เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา Content Shifu ได้จัดงานเสวนาออนไลน์ ‘How to Start & Grow Your Digital Marketing Career’ วิธีเริ่มต้นสู่สายงานและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่สำคัญงานนี้เราได้ Speakers ผู้รู้ลึก รู้จริงมาร่วมแลกเปลี่ยนและแชร์ประสบการณ์กันภายในงานอีกด้วย เป็นอีเวนต์ที่เชื่อว่ามีประโยชน์กับใครที่กำลังสนใจในสายงานด้าน Digital Marketing อยู่แน่ๆ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้เข้าฟัง ก็ไม่ต้องเสียใจไป

เราได้สรุปประเด็นสำคัญจากการพูดคุยภายในงาน ‘How to Start & Grow Your Digital Marketing Career’ มาให้คุณในบทความนี้แล้ว! ขอบอกเลยว่าเป็นอีเวนต์ที่พวกเราชาว Content Shifu ตั้งใจทำเป็นอย่างมาก เป็นความตั้งใจที่อยากจะช่วยให้มือใหม่ที่ยังไม่มีความรู้และประสบการณ์ ในการเริ่มต้นสู่สายงาน รวมไปถึงน้องใหม่อย่าง Junior หรือรุ่นพี่ Senior ในสายงานที่กำลังมองหาความเติบโตเพิ่มเติม ได้เห็นทิศทางการพัฒนาตัวเองที่ชัดขึ้นในการพัฒนาตนเองและเติบโตยิ่งขึ้นในสายงาน Digital Marketing

สายงานด้าน Digital Marketing ในไทยยังคงเป็นที่ต้องการ และมีแนวโน้มที่จะต้องการมากขึ้นต่อไปอีกในอนาคต และวันนี้เราจะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สายงาน หรือถ้าใครที่กำลังอยู่ในสายงานและอยากรู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะเติบโตในสายงานนี้ได้ บทความนี้เรามีคำตอบให้คุณค่ะ 🙂

[Opportunity Landscape] แนะนำโอกาสในสายงาน Digital Marketing

ประเด็นแรกสุดของงานนี้ ได้พูดคุยถึงแนวโน้มทิศทางและโอกาสของสายงาน ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในปัจจุบันว่าจะหางานยากไหม? สายงานไหนที่เป็นที่ต้องการ?

ตัวอย่างเทรนด์ความต้องการแรงงาน ครึ่งปีแรกของ 2564 ข้อมูลจาก JobsDB

คุณพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ตำแหน่ง Country Manager จาก JobsDB (Thailand) Ltd. แพลตฟอร์มชั้นนำด้าน Recruitment หรือคุณกุ้ง ได้นำสถิติการสำรวจจากเว็บไซต์ JobsDB มาแชร์ให้เห็นกันว่า ในช่วงครึ่งปีแรก อุตสาหกรรมและงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี รวมถึงการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) หรือ E-commerce ยังคงเป็นที่ต้องการในอันดับต้นๆ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจเทรนด์การเติบโตของสายงานที่มีการเติบโตขึ้นในทุกๆ ปี จะยังคงเป็นสายงานด้านเทคโนโลยีและ Digital Marketing ที่ถึงแม้จะมีสถานการณ์โควิด 19 ก็ไม่ได้ทำให้สายงานด้านนี้เป็นที่ต้องการลดลงเลย

ตัวอย่างเทรนด์ความต้องการแรงงาน เดือนกรกฎาคม 2564 ข้อมูลจาก JobsDB

ตัวอย่างตำแหน่งงานสุดฮอตในสายงานด้าน Digital Marketing ข้อมูลจาก JobsDB

ในส่วนของตำแหน่งงานสุดฮอตในสายงานด้าน Digital Marketing ที่ผู้ประกอบการมองหา จากผลสำรวจของ JobsDB พบว่าได้แก่ตำแน่งงานดังต่อไปนี้ Content Marketing, Social Media Specialist, SEO Specialist, SEM Specialist และ Digital Marketer

เป็นยังไงกันบ้าง มีตำแหน่งในที่เพื่อนๆ กำลังทำอยู่หรือสนใจบ้างไหม?

