ในปีที่ผ่านๆ มา AI หรือ Artificial Intelligence นั้นเป็นสิ่งที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการการตลาด ไม่ว่าจะเป็นใช้เพื่อทำ Advertising, Personalization หรือ Automation หรือแม้แต่เรื่องที่ยากอย่างเรื่อง Content

สาเหตุที่ยากเพราะว่าการทำคอนเทนต์ ไม่ใช่แค่เรื่องศาสตร์แต่ยังเป็นเรื่องศิลป์ด้วย การใช้ภาษา การเล่าเรื่อง และการเข้าใจบริบทเป็นเรื่องสำคัญ

ด้วยความคันไม้คันมือ อยากรู้ว่า ปัจจุบันนี้ AI Writer นั้นพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ผมก็เลยหยิบเอา AI Writer เจ๋งๆ หลายตัวมาทดสอบทั้งภาษาที่น่าจะถูกพัฒนามากที่สุดอย่างอังกฤษ และภาษาบ้านเกิดของเราอย่างภาษาไทย

เดี๋ยวมาดูการทดลองนี้ไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ รับรองว่าพอคุณอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะเห็นภาพมากขึ้น และจะช่วยพิจารณาได้ว่า จะเอา AI Writer ไปใช้กับงานของคุณหรือไม่นะครับ

* การทดลองครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฏาคม 2021 ซึ่งเป็นเป็นการทดลองแบบเร็วๆ (ไม่มีการอ้างอิงทฤษฏีหรือสถิติใดๆ ทั้งสิ้น) เพราะฉะนั้นอ่านแล้วจะต้องเอาไปพิจารณาต่อนะครับว่าจะเหมาะกับงานของคุณรึเปล่า

ทดลองเขียนคอนเทนต์ด้วย AI Writer

ในการทดลองนี้ผมมีการกำหนดข้อจำกัด (Constraint) ไว้บางอย่างโดยที่

เครื่องมือที่นำมาใช้ทำการทดสอบ

ถ้าพูดถึงการเขียนคอนเทนต์อัตโนมัติ ในอดีตคุณอาจจะพอได้ยินคำว่า Article Spinning, Article Scraping มาบ้าง ซึ่งการทำแบบนั้นมีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องการถูกตรวจจับว่าลอกเลียนแบบ (Plagiarism) ซึ่งทำให้ Algorithm ต่างๆ มองเว็บไซต์/คอนเทนต์ของคุณในแง่ไม่ดี

แต่อะไรต่างๆ ก็มีการพัฒนามากขึ้น

เท่าที่ผมศึกษามา (จากในเว็บไซต์และ Section คำถามที่พบเจอบ่อยของพวกเขา) AI Writer เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะใช้ Generative Pre-trained Transformer 3 (GPT-3) ที่สร้างโดย OpenAI (ผู้ก่อตั้งคือ Elon Musk, Sam Alman และ Investor ดังๆ อีกหลายคน) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่มีความใกล้เคียงกับภาษามนุษย์ จะมีบ้างบางตัวที่สร้างโดยใช้โมเดลของตัวเอง

คุณสามารถไปศึกษาเกี่ยวกับ GPT-3 เพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

ผมพยายามหยิบทั้งตัวที่พอจะมีชื่อเสียงมาแล้ว กับตัวที่พึ่งเปิดใหม่มาทดลองให้ดูนะครับ

ซึ่งเครื่องมือที่ผมจะมาแชร์ในบทความนี้ได้แก่ Rytr, Writesonic, Copy AI, Copysmith, Jarvis (Conversion AI) และ Kafkai

รูปแบบเนื้อหา

ผมให้ AI Writer เขียน Copy สำหรับโฆษณาบน Facebook สาเหตุที่ผมเลือกให้มันเขียน Copy แบบสั้นๆ เพราะว่าผมไม่ได้ซื้อ AI Writer ทางด้านบนมาใช้ทุกตัว และมันอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนคำที่ Generate ได้ นอกจากนั้นแล้ว ถ้าผมให้ AI Writer เขียนคอนเทนต์ที่ยาวขึ้น (เช่น Blog) บทความนี้อาจจะยาวจนไม่น่าอ่าน

รูปแบบการทดลอง

ผมทำการทดลองทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

โดยที่ภาษาอังกฤษ ตัวเว็บไซต์/สินค้าที่เอามาทดสอบคือ justoneclub.com ซึ่งขาย Productivity Product ชื่อว่า 1% Planner

และภาษาไทย ผมใช้ Content Shifu Academy ซึ่งเป็นสถาบัน/คอร์สเรียนเกี่ยวกับ Digital Marketing

ซึ่งในการทดลอง ผมจะทดลองกับ Copy ของ Facebook Ads และ ผมจะทำการรันผลแค่ 1 ครั้ง โดยจะรันผลลัพธ์ออกมา 3 ชุดเพื่อให้คุณดูครับ

นอกจากนั้นแล้ว ผมจะเอา Copy ที่ผมเขียนเองมาไว้ตบท้ายเพื่อให้คุณเปรียบเทียบระหว่าง AI vs คนด้วยครับ

