Facebook ยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากสำหรับทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ก็ล้วนให้ความสำคัญกับการเปิดเพจใน Facebook กันทั้งนั้น การที่มีเพจ Facebook ไม่เพียงแค่เพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า แต่ยังเป็นช่องทางเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการของเราไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและแม่นยำ
ปัจจุบัน มีธุรกิจและร้านค้าที่เข้ามาทำการตลาดผ่าน Facebook เพิ่มเป็นจำนวนมาก จึงไม่แปลกที่เวลาเราเล่น Facebook ไม่ว่าจะเป็นกดไลก์รูปเพื่อนบนหน้าฟีด ชมวิดีโอใน Facebook หรือจะแค่ไถหน้าจอเล่นเพลินๆ บนรถไฟฟ้า เราก็มักจะเจอโฆษณาแฝงมากับสิ่งที่เราดูเสมอ ซึ่งบางครั้งก็มีสิ่งที่สนใจเด้งขึ้นมาเสิร์ฟถึงที่ พร้อมกับตัวเลือกมาให้เทียบอีกหลายร้าน
แต่ในมุมมองของนักการตลาดนั้น ยิ่งมีคนเปิดเพจธุรกิจเดียวกันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีคู่แข่งมากขึ้นเท่านั้น และนำไปสู่ศึกการช่วงชิงพื้นที่บนหน้าจอของกลุ่มเป้าหมาย เพราะฉะนั้น หากเราต้องการที่จะได้เป้าหมายที่แม่นยำและเป็นผู้ชนะในพื้นที่นั้น เราก็ต้องมีเครื่องมือในการจัดการที่ดี ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือนั้นก็คือ ‘Facebook Ads Manager’
Facebook Ads Manager คืออะไร
Facebook Ads Manager คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับจัดการโฆษณาต่างๆ ของเพจ (ทั้ง Facebook และ Instagram) ที่ทำได้ทั้งสร้าง โปรโมต ประชาสัมพันธ์ วิเคราะห์ และกำหนดงบประมาณในการโฆษณาได้ในที่เดียว
Facebook Ads Manager ดียังไง
1.ใช้สร้างโฆษณา
- เลือกจุดประสงค์ของโฆษณา (Objectives)
- สร้างแคมเปญโฆษณา (Campaigns)
- สร้างกลุ่มโฆษณา (Ad Sets)
- สร้างโฆษณา (Ads)
2. ใช้จัดการโฆษณา
- กำหนดงบสำหรับโฆษณา
- ตั้งค่าวิธีการชำระเงิน
- กำหนดสิทธิให้บุคคลอื่นเข้ามาดูแล จัดการโฆษณา
3. ใช้วิเคราะห์โฆษณา
- ช่วยในการติดตามผลลัพธ์และประสิทธิภาพของโฆษณาที่เรายิงไปแล้ว
- สามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูล A/B Testing
- ช่วยในการ Optimize แคมเปญโฆษณา
3 (+2) สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเริ่มใช้งาน Facebook Ads Manager
1. Facebook Page
แน่นอนว่าเราจะต้องมีเพจ เพื่อที่จะใช้สำหรับลงโฆษณา และเป็นช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงใช้ในการตั้งค่าว่าโฆษณาชิ้นนี้เป็นของเพจไหน ในกรณีที่มีหลายเพจ แต่ถ้าคุณยังไม่มีเพจ คุณสามารถดูวิธีการสร้างเพจได้จากบทความวิธีสร้างเพจ Facebook ทำได้อย่างไร บอกครบทุกขั้นตอน
2. วิธีการชำระเงิน
เมื่อเราใช้คำว่า ‘โฆษณา’ นั่นเท่ากับว่าต้องมี ‘ค่าใช้จ่าย’ ซึ่งเราสามารถเลือกวิธีชำระเงินได้ 4 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ บัตรเครดิต/บัตรเดบิต, Paypal, Internet Banking และ Ad Credit
3. คอนเทนต์ รูปภาพ หรือ วิดีโอ สำหรับลงโฆษณา
เตรียมสื่อสำหรับการลงโฆษณาให้เรียบร้อย เพราะก่อนที่เราจะโพสต์โฆษณาได้ เราต้อง Upload สื่อที่จะใช้โฆษณาก่อน
4. URL Website (ถ้ามี)
สำหรับใครที่ต้องการจะเรียก Traffic เข้าเว็บไซต์ เราสามารถใส่ URL ของเราเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายคลิกเข้าหน้าเว็บของเราได้ง่ายๆ
5. Instagram Account (ถ้ามี)
นอกจาก Facebook Ads Manager จะสามารถบริหารจัดการโฆษณาของ Facebook ได้แล้ว ยังสามารถจัดการโฆษณาของ Instagram ได้ด้วย ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของทั้ง 2 แอปฯเข้าด้วยกันได้ในที่เดียว