[How to Start] แนะนำเกี่ยวกับการเข้าสู่สายงาน

สำหรับประเด็นที่สองจากภายในงานได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการแนะนำการเริ่มต้นเข้าสู่สายงาน ว่าควรมีการเริ่มต้นหรือต้องมีการเตรียมตัวยังไง? พร้อมแชร์ประสบการณ์จากพี่ๆ Speakers เพื่อเป็นการช่วยแนะแนวสำหรับใครที่สนใจและอยากเริ่มต้น

เริ่มจากสนใจ และลงมือทำ!

คุณวิริยะ รงค์ทอง ตำแหน่ง B2B Marketing Manager (Restaurant Business) จาก LINE MAN Wongnai หนึ่งในทีมนักการตลาดผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Startup ‘Wongnai’ และสร้างความเติบโตจนมาสู่ LINE MAN Wongnai ในปัจจุบัน หรือคุณโจ้ ได้กล่าวว่า ได้เริ่มต้นจากตำแหน่ง Marketing Analyst โดยช่วงแรกที่สมัครเข้าไปหลังจากเรียนจบ มีความสนใจในแวดวง Startup หรือเทคโนโลยีเป็นพิเศษ เพราะมองเห็นว่าในแวดวงนี้ค่อนข้างมี Opportunity ใหม่ๆ ที่จะทำให้ได้เรียนรู้ อีกทั้งได้มีโอกาสได้ไปเข้าค่าย YWC (Young Webmaster Camp) ซึ่งเป็นค่ายที่ได้เรียนรู้เยอะมาก ได้รู้เกี่ยวกับการทำเว็บ การทำแอปฯ เป็นอีกโอกาสที่ดีมาก สำหรับใครที่มีความสนใจในด้านนี้ จากนั้นพอไปสมัครงานก็ได้ทำงานที่แรกที่ Wongnai ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทั้งจากการค้นคว้าด้วยตัวเอง เรียนรู้จากพี่ๆ ในที่ทำงาน และได้เติบโตในสายงานด้านนี้มาจนถึงปัจจุบัน

เป้าหมายที่ชัดเจน

คุณกนกพร กุลศรี ตำแหน่ง Strategic Planning Director จาก Brilliant & Million Co., Ltd. ดิจิทัลเอเจนซี่สัญชาติไทยที่ได้รับรางวัลจาก นิตยสาร Campaign Asia Pacific 6 ปีซ้อน หรือคุณต้นเตยได้แชร์ถึงเป้าหมายที่คุณต้นเตยมีตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยมฯ ที่มีความชื่นชอบในด้านการตลาด โฆษณา เมื่อขึ้นมหาวิทยาลัยก็ได้เข้ามาเรียนในคณะบริหารธุรกิจฯ ทำให้ได้รู้จักโครงการแข่งขันกลยุทธ์ทางการตลาดที่เปิดโอกาสให้ได้เข้าไปคิดไอเดียและได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง ได้รับโอกาสดีๆ จากอาจารย์ที่ช่วยสนับสนุนในหลายๆ เรื่อง และได้เข้าร่วมค่ายต่างๆ ที่มีส่วนช่วยให้ได้เรียนรู้พัฒนาตัวเองตลอดมา เช่น ค่าย YWC (Young Webmaster Camp) ยิ่งทำให้ได้รู้จักคนเจ๋งๆ ในวงการนี้มากยิ่งขึ้น เมื่อเรียนจบก็ได้ทำงานที่เอเจนซี่โฆษณา Brilliant & Million จนถึงปัจจุบันนี้

