Ubersuggest | Keyword Tool ไทย ที่ถูกและดี [รีวิวพร้อมสอนใช้งาน]

สำหรับใครที่อยู่ในสาย SEO อยู่แล้ว น่าจะพอรู้จักโปรแกรมจำพวก Keyword Tool ภาษาไทย ที่ใช้หา “คำหลัก” หรือ Keyword ในการทำ SEO โดยตัวที่นิยมใช้กันมากก็อย่างเช่น Google keyword planner Keysearch และ Kwfinder ฯลฯ

แต่เรื่องของ SEO ไม่ได้มีแต่เรื่องของ Keyword อย่างเดียวเท่านั้น…

.เพราะ SEO (หรือ Seach Engine Optimization) เป็นเรื่องของการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ Search Engine ค้นหาหน้าเว็บไซต์เจอได้ง่ายๆ เพื่อให้หน้าเว็บถูกจัดอันดับมาอยู่หน้าแรกๆ ของหน้าค้นหา ยิ่งทำอันดับได้อันดับแรกๆ โอกาสที่ผู้คนจะเข้าถึงก็มีมากขึ้น ซึ่งเทคนิคการทำ SEO ไม่ใช่แค่เรื่องของการหา Keyword เท่านั้น ยังมีเรื่องของ Backlink เรื่องวิเคราะห์เว็บไซต์ และเรื่องอื่นๆ อีกมาก

โปรแกรมทำ SEO ที่จะแนะนำต่อไปนี้ ช่วยงานทำ SEO ในส่วนที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นได้ และที่สำคัญคือ ราคาคุ้มค่าแบบสุดๆ

Ubersuggest คืออะไร

Ubersuggest คือ โปรแกรมหาคีย์เวิร์ด (Keyword Tool) ภาษาไทย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ดูแลโดยคุณ Neil Patel นักการตลาดออนไลน์ที่มีผู้ติดตามจากทั่วโลก ซึ่งเจ้าตัว Ubersuggest ตัวนี้ เดิมเป็นโปรแกรม Keyword research เท่านั้น แต่ปัจจุบัน Neil Patel ก็ได้เพื่อฟีเจอร์อื่นๆ เช่น Traffic Analyzer, SEO Analyzer เป็นต้น เพื่อช่วยให้ทำ SEO ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น (ลำพังแค่ Keyword research ไม่เพียงพอ เกณฑ์อื่นๆ ก็สำคัญ)

แต่ก่อนที่ผมจะรีวิวการใช้งานและความเจ๋งของฟีเจอร์เหล่านี้ เรามาดูข้อดีของ Ubersuggest กันในภาพรวมก่อนดีกว่าครับ

ข้อดีของ Ubersuggest และเครื่องมือของ Neil Patel

• ใช้งานง่าย เหมาะกับมือใหม่ เห็นภาพรวมได้ในหน้าเดียว
• เป็นโปรแกรมทำ SEO ที่ใช้หา Keyword ภาษาไทยได้
• สามารถดู Backlink ได้แบบเพจต่อเพจ และดู Traffic ทั้งของเว็บเราและเว็บคู่แข่งได้ 
• สามารถวิเคราะห์คุณภาพ SEO บนเว็บไซต์ของเราได้ด้วย พร้อมบอกปัญหาที่ควรปรับปรุงด้วย
• ราคาคุ้มค่าแบบสุดๆ เมื่อเทียบกับเครื่องมือที่ได้

และอื่นๆ อีก ซึ่งเราจะไปพูดถึงตอนที่รีวิวฟีเจอร์ต่างๆ ครับ

วิธีใช้ Ubersuggest ทำ SEO + รีวิวฟีเจอร์

ต่อไป เรามาดู วิธิใช้ Ubersuggest โดย Ubersuggest มีฟีเจอร์หลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 ฟีเจอร์ ได้แก่ 

1. Ubersuggest หรือฟีเจอร์ค้นหา Keyword
2. Traffic Analyzer หรือเครื่องมือวิเคราะห์ Traffic
3. SEO Analyzer หรือเครื่องมือวิเคราะห์และประเมินคุณภาพ SEO 