ถ้าคุณเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราไปเริ่มเปิดใช้งาน Facebook Ads Manager กันเลยค่ะ
วิธีเปิดใช้งาน Facebook Ads Manager
การตั้งค่าสำหรับลงโฆษณาบน Facebook ประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ
Step 1 : วิธีเปิดใช้งาน Ads Manager (Ads Manager อยู่ตรงไหน)
1. เข้าไปที่ https://www.facebook.com/adsmanager หรือ กดเข้าไปในปุ่ม Ads Manager ของ Facebook Business Manager
2. เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับหน้าของ Facebook Ads Manager
ซึ่งก่อนที่เราจะลงโฆษณาได้เราตั้งค่าวิธีการชำระเงินก่อน
Step 2 : วิธีตั้งค่าการชำระเงิน
1. ให้กดที่จุดไข่ปลาด้านบนซ้ายของหน้าต่าง > เลือกไปที่ Ad Account Settings
2. เมื่อเข้ามาแล้วให้ไปที่บล็อค Business Payments > คลิกปุ่ม Open Payment Settings
3. ไปที่บล็อค Payment Methods > Add Payment Medthod
4. จะมีหน้าต่างให้ตั้งค่า สถานที่และสกุลเงินที่ใช้ ภาษี และเลือกวิธีการชำระเงิน
5. กรอกข้อมูลรายละเอียดตามช่องทางการชำระเงินที่เลือก
เมื่อตั้งค่าวิธีชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะใช้งาน Facebook Ads Manager ก่อนอื่นเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับส่วนต่างๆ ของหน้า Ads Manager กัน
10 ส่วนประกอบที่ควรรู้บนหน้า Facebook Ads Manager
1. ปุ่มสำหรับสร้างแคมเปญโฆษณา (Ads Campaign)
เราสามารถกำหนดจุดประสงค์ เพื่อสร้างแคมเปญ กลุ่มโฆษณา และโฆษณา ได้จากปุ่มนี้
2. หน้า Search & Filter
เป็นตัวกรองโฆษณาที่เราต้องการจะหา โดยสามารถเลือกหาจากชื่อ จุดประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย หรือประเภทอื่นๆ ก็ได้
3. หน้าแคมเปญโฆษณา (Campaigns)
เป็นหน้ารวมทุกแคมเปญโฆษณาที่เราเคยสร้างไว้
4. หน้าชุดโฆษณา (Ad sets)
เป็นหน้ารวมทุกชุดโฆษณาที่เราเคยสร้างไว้
5. หน้าโฆษณา (Ads)
เป็นหน้ารวมทุกโฆษณาที่เราเคยสร้างไว้
6. Columns
เป็นประเภทของคอลัมน์ที่เราต้องการจะให้แสดงผล ซึ่งในเครื่องมือนี้จะมีการแบ่งการแสดงผลออกเป็นหมวดหมู่ให้แล้ว แต่เราสามารถเลือกบางหัวข้อจากบางหมวดหมู่ให้แสดงผลเองได้ในรูปแบบ Custom
7. Breakdown
เครื่องมือนี้จะเป็นตัวช่วยเราในการ Optimize โฆษณาให้ดีขึ้น เช่น การหาช่วงเวลาที่ลงโฆษณาได้ดีที่สุด การหาช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมายที่ให้ผลลัพธ์โฆษณาดีที่สุด เป็นต้น
8. Reports
เป็นช่องรายงานผลลัพธ์ของโฆษณา ซึ่งสามารถเลือกใช้รายงานเฉพาะสิ่งที่เราต้องการได้ เช่น รายงานเฉพาะประเภทกลุ่มโฆษณา รายงานเฉพาะอายุและเพศ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถเอาตัวรายงานนี้ Export เป็นตาราง .xls หรือ .csv ได้
9. แถบแสดงผลคอลัมน์
หลังจากที่เราเลือกประเภทคอลัมน์ในข้อที่ 6 แล้ว เมนูต่างๆ ที่เลือกก็จะแสดงผลเรียงกันในแถบนี้
10. ปุ่มสำหรับกำหนดคอลัมน์ (Customize Columns)
เป็นเมนูที่ให้เรากำหนด Custom Columns ว่าอยากให้แถบของคอลัมน์แสดงผลหัวข้อไหนบ้าง และสามารถเรียงลำดับการแสดงผลจากซ้ายไปขวาได้ที่ Column Selected
ตาคุณแล้ว
ตอนนี้คุณมีเครื่องมือที่พร้อมสำหรับการลงโฆษณาแล้ว คุณล่ะพร้อมที่จะเริ่มสร้างแคมเปญแรกของคุณหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว เราจะพาคุณไปเรียนรู้กันต่อในวิธีลงโฆษณา Facebook อัปเดตล่าสุดปี 2021 สำหรับคนไม่มีพื้นฐาน ถ้าคุณมีข้อสงสัย หรืออยากแชร์เทคนิคต่างๆ ให้เพื่อนๆ ทราบ สามารถส่งมาทาง Comment ได้เลยค่ะ ✌️