันแคมเปญต่อวันจะคิด Daily Budget ต่ำที่สุดอยู่ที่ 200 บาท/วัน หรือจะเลือกการกำหนดงบประมาณทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวนเงินทั้งหมดที่คุณยินดีจะจ่ายตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ใช้งานเหมือนกับบน Facebook Ads เลยค่ะ

• ผลลัพธ์การลองลงโฆษณา

ในด้านผลลัพธ์ของการลงโฆษณา เราลองเลือกทำ Ads ขั้นพื้นฐาน (In-Feed Ads) ขึ้นมา 1 ชิ้น และเลือก สร้าง Objective เป็น Traffic เพื่อดึง User เข้าสู่หน้า Landing Page ที่เราเตรียมไว้ ส่วน Budget ที่กำหนดเราคงไว้ที่ 200 บาท/วัน

ซึ่งหลังจากที่ทดลองรันแคมเปญมาประมาณ 5-6 วันจะเห็นเลยว่า เป็นแพลตฟอร์มที่ได้ Impression เยอะมากๆ ในด้าน Cost Per Reach จึงคิดว่า เป็น Ads ที่เหมาะสำหรับธุรกิจที่มี Goal ของการทำการตลาดเป็นการสร้าง Awareness หรือ Consideration 

ส่วนทาง Conversion ทางเรายังไม่มีข้อมูลชัดเจน เพราะทดลองมาไม่นาน แถมธุรกิจของเรายังเป็นแบบ High involvement ที่คนต้องรู้จักดีจริงก่อนจึงจะซื้อค่ะ 

สรุปข้อดี – ข้อเสียในความเห็นของเรา

ข้อดี

• อาจจะเพราะเพิ่งเปิดตัวให้ใช้งานได้ไม่นาน หน้าตาเลยดูเรียบง่าย เมนูยังไม่เยอะมากเท่า Facebook Ads, Google Ads จึงเหมาะกับมือใหม่ที่เข้ามาลองใช้งาน
• หน้าตาของ Dashboard และฟีเจอร์การใช้งานที่คล้ายกับ Facebook Ads มากๆ เลยคิดว่าสำหรับคนทำการตลาดบน Facebook Ads Learning curve ไม่สูงเลย
• มีฟีเจอร์ที่รองรับ Conversion Tracking ไว้พร้อม ถึงแม้เราจะมองว่า TikTok ดูจะเหมาะกับพวก Awareness Campaign มากกว่า ไม่แน่บางทีลูกค้าอาจจะ Aware เพราะ TikTok แล้วมาปิดการขายจบที่อื่นก็ได้
• เป็นช่องทางที่ได้ยอด Impression เยอะมากๆ ใครที่ต้องทำแคมเปญที่สร้าง Awareness และสามารถผลิตคอนเทนต์ที่เข้ากับแพลตฟอร์มนี้ได้นี่คือโอกาสที่ดีมากเลยทีเดียว
• มี Placement ใหม่ๆ ให้โฆษณาได้ขึ้นไปปรากฏและเรียกการเข้าถึงเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Vigo, BuzzVideo, TopBuzz, Babe ฯลฯ แต่ก็ต้องไปดูเรื่องของ Target เพิ่มเติมกันอีกที
• มีระบบ AI ที่จะช่วยตัดต่อวิดีโอที่เราอัปโหลดขึ้นไปให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มได้มากขึ้น

ข้อเสีย

• ใช้เงิน Daily Budget เริ่มต้นที่วันละ 200 บาท สำหรับธุรกิจ SMEs ถือว่าเป็นการลงทุนขั้นต่ำที่มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น (แต่จริงๆ ก็อาจจะไม่แพงก็ได้ ซึ่งก็ต้องมาลองดูกันว่ามันช่วย Reach คนได้มากแค่ไหน พา Conversion เข้ามาได้มากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับช่องทางอื่นแล้วคุ้มกว่าหรือไม่อีกด้วย)
• ตอนนี้การลงงบเป็นแบบ “เติมเงิน” (เป็นรูปแบบการตัดบัตรเครดิต แต่ว่าเป็นแบบ Pre paid) โดยส่วนตัวยังรู้สึกว่าถ้าเปลี่ยนรูปแบบน่าจะดีกว่านี้ เพราะนี่ถือเป็นเป็นการจ่ายล่วงหน้าครั้งแรกแบบที่ยังไม่รู้ผลลัพธ์ และทำให้เราใช้จ่ายมากเกินจริง
• วิดีโอโฆษณาลงได้ไม่เกิน 60 วินาที หากใครที่ลงทุนทำวิดีโอมาเอง แต่ไม่ได้เตรียมวิดีโอมาให้พอดีทั้งขนาดไฟล์ และความยาวของวิดีโอก็ต้องมานั่งตัดกันใหม่อีกรอบ
• ระบบด้านการ Support ด้านข้อมูลต่างๆ บนเว็บไซต์ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะยังใหม่ด้วย
• เรื่องการเซ็ต Target ต่างๆ อาจจะยังไม่ละเอียดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มที่ใช้อยู่ประจำอย่างเฟซบุ๊ก โดยจะเซ็ตกลุ่ม Target ได้คร่าวๆ เช่น เพศ อายุ รุ่นมือถือ และหมวดหมู่ความสนใจใน TikTok ซึ่งก็อาจจะเป็น Target ที่ยังกว้างเกินไปสำหรับบางธุรกิจ

ตาคุณแล้ว

และนี่ก็คือรีวิวการใช้งานและการทำโฆษณา TikTok Ads ที่เรานำมาฝากกัน ก็หวังว่า จะช่วยให้คุณเข้าใจและมองเห็นถึงโอกาสในการใช้ช่องทางนี้เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ดีขึ้น

สุดท้ายนี้บทความนี้ก็เป็นเพียงมุมมองของเรา หากคุณมีประสบการณ์ในการใช้ TikTok Ads ในแง่มุมอื่นที่แตกต่างออกไป หรืออยากรีวิวช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในเชิงเทคนิคเพิ่มเติมก็อย่าลืมมาคอมเมนต์เพื่อส่งต่อความรู้ให้กันได้นะคะ ????