1.วิธีใช้ Ubersuggest ค้นหาคีย์เวิร์ด [พร้อมวิดีโอสอนใช้]

ฟีเจอร์แรกตัวนี้ คือ Keyword research tool ไว้ใช้สำหรับให้เราหา Keyword เพื่อตรวจสอบดูว่าคำหลักที่เราค้นหาผู้คนค้นหามากน้อยต่อเดือนแค่ไหน รวมทั้งดูค่า KD: Keyword difficulty ว่าการแข่งขันของคำนั้นๆ สูงหรือเปล่า

วิธีค้นหาคีย์เวิร์ด

1. ใส่ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูล
2. เลือกประเทศ (ภูมิภาค) ที่ต้องการทราบข้อมูลการค้นหาของ Keyword 
3. กด “Search”

จะอ่านค่า Keyword อย่างไร

ข้อมูลที่ Ubersuggest นำมาเสนอ นั้น จะแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ตามฟังก์ชันการใช้งานตรงๆ ตามชื่อของเขาเลย ได้แก่ Overview, Keyword Ideas และ Content Ideas ซึ่งค่าทั้งหมดที่แสดงได้ก็มีดังนี้

• Search Volume คือ จำนวนครั้งที่คนค้นหา Keyword นี้ ต่อเดือน ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้พิเศษมากๆ เลย คือ บอกเราเลยว่าตกลงแล้วคนเสิร์ชคำนี้น้อย (Low) หรือมาก (High) ไม่ต้องมาเดาว่า เสิร์ช 8,000 ครั้ง นี่เยอะหรือน้อยกันแน่
• SEO Difficulty (SD) คือ ค่าที่แสดงอัตราการแข่งขันของ Keyword ตัวนี้แบบ Organic (ไม่ใช้ Ad) ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งแข่งขันยาก ซึ่ง Ubersuggest ก็จะฟันมาเลยว่าง่ายหรือไม่ง่าย (ถ้าง่ายจะขึ้นว่า “Easy” แต่ถ้าไม่ง่ายจะไม่ขึ้นคำอะไร)
• Paid Difficulty คือ อัตราการแข่งขันของ Keyword แบบที่ใช้ Search Ad ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ก็ฟันมาให้อีกด้วยว่าง่ายหรือไม่ง่าย 
• Cost per click (CPC) คือ ราคา Search Ad ที่ต้องจ่ายต่อคลิก ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ของคุณ Neil นี้ ดีมากๆ ตรงที่แปลงดอลลาร์เป็นค่าเงินบาทด้วย เป็นประโยชน์สำหรับใครที่อยากซื้อ Search Ad มากๆ 

รูปข้างบนนี้ คือ ส่วนของหน้า Keyword Ideas เป็นหน้าฟีเจอร์ที่แสดง Keyword ที่ใกล้เคียงกับ Keyword ที่เราค้นหา เผื่อว่าจะเป็นไอเดียให้เราเลือกใช้คำอื่นๆ หากคำที่ตั้งใจใช้ค่า SD สูงเกินไป หรือ Keyword คำอื่นจะเหมาะกับงานของเรามากกว่า

นอกจากนี้ ในตารางด้านขวาจะแสดงตำแหน่ง SERP (Search Engine Result Page) หรือตำแหน่งที่คำคำนั้นไปปรากฏบนหน้าที่เท่าไหร่ของหน้าค้นหา ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็เหมือน Keyword research tool ทั่วไปที่จัดลำดับเอาไว้ พร้อมแสดงข้อมูลอื่นๆ ประกอบ ได้แก่ จำนวนการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ จำนวน Backlink ค่า Domain Score (ความแข็งแกร่งของเว็บไซต์) และยอดแชร์บนโซเชียลมีเดีย

