เราคงต้องยอมรับว่า Martech (Marketing Technology) กำลังมีบทบาทมากขึ้นในยุคที่คนส่วนใหญ่ทำงานแบบ Remote Working เพราะนอกจากจะทำให้การทำงานทางไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น บาง Martech ยังส่งเสริมการทำงานร่วมกันกับคนในทีมอีกด้วย

ต่อให้ไม่ต้องเจอหน้ากันที่ออฟฟิศบ่อย แต่หลายองค์กรที่ใช้ Martech ก็ยังทำงานได้ไหลลื่นเหมือนเดิม และอาจดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ดีแบบนี้! อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่า Martech ที่ว่านั้นคืออะไร ช่วยให้ชีวิตการทำงานดีขึ้นอย่างไรบ้าง Content Shifu จะพาทุกคนไปดูเดี๋ยวนี้เลย

Martech ที่ตอบโจทย์ Remote Working มีอะไรบ้าง

1. Martech กลุ่ม Collaboration (ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน)

  • Slack เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารในที่ทำงาน ซึ่งเราเห็นว่า ลงทุนแมน สรุปความพิเศษของ Martech อย่าง Slack เอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยเขาสรุปว่า

“Slack ทำให้คนทำงานสามารถ

รับส่งข้อความ เหมือน LINE

รับส่งไฟล์งาน เหมือน E-mail

แชร์ข้อมูลข่าวสาร เหมือน Twitter

แสดงความคิดเห็น เหมือน Facebook

จัดเก็บข้อมูล เหมือน Dropbox

ประชุมงานออนไลน์ เหมือน Skype”

นับว่าเป็นอีกหนึ่ง Martech ที่ทำให้พนักงานเลิกใช้ LINE คุยงาน อีกทั้งยังแยก Channel ของแต่ละงานได้อย่างเป็นระบบ ดาวน์โหลดไฟล์ได้ตลอดโดยไม่มีวันหมดอายุ Create Snippet ส่งโค้ดให้กันได้ อันนี้น่าจะถูกใจเหล่าโปรแกรมเมอร์ เพราะถ้าส่งตามโซเชียลมีเดียอื่น ๆ จะค่อนข้างติดกันเป็นพืด ซึ่งทำให้อ่านยาก

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเชื่อมต่อกับ Martech อื่น ๆ ได้มากกว่า 1,500 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น Google Drive, Zoom, Gmail หรือ Trello เป็นต้น

  • Zoom เป็นหนึ่งใน Martech ที่ตอบโจทย์ Remote Working เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสื่อกลางที่คอยเชื่อมต่อให้คนในองค์กรได้มาพูดคุยกัน แถมยังเลือกได้อีกว่าจะเข้าร่วมประชุมแบบโต้ตอบหรือรับชมเพียงอย่างเดียว
Martech Report

ส่วนจุดเด่นของ Zoom ที่คนส่วนใหญ่ชอบก็คือ การเข้าร่วมประชุมที่แสนง่ายดาย เพียงแค่ตั้งชื่อตัวเอง กรอก Meeting ID แล้ว Join Meeting ก็เข้าร่วมประชุมได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถ Share Screen และ Share Whiteboard เพื่อ Brainstorm กันได้ด้วย

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีฟีเจอร์ผิวเนียนใสสำหรับชาวหน้าสด Virtual Background ที่ช่วยปกปิดความรกของพื้นหลัง และ Safe Driving Mode สำหรับการใช้งานขณะขับรถ เพียงแค่ปัดไปทางขวา ระบบก็จะปิดไมค์และวิดีโออัตโนมัติ หากต้องการพูดก็แค่แตะปุ่ม Tap to Speak ซึ่งปุ่มนี้มีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้เราไม่ต้องหันไปโฟกัสจอมือถือมากนัก

อ้างอิงรูปภาพจาก: Support.zoom
  • Google Workspace หลายคนอาจคุ้นเคยสิ่งนี้จากการใช้เครื่องมืออย่าง Gmail, Calendar, Drive และ Meet ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวคือการทำ Ecosystem (ระบบนิเวศทางธุรกิจ) ที่ทาง Google สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการหลาย ๆ ด้านนั่นเอง

โดย Google Workspace จะเป็นหนึ่งใน Martech ของ Google ที่ช่วยส่งเสริมทั้งการทำงานร่วมกัน (Collaboration) การมีประสิทธิภาพในการทำงาน (Productivity) การสื่อสาร (Communication) และการเข้าถึงข้อมูล (Access to information) และยังมีการรวมเครื่องมือแต่ละอันเอาไว้ในที่เดียว ทำให้เลือกใช้บริการต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