คุณอรจาก Content Shifu ก็ได้เสริมอีกว่าสำหรับใครที่ต้องการเริ่มต้น อาจจะลองเริ่มจากการเข้าไปลงมือทำ เช่น ฝึกงาน หรือการเป็นฟรีแลนซ์ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสเต็ปที่จะช่วยให้เราได้เริ่มทดลอง และเรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วเราชอบไหม ถือเป็นการสั่งสมประสบการณ์ไปในตัว อย่างทาง Content Shifu เราก็ได้มีการให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่ได้มาทดลองงาน ฝึกงาน หรือมาเป็นฟรีแลนซ์ ถ้าใครสนใจอยากลองลงมือทำก็สามารถสมัครเข้ามาได้ที่นี่เลย

งานที่เกี่ยวกับ Digital Marketing จำเป็นไหมที่จะต้องมีคำว่า Marketing ต่อท้าย?

บางคนอาจจะกำลังสงสัยอยู่ใช่ไหมว่า ตำแหน่งงานด้าน Digital Marketing มีลักษณะงานยังไง? และจำเป็นไหมที่จะต้องมีคำว่า Marketing, Planner หรืออื่นๆ ต่อท้าย ถึงจะเป็นงานด้าน Digital Marketing ทาง Speakers ก็ได้อธิบายโดยแยกออกเป็น 2 ฝั่งเพื่อให้เห็นภาพ ได้แก่ ฝั่งของ Agency ที่ได้คุณต้นเตยช่วยอธิบาย และฝั่งของ In-house ที่ได้คุณโจ้มาแชร์

Agency

แบ่งได้เป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่ดูแลภาพรวม อย่างตำแหน่ง Account Manager และฝ่ายที่เจาะลึกเชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้นๆ อย่างตำแหน่ง Strategic Planner, Creative, หรือ SEO Specialist เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าถ้าเป็นสายงานที่เกี่ยวกับ Digital Marketing ทางฝั่ง Agency ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า Marketing ต่อท้าย แต่จะดูที่หน้าที่รับผิดชอบมากกว่า

In-house

สำหรับทางฝั่งแบรนด์จะค่อนข้างมีความชัดเจนในชื่อของตำแหน่งงาน เช่น หากมีคำว่า Marketing ต่อท้าย ก็แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับงานด้านการตลาด หรือตำแหน่งอื่นๆ ที่แยกย่อยลงไปซึ่งก็อาจจะมีเนื้องานที่สนับสนุนกัน อย่างเช่น ที่ Wongnai จะมีทีมหลักๆ ที่ดูแลด้าน Marketing 2 ฝั่ง คือ ทีม Marketing และทีม Content

นอกจากนี้ คุณกุ้งก็ได้เสริมถึงตำแหน่งงานที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ Marketing แต่ไม่มีคำว่า Marketing ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการสำรวจของ JobsDB เมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่ ตำแหน่ง Live Content Creator, Blockchain, Cyber Forensic Technology หรือ Chief of Growth เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตำแหน่งงานที่เกิดใหม่จะมีค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจจะไม่ใช่ชื่อแบบที่เราเห็นบ่อยๆ ดังนั้น ให้ดูที่ลักษณะหน้าที่ของงานมากกว่า

[How to Grow] แนะนำเกี่ยวกับการเติบโต

เตรียมตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

ปัจจุบันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์อยู่มากมายที่รอให้เราเข้าไปค้นคว้า และอัปสกิลความรู้ ดังนั้นสำหรับใครที่อยากลองเริ่มต้นสายงานด้าน Digital Marketing หรือด้านอื่นๆ น้องจบใหม่อยากจะเริ่มต้นสู่สายงาน หรือใครที่ทำงานมาสักพักแล้วอยากย้ายมาสายงานนี้ ในมุมมองผู้ประกอบการที่จะรับคนเข้ามา ถ้าคนที่ไม่มีประสบการณ์เลย อาจจะต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมในสายนั้นๆ เช่น การลงเรียนคอร์สออนไลน์ แล้วเอา Certificate มาเพื่อเป็นการยืนยันว่าเรามีความรู้พื้นฐานในเรื่องนั้นๆ และเมื่อทำงานไปสักพักแน่นอนว่าคุณควรที่จะมีความเชี่ยวชาญในสายนั้นๆ ด้วย

ปรับ Mindset and ready, get set, go!