ส่วนหน้านี้ คือ หน้า Content Ideas ที่ระบบประมวลหน้าเพจต่างๆ ที่ใช้ Keyword ที่เราหามา เพื่อให้เราลองดูเป็นไอเดียในการคิด Topic คอนเทนต์ ถือว่าตัวนี้สะดวกมากๆ แถมยังดูได้อีกด้วยว่ามีการแชร์ออกไป Facebook หรือ Pinterest เท่าไหร่ ช่วยให้เราพอเดาได้ว่าผู้คนชอบหัวข้อแนวไหน

นอกจากนี้ เรายังสามารถคลิกดูได้ว่า บนหน้าเพจนั้นๆ มี Keyword อะไรบ้างที่ดึงคนให้เข้ามายังหน้าเพจด้วย

หรือถ้าหากใครที่ต้องการรับชม วิธีใช้ Ubersuggest  เพื่อทำ Keywords Research และดู Insights เว็บไซต์คู่แข่งได้ในไม่กี่คลิก! ก็สามารถดูได้ที่วิดีโอนี้ได้เลย ขอบอกเลยว่าง่ายมากๆ

2.วิธีใช้ Traffic Analyzer เพื่อดูจำนวน Traffic ของเว็บไซต์

ฟีเจอร์ Traffic Analyzer คือ เครื่องมือที่เอาไว้ใช้ดูว่าเว็บไซต์มียอดคนเข้าถึงเท่าไหร่ (ซึ่งยอดนี้ส่งผลต่อ Authority ของเว็บไซต์ที่ทำให้เว็บไซต์เรามีพลัง SEO แข็งแกร่งขึ้น) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รวมอยู่ในหน้า Ubersuggest เดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากๆ ไม่ต้องกระโดดจากโปรแกรมหา Keyword ไปตรวจ Traffic ที่อื่นให้ยุ่งยาก (เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยสลับจาก Keyword research tool ไปตรวจ Rank เว็บตัวเองใน Similarweb แน่ๆ) 

วิธีใช้ Traffic Analyzer

1. ใส่ชื่อ Domain เว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบ Traffic
2. เลือกประเทศที่ต้องการให้แสดง Traffic ของเว็บไซต์นั้นๆ
3. กด “Search” และมาอ่านค่ากันเลย

อ่านค่า Traffic เว็บไซต์

ตัว Traffic Analyzer จะแสดงค่าหลักๆ ที่เป็นข้อมูลจำเป็นในการวิเคราะห์และทำ SEO ได้แก่ 

• Organic Keyword คือ จำนวน Keyword ที่ติด Rank บนหน้าค้นหา แบบ Organic (ไม่ใช้ Ad) และสิ่งเดิมที่ชอบมากๆ เลย คือ บอกเรามาเลยว่าค่าแนนด้านนี้ของเว็บไซต์ดีหรือไม่ จากตัวอย่างนี้ “Good” เลยครับ
• Organic Monthly Traffic คือ จำนวน Traffic หรือยอดคนเข้าถึงเว็บไซต์ต่อเดือนแบบ Organic คือ ผู้คนเข้ามาเองผ่าน Keyword ที่เว็บไซต์ใช้ ซึ่งค่านี้ contentshifu.com ได้ “Great” 
• Domain Score คือ ค่าความแข็งแกร่งของเว็บไซต์ซึ่งวัดจากหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ Authority หรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ในสายตาของ Search Engine สูง คะแนนส่วนนี้เต็ม 100 คะแนน ยิ่งคะแนนเยอะ ก็แสดงถึงเว็บแข็งแกร่งมาก
• Backlinks คือ จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์กลับมา (Backlink) ยิ่งมีจำนวน Backlink มากเท่าไหร่ Authority ของเว็บไซต์ก็ยิ่งสูง มีกำลังแข่งขันทำอันดับได้ง่ายขึ้น เป็นเทคนิคการทำ Off-page SEO ที่ได้ผลดีมากๆ 

