ทิศทางในปี 2018 ของ 5 โซเชียลมีเดียเจ้าใหญ่ และนักการตลาดจะใช้มันอย่างไร

ทิศทางของ 5 โซเชียลมีเดียยอดนิยมในไทย

Facebook, Pantip, Twitter, LINE, YouTube ถ้างานของคุณหรือธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับการใช้โซเชียลมีเดียเหล่านี้แล้วล่ะก็ เชื่อว่าบทความนี้จะให้ประโยชน์กับการวางทิศทางให้กับคุณในปี 2018 นี้ค่ะ

เรามีโอกาสได้รับฟังงานเสวนาในงาน Thailand Zocial Awards ซึ่งได้พา 5 ผู้บริหารในประเทศไทยของทั้ง 5 แพลตฟอร์มมาร่วมแชร์ข้อมูลกัน ทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ 1. คุณดวงพร พรหมอ่อน จาก Facebook Thailand 2. คุณอภิศิลป์ ตรุงกานนท์ จาก Pantip.com 3. คุณชนะชัย ไชยปัญญา จาก MediaDonuts (Twitter Exclusive Partner ในไทย) 4. คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร จาก LINE Thailand และ 5. คุณไมเคิล จิตติวาณิชย์ จาก Google Thailand

เราได้สรุปเสวนาความยาว 30 นาทีมาให้อ่านกัน โดยรวมออกมาเป็น 3 ประเด็น ได้แก่
• ยอดผู้ใช้งานและพฤติกรรมผู้ใช้
• ทิศทางของแพลตฟอร์มในปีนี้
• คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในการใช้แพลตฟอร์ม

มาอัปเดตด้วยกันเถอะค่ะ : )

ทิศทางโซเชียลมีเดีย: Twitter

ยอดผู้ใช้งานและพฤติกรรมผู้ใช้

ทิศทางของแพลตฟอร์มในปีนี้

คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในการใช้แพลตฟอร์ม

ทิศทางโซเชียลมีเดีย: LINE

ยอดผู้ใช้งานและพฤติกรรมผู้ใช้

LINE มีผู้ใช้ที่หลากหลาย แต่ Active users (ตรงกันข้ามกับ Twitter) คือเป็นกลุ่ม Baby boomers/ Gen-X กันเยอะ เรียกได้ว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่ดีสำหรับนักการตลาดที่ต้องการ Target รุ่นใหญ่

ในส่วน LINE สำหรับธุรกิจหรือองค์กร ปีที่ผ่านมาโปรแกรม LINE Business Connect มียอดเติบโตขึ้นราว 100% และเริ่มมี Use case ที่หลากหลาย เช่น แบงค์ต่อ API เมื่อมี Transaction ใช้บัตรเครดิตปุ๊บ เด้งในไลน์เลย

ทิศทางของแพลตฟอร์มในปีนี้

LINE จะมาแบบ Data Management Solutions เอาลูกค้ามาต่อ CRM หลังบ้านของแบรนด์ แบรนด์สามารถพูดคุยกับลูกค้าแต่ละคนได้ผ่านข้อมูลใน CRM ของบริษัทของตน

ความน่าตื่นเต้นนอกจากนี้คือ LINE กำลังแอบซุ่มทำ Influencer market เรียกว่า LINE Idol

คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในการใช้แพลตฟอร์ม

บริหาร Customer แบบ On-demand สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบครบ Journey เช่น เมื่อขายของได้แล้ว มีการอัปเดตใน CRM ที่ผูกกับ LINE ก็ดูแลลูกค้าต่อใน LINE ในการบริการ After-sales service ได้

ทิศทางโซเชียลมีเดีย: Pantip

ยอดผู้ใช้งานและพฤติกรรมผู้ใช้

คุณบอยได้เล่าว่าสองห้องที่ฮิตสุดใน Pantip ในปีที่ผ่านมาคือ ละคร (ห้องบางขุนพรหม) กับ กีฬา (ห้องศุภชลาศัย) ซึ่งมีฟุตบอล และวอลเลย์บอลได้รับความนิยมสูง ส่วนห้องที่มี Engagement (คอมเมนต์) สูงที่สุด คือ ห้องศาลาประชาคม ซึ่งรวมเรื่องกฏหมาย และการร้องเรียนต่างๆ