เริ่มต้นยังไง? ก่อนอื่นอาจจะต้องลองเริ่มจากการถามความต้องการของตัวเองก่อน ถ้าหากเราอยากเป็นลูกจ้างแบบไหนก็ควรที่จะเอาตัวเองไปอยู่กับคนแบบนั้น เราต้องเลือกองค์กรที่เหมาะกับเรา อาจจะลองมองจาก Culture หรือ Lifestyle ขององค์กร ปัจจุบันนี้อาจจะลองเข้าไปค้นหารีวิวได้จากเว็บไซต์ต่างๆ ที่จะมีคนมารีวิวไว้ อย่างคุณต้นเตยเอง มองย้อนกลับไปตอนที่คุณต้นเตยเริ่มทำงาน มี 2 สิ่งที่คิด คือ มองว่าองค์กรนี้ผู้บริหารเป็นยังไง? เขาเปิดรับฟังไหม พร้อมให้เราพัฒนาไหม เขาเน้นการบริหารแบบไหน และสกิลแรกเลยคือให้ลองวาดภาพตัวเองก่อนไปอยู่องค์กรนั้น ตั้ง Goal ว่าเราจะนำความรู้หลายๆ Area ที่เรามี ไปสร้าง Surprise หรือ Impact ให้กับองค์กร นอกจากนี้พี่ต้นเตยยังได้เสริมอีกว่า ในโลกของมหาวิทยาลัยและโลกของการทำงานมีความต่างกัน เพราะในชีวิตจริงจะมี Challenge ใหม่ๆ มาทดสอบเราอยู่เสมอ 

เป็นเป็ดไม่ดี?

Marketing เป็นสกิลที่ปัจจุบันสามารถหาเรียนได้ค่อนข้างง่าย อยากจะแนะนำให้ใครที่มีความสนใจในสายงานด้านนี้ลองไปศึกษา ค้นคว้าเพิ่มเติม เช่น ต้องการหาความรู้ในด้าน Digital Marketing ก็อาจจะไปอ่านบทความของ Content Shifu หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่ให้ความรู้ในด้านนั้นๆ ไปลงเรียนคอร์สออนไลน์ และศึกษาพื้นฐานด้าน Marketing หรือ Tools ต่างๆ จะทำให้เวลาไปสมัครงาน องค์กรก็จะมองเห็นว่าเรามีความสนใจในด้านนี้จริง มีโอกาสที่จะเรียนรู้ในด้านนี้ได้เพราะเรามีพื้นฐานมาก่อน ถึงแม้เราจะจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ถ้าคุณสนใจ คุณจำเป็นที่จะต้องโชว์ Passion ที่มีออกมา

หรือถ้าคุณอยากจะโตเป็น Manager Level, Director Level ก็ควรที่จะรู้เยอะๆ อาจจะไม่ต้องรู้ลึก ถึงแม้จะดูเป็นเป็ดแต่ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะเมื่อเวลาทำงานร่วมกับหลายๆ ทีมจะทำให้เข้าใจคนในทีมมากขึ้น เข้าใจการทำงาน และโอกาสเติบโตในตำแหน่งก็จะมีมากขึ้นอีกด้วย

ช่างเชื่อม กับ ช่างแม่ง?

อีกหนึ่งพาร์ทที่คุณต้นเตยได้นำมาแชร์ คือ องค์กรจะมองหาคนสองแบบ คือ ช่างเชื่อม กับช่างแม่ง และชวนคิดต่อว่าก่อนเข้าไปทำงานเราอาจจะลองมองตัวเองดูว่าเราจะเป็นคนแบบไหนดี? ช่างเชื่อม หรือช่างแม่ง?