สิ่งที่ชอบมากๆ ใน Ubersuggest โปรแกรมทำ SEO ตัวนี้ คือ การแสดงข้อมูลที่ “เราน่าจะอยากรู้” หรือควรรู้ มาแสดงในหน้าเดียว ตรงนี้สะดวกมากๆ User experience ดีสุดๆ ใครที่เป็นมือใหม่ก็เข้าใจได้ง่ายๆ

ข้อมูลที่ Traffic Analyzer เรียบเรียงมาให้เรา

• SEO Keyword Ranking แสดงจำนวน Keyword ที่ติด Rank หน้าค้นหา โดยสีเขียว คือ ติดหน้าที่ 1 – 3 สีเหลืองติดหน้า 4 – 10 สีส้มติดหน้า 11 – 50 และสีแดงติดหน้า 51 – 100 ซึ่งเราควรโฟกัสที่สีเขียวครับ
• Top SEO Pages คือ อันดับหน้าเพจที่ดึงเข้าเข้ามา Visit มากที่สุด คือ เว็บเพจที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนา หรือเอาไปสืบเว็บคู่แข่งเพื่อแข่งขันแย่ง Traffic จากเขาก็ได้
• SEO Keywords คือ เอาไว้สืบ Keyword ที่ดึง Traffic เข้าเว็บไซต์มากที่สุด โดยบอกเราด้วยว่า Keyword ตัวนี้ของเว็บไซต์ปรากฏอยู่หน้าที่เท่าไหร่ของหน้าค้นหา (Position) ข้อมูลส่วนนี้เราสามารถสืบ Keyword เจ๋งๆ ของเว็บคู่แข่งมาแย่ง Traffic เขาได้เช่นกัน

3.SEO Analyzer หรือเครื่องมือวิเคราะห์และประเมินคุณภาพ SEO 

ฟีเจอร์ตัวนี้เป็นฟีเจอร์ที่ชวนตื่นตาตื่นใจมากครับ เพราะ SEO Analyzer จะวิเคราะห์เว็บไซต์ในด้าน SEO ให้ค่อนข้างละเอียด ชี้ปัญหาแบบเพจต่อเพจ และไม่เพียงเท่านั้น คุณ Neil Patel ยังมีคำแนะนำสำหรับปรับปรุง SEO ให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย

วิธีใช้ SEO Analyzer วิเคราะห์เว็บไซต์

1. ใส่เว็บโดเมนที่ต้องการวิเคราะห์คุณภาพ SEO
2. ใส่ประเทศที่ต้องการดู​คุณภาพ SEO ของเว็บโดเมนนั้นๆ
3. กด “Search”

อ่านค่า SEO บนเว็บไซต์

จากรูปข้างบน คุณคงจะเห็นแล้วว่า หน้าตา Data Analysis ของเขา ดูง่ายๆ มากๆ เลย มีทั้งบอกคุณภาพว่าดีหรือไม่ดี Good/Great ไปเลย 

ที่ชอบมากๆ คือ หน้า Health Check ที่บอกภาพรวมดูสุขภาพ SEO ของเว็บไซต์ บอกเลยว่ามีหน้าเพจกี่หน้าเพจที่ SEO เยี่ยม หรือควรแก้ไข ซึ่งทางกล่องด้านขวา เขาก็สรุปมาเลยว่ามีกี่หน้าที่ต้องเร่งแก้ไข (Critical Errors) ควรปรับปรุง (Warnings) และที่แนะนำให้พัฒนาเพิ่มเติม (Recommendation) โดยเราสามารถคลิก “View All” ไปดูปัญหาพร้อมคำแนะนำแบบหน้าเพจต่อหน้าเพจได้เลยครับ 

ส่วนค่าอื่นๆ ก็ไม่ยากครับ

• On-Page SEO Score คือ คะแนนที่ประเมินจากการทำ On-Page SEO ซึ่งเป็นเรื่องการปรับแต่ง Optimize บนหน้าเพจเว็บไซต์ (อ่าน 7 เรื่อง ทำ On-page SEO ให้เว็บเป็นที่รักของ Google) 
• Organic Monthly Traffic คือ จำนวน Traffic หรือยอดคนเข้าถึงเว็บไซต์ต่อเดือนแบบ Organic 
• Organic Keywords คือ จำนวน Keyword ที่ติด Rank บนหน้าค้นหา แบบ Organic เหมือนกับในหน้า Traffic Analyzer
• Backlinks คือ จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์กลับมา (Backlink) ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้มีฟีเจอร์ที่ลงลึกไปกว่านั้นอีกครับ