* ผลทดลองจาก AI Writer จะไม่ต่างกันมาก (คือคุณจะเห็น Copy ในเรื่องเดิมๆ จากซอฟต์แวร์หลายตัว) ถ้าคุณไม่อยากไล่ดูทั้งหมด คุณสามารถ Skim ดูคร่าวๆ และเลื่อนลงไปอ่านข้อสรุปที่ผมเขียนไว้ทางด้านล่างได้นะครับ

ผลทดสอบการเขียนโดยการใช้ AI Writer

ผลทดสอบของการเขียนภาษาอังกฤษ

ผลทดสอบการเขียน Ad Copy ภาษาอังกฤษ สำหรับโฆษณาเว็บไซต์ที่ขาย Productivity Products – justoneclub.com

ตัวอย่างการใช้ AI ของ Writesonic ในการเขียน

โดยที่ Input ที่ผมใส่ไปมี 2 อย่างคือ

Product Name: 1% Planner

Product Description: 1% Planner is a productivity planner that helps you build good habits, put your focus on what matters, and become 1% better everyday.

ผลทดสอบของการเขียนภาษาอังกฤษ (เพิ่มเติม)

นอกจากตัว Ad Copy แล้ว ผมลองเขียนบทความ โดยที่ผมคิด Outline จากนั้นให้ Rytr ขึ้น Paragraph ให้ แล้วค่อยมาเขียน Intro/Conclusion และเพิ่มตัวอย่างทีหลัง ใช้เวลารวมๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง (จากปกติถ้าเขียนแบบนี้อาจจะ 6-8 ชั่วโมง)

ผลลัพธ์ก็น่าสนใจดีครับ

ผลทดสอบของการเขียนภาษาไทย

ผลทดสอบการเขียน Ad Copy ภาษาไทย สำหรับโฆษณาเว็บไซต์ที่ขายคอร์สเรียน Digital Marketing – contentshifu.com/academy

ตัวอย่างการใช้ AI ของ Rytr ในการเขียน

โดยที่ Input ที่ผมใส่ไปมี 2 อย่างคือ

Product Name: Content Shifu Academy

Product Description: Content Shifu Academy เป็นสถาบันสอนการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) เพื่ออัปเกรดให้คุณทำการตลาดออนไลน์ได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยเนื้อหาที่ทันสมัยและเอาไปใช้ได้จริง

วิเคราะห์ผลการทดลอง

และนี่คือการทดลองการเขียนคอนเทนต์ด้วยการใช้ AI Writer ของผมนะครับ ซึ่งจากการทดลองทั้งหมด ผมขอวิเคราะห์ตามการใช้งานและตามความเข้าใจของผมว่า

1. AI เหล่านี้จะช่วยให้เขียนคอนเทนต์ได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยการคิดไอเดียคอนเทนต์ ขึ้น Outline หรือสร้างคอนเทนต์ที่อยู่ Paragraph ให้

2. ทั้งนี้ มันก็ยังทดแทนคนไม่ได้อยู่ดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่ AI เขียนมา มันยังไม่น่าสนใจมากนัก และยังต้องถูกปรับแต่งให้น่าสนใจอีกเยอะพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาษาไทย ที่ผมคิดว่าคอนเทนต์ที่ AI สร้างขึ้นมายัง “ไม่น่าสนใจ” เลยครับ แถมบางอย่างยังเขียนออกมาผิดๆ ด้วย

3. ณ ปัจจุบันนี้ AI Writer ทำได้ดีในการเขียนคอนเทนต์ประเภท Inform (คือบอกว่าสิ่งนั้นๆ คืออะไร ใช้งานอย่างไร) แต่ถ้าจะต้องเขียนแบบโน้วน้าว ยกตัวอย่าง การเปรียบเทียบให้เห็นภาพ และการเข้าใจบริบทต่างๆ ยังไงก็ยังสู้การเขียนโดยคนจริงๆ ไม่ได้

4. การใช้ AI ช่วยเขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ ถือว่า “พอใช้งานได้” แต่ถ้าให้มาเขียนภาษาไทย ผมคิดว่าความสามารถของ AI ยังไม่พอครับ อาจจะเพราะว่าข้อมูลของภาษาไทยที่เอาไปใช้เทรน AI ยังน้อยอยู่มากๆ เมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษ

สรุป

โดยสรุปคือ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมาก แต่ผมคิดว่าการฝึกให้มันเข้าใจ บริบท เข้าใจคน อาจจะยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรครับ

ซึ่งด้วยความเร็วในการเรียนรู้ของ AI ผมคิดว่า อีกสัก 2-3 ปีอุตสาหกรรมการเขียนและการผลิตคอนเทนต์น่าจะมีอะไรน่าสนใจออกมาให้เราทุกคนได้ใช้งานทั้งในเชิงส่วนตัวและในเชิงพาณิชย์ครับ

ตาคุณแล้ว

คุณเคยทดลองใช้ AI Writing Tools มาบ้างรึยัง? ถ้าใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง? หรือมีอะไรมาแนะนำผมและผู้อ่านท่านอื่นๆ เพิ่มเติมไหมครับ? มาพูดคุยกันในคอมเมนต์ได้เลยครับ!