ทิศทางของแพลตฟอร์มในปีนี้

มีสองบริการใหม่ที่ Pantip จะมีในปีนี้คือ
1) Brand expert account: บัญชีสำหรับแบรนด์สำหรับใช้โพสต์เนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ ไว้แสดงความเชี่ยวชาญของตน

2) Branded content
Pantip กำลังจะมี Branded content เปิดตัวใน Q2 เป็นลักษณะเหมือน Advertorial แต่ว่าเป็นกระทู้ของแบรนด์เอง และได้พื้นที่ปักหมุด 7 วัน

คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในการใช้แพลตฟอร์ม

ทั้ง Branded content และ Brand expert account รวมถึงกำลังจะมีบริการแนะนำ Influencer ทำให้แบรนด์มีพื้นที่ของตัวเอง รวมถึงหา Influencer ได้โดยไม่ต้องจ้างม้า

ทิศทางโซเชียลมีเดีย: YouTube

ยอดผู้ใช้งานและพฤติกรรมผู้ใช้

คุณไมค์ จาก Google Thailand ได้เล่าให้ฟังถึง 3 เทรนด์ในปีที่ผ่านมาของ YouTube

1. Silo Cast: เป็นการเอาคอนเทนต์จากทีวีมาลงต่อใน YouTube – สำหรับเคสนี้ Workpoint เป็นค่ายที่ทำผลงานได้ดีมาก ในรายการ The Mask Singer เพลงของหน้ากากหอยนางรมได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกใน YouTube

2. Rural: ปี 2016 บน YouTube แทบยังไม่ค่อยมีคอนเทนค์ลูกทุ่งเลย
แต่ปรากฏว่าในปี 2017 เมื่อพูดถึงเพลงฮิตติดอันดับ พบว่า 6 ใน 10 เป็นคอนเทนต์ลูกทุ่ง

…Digital ไม่ได้อยู่เฉพาะกับคนกรุงเทพฯ เท่านั้นแล้ว
…และอะไรที่ไม่ได้อยู่บนหน้า Feed คุณ ไม่ได้แปลว่ามันไม่ดัง

3. Creator: บน YouTube มี Gold Channel ซึ่งใช้เรียกแชนแนลยอดนิยมที่มี Followers > 1 ล้านคน
ล่าสุดพบว่าในเมืองไทยมี Creator ในระดับ Gold Channel แล้วมากกว่า 30 ช่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นเท่าตัวนึงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยสาขาสุดฮิตนั้นได้แก่ Gaming, Family และ Beauty

ทิศทางของแพลตฟอร์มในปีนี้

YouTube เปิดตัวฟีเจอร์ TrueView for action มาได้ปีสองปีแล้ว แต่เหมือนจะยังไม่ถูกนำมาใช้งานโดยคนไทยมากเท่าไร สำหรับ YouTube Thailand คุณไมค์ได้พูดเน้นถึงเรื่องนี้ ซึ่ง TrueView for action จะมีประโยชน์กับนักการตลาด เพราะเป็นการใส่ Ad ใน Videoโดยเน้นที่ Call-to-Action ไม่ได้สร้าง Awareness อย่างเดียว

คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในการใช้แพลตฟอร์ม

แนะนำให้ลองใช้ TrueView for action รวมถึงอาศัยข้อมูลสามเทรนด์อย่าง Silo Cast, Rural และ Creator ยอดนิยมในไทยใช้เป็นแนวทางในการทำการตลาด