ไม่เพียงเท่านั้น เจ้าโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้ ยังวิเคราะห์ Site speed หรือความเร็วเว็บแบบแยกออกมาเลยครับว่า บนหน้า Desktop ใช้เวลาโหลดเท่าไร แล้วแบบ Mobile ละต้องรอนานแค่ไหน ซึ่งสะดวกมากๆ ครบสุดๆ สำหรับการวิเคราะห์ SEO เพราะเรื่องความเร็วเว็บก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผู้คนอยู่บนหน้าเพจของเรา ส่งผลต่อ Authority เว็บไซต์ และค่า SEO 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดลำดับ Top SEO Issues ที่เราควรเร่งแก้ไข พร้อมตาราง 2 คอลัมน์ด้านหลังที่บอกเลยว่า Issues ในหน้าเพจนั้นๆ แก้ไขยากหรือเปล่า แล้ว SEO issues บนหน้านั้นๆ ส่งผลกับเว็บไซต์มากน้อยแค่ไหน 

ตรงนี้สะดวกมากๆ ผมที่เป็นมือใหม่ก็เข้าใจได้ ไม่ต้องไปคิดต่อว่า ควรแก้เรื่องไหนหรือหน้าเพจไหนก่อน 

เราสามารถสืบดูได้ว่า มีเว็บไซต์อะไรบ้างที่ Backlink มายังเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ที่เราวิเคราะห์เป็น Reference ให้เว็บใดบ้าง โดย Source Page หมายถึง เว็บต้นทางที่ทำการ Backlink ไปยังเว็บโดเมนที่เรากำลังวิเคราะห์

Ubersuggest ราคาเท่าไหร่

โดยส่วนตัวเห็นว่า Ubersuggest ราคาถุกและคุ้มค่ามาก โดยมี Subscription Plan 2 ชนิดหลัก ดังนี้

• Monthly | เริ่มต้นที่ 12$ หรือ ประมาณ 400 บาทเท่านั้น
• Lifetime | เริ่มต้นที่ 120$ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสุดๆจริง

โดยคุณสามารถดูราคา Ubersuggest ทั้งหมดได้ที่ https://app.neilpatel.com/en/pricing

สรุป

โดยรวมแล้ว หลังจากลองใช้งานดู ผมค่อนข้างที่จะชอบโปรแกรมทำ SEO เจ้า Ubersuggest ตัวนี้มากๆ ครับ

จากข้อดีเด่นๆ เลย คือ ใช้งานง่าย ไม่ต้องสร้าง Account แถมรวบรวมทุกสิ่งที่ควรรู้ ดูจบได้ในโปรแกรมเดียว เป็นทั้ง Keyword research tool ทั้ง Traffic Analyzer และเป็น SEO Analyzer อีกด้วย เรียกได้ว่า ครบ จบ ในตัวเดียวเลยครับ ?

ตาคุณแล้ว

ผมขอแนะนำให้ทุกๆ คนลองไปเล่น Ubersuggest ดูกันก่อนนะครับ ชอบไม่ชอบ ยังไง มาพูดคุยกันต่อที่คอมเมนต์ด้านล่างเลยครับ

แล้วท่านใครมีเครื่องไม้เครื่องมือในการทำ SEO หรือเครื่องมือที่สนันสนุนการทำ Digital Marketing หรือ Content Marketing เจ๋งๆ อย่าลืมแชร์ให้ทุกๆ คนรู้จักด้วยนะครับ หรือ Request มาได้นะครับ ว่าอยากให้ Content Shifu ไปรีวิวเครื่องมือตัวไหน บอกเรามาเลย 🙂