ช่างเชื่อม คือ คนที่รู้ในหลายๆ Area แล้วสามารถนำองค์ความรู้ หรือประสบการณ์ที่มีมาเชื่อมโยงเข้ากันได้ เข้าใจภาพรวม หากจะบอกว่าเป็นเป็ด ก็คงเป็นเป็ดที่ฉลาด แข็งแรง บินได้ โดยคุณต้นเตยจะบอกน้องๆ ในทีมอยู่เสมอว่า ถ้าเราจะเป็น Planner ที่ดีได้ เราต้องเป็นคนที่มีความ Hybrid เพราะธุรกิจปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเป็นคนแบบช่างเชื่อมจะช่วยให้เราสามารถเชื่อมคนในทีมได้เพราะเข้าใจภาพรวมนั่นเอง

ช่างแม่ง คือ การที่เราพร้อมที่จะช่างแม่งกับทุกปัญหาที่มากีดขวาง ความกลัว หรืออุปสรรคต่างๆ ซึ่งการช่างแม่งนี้ ถือได้ว่าเป็น Mindset ที่ดีในการปล่อยวาง กับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา แล้วเอาเวลาและพลังไปโฟกัสกับงานที่ทำมากขึ้น

แชร์เทคนิคค้นหาตัวเอง วางแผนอนาคต และสำรวจตัวตน

แผนภาพแสดงกระบวนการเปลี่ยนจาก Comfort Zone to Growth Zone

เพื่อให้เราสามารถสำรวจตัวตน มองเห็นภาพชีวิตของการทำงาน อาจจะแบ่งแต่ละสเตจที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกของเรา ได้ดังนี้

Comfort Zone – เมื่อได้เข้าไปทำงานในโลกแห่งการทำงานในชีวิตจริง เราจะรู้สึกว่ามันมีงานบางประเภทที่เราก็ทำได้ เมื่อได้เข้าไปทำก็สามารถรับผิดชอบงานสำเร็จ ทำเสร็จส่งหัวหน้า จบ ซึ่งแบบนี้จะเรียกว่าเป็นสเตจของ Comfort Zone คือเราสามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่สำเร็จ ลุล่วงได้

Fear Zone – ต่อมาจะเป็นสเตจที่เรียกว่า Fear Zone ให้ยินดีเมื่อมีความรู้สึกเหล่านี้ เช่น ขาดความมั่นใจ (กลัวว่าจะพรีเซ้นต์ไม่รู้เรื่อง กลัวว่าทำแบบนี้คนจะไม่ชอบ กลัวว่าถ้าย้ายสายงานแล้วจะทำอะไรผิดพลาด) หรือเจอสิ่งที่ตัวเราเองต้องแก้ไข เช่น เกิดการตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ฉันทำสิ่งนี้ไม่ได้เพราะ…” ความรู้สึกเหล่านี้ คือสัญญาณที่ดี เพราะแสดงว่าคุณกำลังอยู่ในสเตจของ Fear Zone หรือถ้าเรารู้สึกว่าคนอื่นเริ่มมีอิทธิพลกับเรา ทำให้เรารู้สึก Down เริ่ม Fail จากความคิดเห็นของคนอื่น นี่คือ Fear Zone เราต้องหาคำตอบว่าทำยังไงถึงจะไม่กลัว ถึงจะมั่นใจมากขึ้น เป็นสเตจที่เราต้องเตรียมตัวด้านจิตใจและทัศนคติให้พร้อมเพื่อให้ตัวเราเองสามารถก้าวผ่านความรู้สึกเหล่านี้ไปได้

Learning Zone – เมื่อมาถึงสเตจนี้เราก็จะพร้อมจัดการความท้าทายหรือปัญหาต่างๆที่ เข้ามา เริ่มมี Skill ใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้ Comfort Zone ที่เราเคยมีกว้างขึ้น เราจะอึดอัดน้อยลงกับปัญหาที่เข้ามา