ทิศทางโซเชียลมีเดีย: Facebook

ยอดผู้ใช้งานและพฤติกรรมผู้ใช้

สิ่งที่ทำให้ Facebook ในไทยโดดเด่นเป็นอย่างมาก คือการนำมาใช้กับ Social commerce คนใช้ Facebook Live เพื่อการขายของกันเยอะมากๆ โดยเฉพาะ SMEs สำหรับพฤติกรรมการใช้งานโดยทั่วไป คนไทยส่วนใหญ่ใช้งาน Facebook แทบจะตลอดทั้งวัน แต่ช่วงที่ใช้เยอะกันจริงๆ คือช่วง On-the-go  หรือระหว่างเดินทาง ใช้กันสั้นๆ เป็นหลักวินาที ถ้ามีเวลา 100% เวลาส่วนใหญ่จะใช้ไปกับคอนเทนต์เบา ส่วนคอนเทนต์ประเภท Long-form มักใช้เวลาเพียงราว 10% เท่านั้น

ในส่วนของ Instagram ปีที่ผ่านมาฟีเจอร์ใหม่อย่าง Instagram Story ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ทิศทางของแพลตฟอร์มในปีนี้

ปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัว ‘Facebook Marketplace' และคุณดวงพรก็เปิดเผยว่าปีนี้ก็จะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้ได้ติดตามกัน รวมถึงจะมีฟีเจอร์ในกลุ่มผู้ใช้ประเภท SMEs และ Individual business ให้ได้ติดตาม

คำแนะนำสำหรับนักการตลาดในการใช้แพลตฟอร์ม

• ใช้แพลตฟอร์มให้เหมาะกับพฤติกรรมผู้ใช้
• ใช้แพลตฟอร์มให้สอดคล้องตาม Facebook Guideline เป็นสำคัญ
• แนะนำให้ใช้ Messenger bot กับธุรกิจ ซึ่งคุณดวงพรกล่าวว่าไม่เพียงแต่สามารถใช้ทำ Customer support ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ทำ Brand awareness ทำกิจกรรมเกม แคมเปญต่างๆ สนุกๆ เป็นเกมได้
• สุดท้ายคืออยากให้ลองใช้ Facebook ในเชิง Performance campaign และรู้จักใช้ประเภทของเครื่องมืออย่างเหมาะสม อย่าเลือก Page/post engagement ถ้าอยากได้ Awareness ก็เลือก Awareness ถ้าอยากให้คนซื้อของ ก็เลือก Conversion

สำหรับ Instagram แบรนด์ที่ยังไม่เคยลองใช้ สามารถทำ Instagram story ad ได้

สรุป

สำหรับแพลตฟอร์ม Facebook เราพบว่า Bullets คำแนะนำของคุณดวงพรค่อนข้างสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเรา Content Shifu เคยเขียนและเคยพูดไว้เรื่องคำแนะนำในการปรับตัวบนแพลตฟอร์ม Facebook อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ “Page ร้างห่าง Reach” ทำอย่างไรในวันที่ Facebook เปลี่ยนไป?

สิ่งที่สังเกตเห็นได้คือ จากวันแรกๆ เรามองแต่ละตัวเป็นโซเชียลมีเดียเหมือนๆ กัน แตกต่างกันนิดหน่อยที่ฟีเจอร์ มาวันนี้แต่ละเจ้าเริ่มมีจุดยืนที่แตกต่างกันชัด ทั้งในระดับประเภท Users ไปจนถึงระดับ Vision/Mission

ตาคุณแล้ว

เชื่อว่าทั้ง 5-6 โซเชียลมีเดียที่พูดถึงในบทความนี้ยังคงมีการเติบโตเรื่อยๆ และมีการปรับปรุงออกมาให้เราได้อัปเดตกันเสมอๆ

โดยส่วนตัวคิดว่าในภาพรวมการอัปเดตต่างๆ ทั้งหมดที่ได้เล่ามา ล้วนมีความน่าสนใจทั้งหมด มีบ้างบางฟีเจอร์ที่แม้จะน่าสนใจแต่ก็น่ากังวลเช่นกัน เช่น การซื้ออันดับให้ติดเทรนด์บน Twitter ไม่รู้ว่าดีต่อแบรนด์ และดีต่อ Twitter เองจริงหรือเปล่า

เราคงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ ผู้อ่านทุกท่านอย่าลืมอัปเดตข้อมูลกันบ่อยๆ นะคะ อ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไร พูดคุยกันได้ในคอมเมนต์เลยค่ะ