อ้างอิงรูปภาพจาก: workspace.google

2. Martech กลุ่ม Project Management (จัดระเบียบการทำงาน)

  • ClickUp ซอฟต์แวร์จัดการการทำงานที่ทำให้ Workflow เป็นระเบียบมากขึ้น สามารถดูได้ว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง เสมือนกับ To Do List ที่ต้องมีติดไว้ และยังทำให้รู้ว่าแต่ละ Task ใครรับผิดชอบ งานอยู่ในสถานะไหนแล้ว เพื่อให้คนอื่น ๆ ทราบสถานะและดำเนินการขั้นถัดไปต่อได้

อีกหนึ่งจุดเด่นของ ClickUp ที่พลาดไม่ได้ คือ สามารถเลือกดูมุมมองงานเป็น List, Board หรือ Calendar ได้ตามความสะดวกของแต่ละคน เพื่อดูภาพรวมของงานทั้งหมด สมมติเราเลือกเป็นมุมมอง Board ก็สามารถเปลี่ยนสถานะ To Do ไปเป็น Doing ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ลาก + วางจากช่องหนึ่งไปยังอีกช่องหนึ่งแค่นั้นเอง

อ้างอิงรูปภาพจาก: ClickUp

  • Trello เป็นอีกหนึ่งซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดระเบียบงานอีกเช่นกัน หน้าตาจะแบ่งเป็นคอลัมน์ต่าง ๆ โดยแต่ละคอลัมน์จะมี Task ย่อย ๆ เสมือนกับกระดาษ Post-It ที่เราเอาไปแปะไว้ และสามารถเคลื่อนย้าย Post-It แผ่นนั้นไปที่คอลัมน์อื่น ๆ ได้ตลอดเวลา

ส่วนข้างในกระดาษ Post-It ที่เราจะเขียนรายละเอียดงานก็มีฟังก์ชันหลากหลายมาก สามารถใส่ Members ที่เกี่ยวข้อง สร้าง Checklist งานแต่ละขั้นตอน ตั้งวันเวลาส่งงาน ที่ชอบที่สุด คือ Attachment ที่ให้เราแนบลิงก์แล้วตั้งชื่อหัวข้อของลิงก์นั้น ๆ ซึ่ง Trello ก็จะโชว์ไฟล์แนบตามชื้อที่เราตั้งทันที เท่านั้นยังไม่พอ ยังสามารถพูดคุยผ่าน Task นั้น ๆ ได้อีกด้วย ถ้าไม่อยากตอบเป็นข้อความ จะตอบเป็นอิโมจิก็ได้เหมือนกัน

อ้างอิงรูปภาพจาก: Trello

3. Martech กลุ่ม Content Creation (สร้างคอนเทนต์)

  • Google Docs พื้นที่ปลดปล่อยความคิดที่สามารถทำงานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์ สามารถแสดงความเห็น ให้คำแนะนำ และ Mention โดยใช้ @ (ตามด้วยชื่อ) มาร่วมทำงานด้วยกันได้

มาพร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยทำให้เขียนได้รวดเร็วขึ้น เช่น การพิมพ์ด้วยเสียง (ยังไม่รองรับภาษาไทย) การแปลเอกสาร คำแนะนำด้านตัวสะกดและไวยากรณ์

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปอื่น ๆ ของ Google ได้อย่างราบรื่น รวมทั้งแก้ไขไฟล์ Microsoft Word และ PDF ออนไลน์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแปลงไฟล์

อ้างอิงรูปภาพจาก: Google Docs

Shifu แนะนำ

วิธีแก้ปัญหาพิมพ์คำผิดบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นคำไทยหรือคำทับศัพท์ คุณสามารถไปที่ > เครื่องมือ > ค่ากำหนด > การใช้แทน > ใส่คำที่มักเขียนผิดในช่อง “แทนที่” (เช่น ดิจิตอล) > ใส่คำที่สะกดถูกต้องในช่อง “ด้วย” (เช่น ดิจิทัล)

เมื่อคนในทีมพิมพ์คำว่า ‘ดิจิตอล’ ลงใน Docs ระบบจะแก้เป็น ‘ดิจิทัล’ ให้ทันที! ถือว่าช่วยลดระยะเวลาในการแก้ไขงาน ทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเนื้อหา แม้จะต้องใช้เวลาไปกับการใส่คำผิดและคำที่ถูกต้องก็ตาม

 

  • Freepik คือเว็บไซต์แจกรูปภาพ เวกเตอร์ ไอคอน และ PSD ฟรี! โดยไม่ติดลิขสิทธิ์ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการซื้อรูปภาพไปประกอบบทความหรือออกแบบงานกราฟิก ทั้งนี้ รูปที่แจกฟรีนั้นมีจำนวนจำกัด หากอยากได้รูปสวยขึ้น ตรงใจกว่าเดิม ก็อาจจะต้องหันไปใช้แบบ Premium ซึ่งต้องเสียเงินซื้อนั่นเอง
  • Canva ซอฟต์แวร์ออกแบบงานกราฟิกที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีพื้นฐานด้านการออกแบบ ถือเป็น Martech กลุ่ม Content Design ที่ขึ้นชื่อเรื่องใช้งานง่ายและรวดเร็ว มีเทมเพลตครอบคลุมงานออกแบบทุกประเภท แถมยังสามารถเชิญคนในทีมมาร่วมปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ด้วยกันได้อีกต่างหาก

