1 เมษายน 2024 เนื่องในวัน April Fool’s Day ทาง Burger King ได้ร่วมมือกับ Copper Beyond Buffet ออก Campaign ร่วมกันในช่วง April Fool’s Day ชื่อว่า “Copper Beyond Burger” ซึ่งตัว Campaign มีความน่าสนใจ มีการเอาเรื่อง April Fool’s Day มาหลอกในหลอก และเอาจุดเด่นของทั้ง 2 แบรนด์มาผสมรวมกัน
แคมเปญนี้คืออะไร? และมันน่าสนใจอย่างไร? มาตามอ่านบทวิเคราะห์จาก Content Shifu ได้เลย
กรณีศึกษา Burger King x Copper Beyond Buffet
Background เบื้องต้นของ Burger King และ Copper Beyond Buffet
เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะพอรู้จัก 2 แบรนด์นี้กันอยู่แล้ว แต่เราอยากจะขอมาอธิบายจุดยืน และวิธีการทำการตลาดของแต่ละแบรนด์กันเพิ่มเติมสักหน่อย
เจ้าแรก Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีสาขากว่า 18,000 แห่งใน 100 ประเทศทั่วโลก เป็นผู้นำด้านเบอร์เกอร์ตามชื่อแบรนด์ นอกจากจะเก่งเรื่องการทำ Burger แล้ว Burger King ยังมีชื่อเล่น (ที่เราชอบเรียกว่า) Burger ขิง เพราะมีบุคลิกบน Social Media ที่ขี้เล่น ชอบแซว ชอบขิง แบรนด์ที่ขายอาหารใกล้เคียงกัน และชอบทำ Campaign การตลาดทีเรียกกระแสได้เรื่อยๆ
เจ้าที่สอง Copper Beyond Buffet หนึ่งในร้านอาหารบุฟเฟต์คุณภาพพรีเมียมที่ดังที่สุดในประเทศไทย ที่ฮอตจนต้องจองก่อนไปกินทุกๆ คร้ัง สาขาแรกอยู่ที่ The Sense ปิ่นเกล้า ล่าสุดมาเปิดสาขาสองอยู่ที่ Gaysorn Amarin มีเมนูเด็ดคือซุปทรัฟเฟิล ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิว และเมนูนานาชาติอื่นๆ อีกหลากหลายเมนู (ที่ต้องบอกว่าอร่อยทุกเมนู)
Campaign April Fool’s Day ของทั้ง 2 แบรนด์นี้คืออะไร?
ช่วงวันที่ 1 เมษายน แบรนด์ต่างๆ ต่างร่วมเล่น Campaign ของวัน April Fool’s Day กันอย่างมากมาย โดยต่างงัดเอามุขเจ๋งๆ อารมณ์ขันเด็ดๆ มาประชัดแข่งกัน
ในครั้งนี้ Burger King & Copper Beyond Buffet ก็จะได้มาจับมือร่วมกันแกงผู้บริโภคชาวไทยกันชุดใหญ่ โดยที่พวกเขาเลือกปักหมุดหมายล่วงหน้าก่อนวัน April Fool’s Day 2 วันว่าจะมี Collaboration กัน
และในวันที่ 1 เมษายน พวกเขาก็ได้ประกาศ Campaign Burger 0 Cal จาก Burger King และ Copper Beyond Buffet ขึ้นมา
ที่บอกว่าเป็น 0 Cal ก็คือเป็น 0 Cal จริงๆ พวกเขาเสิร์ฟเบอร์เกอร์ลูกบอล (ที่กินไม่ได้) ให้สำหรับลูกค้าที่ไปร้าน Copper ในวันที่ 1 เมษายน พร้อมทั้งแจกคูปองแลกเบอร์เกอร์ทรัฟเฟิลฟรีที่ Burger King ทุกสาขา
วิเคราะห์แคมเปญ Burger 0 Cal
1. Win-win-win Partnership Marketing
การทำ Partnership Marketing ถ้าทำดีๆ ทุกฝ่ายจะ Win ทั้งหมด อย่างในเคสนี้
Burger King Win เพราะได้กระแสโซเชียล มีโอกาสได้ลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม และได้ภาพลักษณ์คู่กับ Copper Beyond Buffet ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ Buffet ที่พรีเมียมที่สุดในไทย นอกจากนั้นพวกเขายังใช้ Campaign นี้ประกาศให้แบรนด์อื่นๆ รู้เช่นกันว่าร้านอาหารก็สามารถมา Collab กับ Burger King ได้ คือไม่ได้มองว่าร้านอาหารเป็น Competitors แต่เป็น Industry Peers
ส่วน Copper Beyond Buffet Win เพราะได้กระแสโซเชียลเช่นกัน และได้ภาพลักษณ์คู่กับ Burger King ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลก นอกจากนั้นพวกเขายังใช้ Campaign นี้ประกาศให้แบรนด์อื่นๆ รู้เช่นกันว่า Copper Beyond Buffet พร้อมเล่น และพร้อมจะ Partner กับแบรนด์อื่นๆ ด้วย
และลูกค้าของทั้ง Burger King และ Copper Beyond Buffet เองก็ Win เหมือนกัน นอกจากจะได้กิน Buffet ที่ร้าน Copper Beyond Buffet แล้ว ยังได้เกินเบอร์เกอร์ของ Burger King เพิ่มด้วย
2. หลอกในหลอก
Campaign นี้ หลอก 2 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1 หลอกคนว่ามันคือการเล่นที่วัน April Fool’s Day คงไม่ได้มีของอะไรมาให้จริงๆ หรอก
ชั้นที่ 2 แต่ทาง Burger King ก็มีของให้จริงๆ อย่างเบอร์เกอร์ ทรัฟเฟิล
คือ Partnership นี้ อาจจะไม่ได้มีการออกเบอร์เกอร์สูตรใหม่ด้วยกัน แต่สุดท้าย ลูกค้าก็ยังได้รับชมประสบกาณ์การ Collab กันจริงๆ ของทั้ง 2 แบรนด์ และได้ของกลับไปกินด้วย
3. เอาจุดเด่นของแต่ละแบรนด์มา x กัน
Burger King เด่นเรื่อง Burger ส่วน Copper Beyond Buffet เด่นเรื่องซุปเห็ดทรัฟเฟิล
ทั้ง 2 แบรนด์จับเอาจุดเด่นที่สุดของตัวเองมาทำ Campaign ร่วมกัน ได้ออกมาเป็นเบอร์เกอร์ ทรัฟเฟิล (ซึ่งจริงๆ ทาง Burger King มีเมนูนี้อยู่แล้ว)
ต้องบอกว่านี่เป็นการจับคู่ที่ดี เพราะถ้าไปจับคู่เมนูอื่นๆ เช่นไก่ทอด หรือเบอร์เกอร์ปลา มันอาจจะไม่ได้ขับจุดเด่นของทั้ง 2 ฝ่าย และ Campaign อาจจะไม่น่าสนใจเท่านี้ก็เป็นได้
สรุป
และนี่ก็คือกรณีศึกษา ‘Beyond Burger’ ของ ‘King Copper’ นะครับ 🙂
การทำ Partnership Marketing ถ้าทำดีๆ 1+1 จะมากกว่า 2 เสมอ ลองเอาไอเดียนี้เป็นหนึ่งในการทำ Partnership Marketing ของทางแบรนด์คุณดูนะครับ