4. Martech กลุ่ม Screen Sharing & Recording

  • Loom เป็นแอปพลิเคชันบันทึกวิดีโอและภาพหน้าจอบนคอมพิวเตอร์แบบ Real-Time ใครก็ตามที่ต้องการอธิบายให้ผู้อื่นเห็นภาพแทนที่จะอธิบายปากเปล่า ถ้าคุณรู้จัก Loom จะรู้ว่าของดีมีอยู่จริง! ที่สำคัญ คือ สามารถติดตั้งเป็น Extensions บน Chrome ได้ด้วย ซึ่งจะทำให้คุณใช้งานได้สะดวกกว่าเดิมหลายเท่า!

อยากรู้ว่า Loom มีฟีเจอร์อะไรบ้างและใช้งานอย่างไร คุณสามารถเข้าใจและใช้เป็นทันทีหากคุณได้ดูคลิปนี้ ไม่ถึง 10 นาทีแต่บอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การดูจริง ๆ

5. Martech กลุ่ม Cloud Storage

จบปัญหาขอให้คนในทีมส่งไฟล์ให้ด้วย Martech อย่าง Cloud Storage ที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและแชร์ไฟล์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ต้องกลัวไฟล์หมดอายุ

  • Google Drive เป็นบริการ Cloud Storage จาก Google ที่ส่งเสริม Remote Workig โดยสามารถทำงานร่วมกันบนระบบคลาวด์แบบเรียลไทม์ได้ผ่าน Docs, Sheet หรือ Slide เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังผสานการทำงานร่วมกันในไฟล์ Microsoft Office ได้โดยไม่ต้องแปลงรูปแบบไฟล์ และยังจัดเก็บไฟล์ได้กว่า 100 ประเภท เช่น PDF, ไฟล์ CAD, รูปภาพ และอีกมากมาย สำหรับแผน Business Starter จะให้พื้นที่เก็บข้อมูลขนาด 30 GB ต่อผู้ใช้ ในราคาเพียง 130 ต่อผู้ใช้/เดือนเท่านั้น

อ้างอิงรูปภาพจาก: Google Drive

  • OneDrive เดิมชื่อ SkyDrive เป็นบริการ Cloud Storage จาก Microsoft ที่ให้คุณเข้าถึงไฟล์งานอย่างเช่น Word, Excel, Power Point และอื่น ๆ ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมลงเครื่องอีกต่อไป

ขณะนี้ได้เพิ่มพื้นที่จาก 15 GB เป็น 100 GB เพื่อรองรับธุรกิจที่มีประเภทไฟล์ใหญ่ ๆ อย่างเช่น 3D, CAD และไฟล์มีเดียต่าง ๆ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ส่งข้อความหากัน สแกนเอกสาร และฟีเจอร์ปิดแจ้งเตือนความคิดเห็นแต่ละไฟล์ เพื่อไม่ให้รบกวรการทำงานอีกด้วย

อ้างอิงรูปภาพจาก: Microsoft

สรุป

หลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า Remote Working มีส่วนช่วยให้การทำงาน Productive ขึ้น แต่ถ้ามี Martech เข้ามาเสริม อาจช่วยให้ดีกว่าเดิมก็เป็นได้ เพราะบางตัวทำให้การสื่อสารทางไกลเข้าใจง่าย ทำงานอย่างมีระบบ แถมทุกคนยังใช้งานได้ง่าย นอกเหนือจาก Martech เหล่านี้ ยังมี 9 เทรนด์ Martech ที่นักการตลาดต้องอัปเดต 2022 ไปจนถึงอนาคต อีกด้วย และนี่อาจเป็นสิ่งที่คุณพลาดไม่ได้เช่นกัน

ตาคุณแล้ว

Martech เหล่านี้เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริม Remote Working ซึ่งผู้เขียนลองใช้แล้วรู้สึกว่ามันดีจริง ๆบอกเลยว่าทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น แล้วคุณล่ะใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง หรือถ้ายังไม่เคยใช้ ลองไปทดลองเล่นได้นะ ถ้าดีก็ลองแนะนำให้ทีมของคุณใช้ดู ชีวิตการทำงานอาจจะเปลี่ยนไปเลยล่ะ

และถ้าใครมี Martech อื่นที่เจ๋ง ๆ แบบว่าอันนี้ต้องใช้ให้ได้ ลองคอมเมนต์ใต้บทความนี้ให้พวกเราและคนอื่น ๆ รู้กันได้นะ