Growth Zone – เป็นสเตจที่เราจะทำมันได้แข็งแรงมาก ค้นหาเป้าหมาย คิดถึงปลายทางชีวิตมากขึ้น เราจะได้ใช้ชีวิตในฝัน ได้ทำทุกสิ่งที่อยากทำ ได้อย่างไม่เดือดร้อน เราจะเริ่มมี Goals ใหม่ๆ ของชีวิตมากขึ้นที่ไม่ใช่แค่เรื่องงาน ที่สำคัญเราจะสามารถฝ่าฝันเพื่อพิชิตทุกเป้าหมายของเราให้สำเร็จได้

จริงๆ แล้วในชีวิตการทำงานเชื่อว่าทุกคนจะต้องกำลังเผชิญกับแต่ละสเตจจากแผนภาพที่กล่าวมาอยู่แน่ๆ ซึ่งการจะผ่านแต่ละสเตจไปได้แน่นอนว่าเราจะต้องเผชิญกับความยาก ลำบาก การต่อสู้กับจิตใจ และเรียนรู้ ดังนั้น เราอาจจะต้องลองสำรวจและถามตัวเองว่าเป้าหมายหรือชีวิตแบบไหนที่เราต้องการ บางคนอาจจะมีความสุขกับการอยู่ใน Comfort Zone หรือบางคนอาจจะมีเป้าหมายที่ต้องการไปถึง Growth Zone เมื่อเรารู้ถึง Goals ที่เรามีเราก็จะสามารถมุ่งไปยังจุดหมายนั้นได้

สรุป

ปัจจุบันนี้ สายงานด้าน Digital Marketing ยังคงมีความเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คุณควรที่จะรู้ตัวเองก่อนว่าคุณเองสนใจ Marketing ในด้านไหน? จากนั้นอาจจะลองเลือกเรียนรู้ในด้านนั้นๆ ก่อน การรู้ทุกเรื่องเป็นสิ่งที่ดี แต่แนะนำว่าควรลองถามตัวเองดูว่า ตัวคุณเองมีความสนใจในเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหม? หรือถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี แนะนำว่าลองดูแพลตฟอร์มอะไรคนใช้เยอะที่สุด ลองเอาตัวเองไปอยู่ในนั้น ศึกษา ลงมือทำ แล้วเราจะค่อยๆ รู้ว่าเราควรไปในทิศทางไหนต่อไป


สำหรับใครที่อยากหา Resource ดีๆ ที่รวมทักษะสำคัญ แหล่งเรียนรู้ เพื่อก้าวสู่เส้นทางสายงาน Digital Marketing ขอแนะนำ นี่เลย! คู่มือเริ่มต้นสายงานด้าน Digital Marketing สามารถดาวน์โหลดไว้เป็นแนวทางได้ฟรี ดาวน์โหลดได้ที่นี่

หรือสำหรับใครที่มีความสนใจด้าน Digital Marketing แต่ไม่แน่ใจว่าจะมุ่งไปด้านไหนดี กำลังค้นหาตัวเอง ขอแนะนำ Career Explorer Package เป็นแพคเกจคอร์สเรียนออนไลน์ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเลือกเรียน Mini Courses หลายๆ สาย ได้ในราคาสุดคุ้ม!

 

หรือถ้าหากใครที่ต้องการเริ่มต้นเข้าสู่สายงานนี้ หรือต้องการเติบโตในสายงานด้าน Digital Marketing อาจจะลองนำเอาประสบการณ์และสิ่งที่ Speakers มาแชร์ไปปรับใช้ ที่สำคัญควรมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอเพื่อให้ไม่พลาดทุกโอกาสที่จะเข้ามา 

ตาคุณแล้ว

ชวนสำรวจว่ามีเรื่องอะไรที่คุณได้เรียนรู้จากงานเสวนา ‘How to Start & Grow Your Digital Marketing Career’ ในครั้งนี้บ้าง? ถ้าหากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังสนใจสายงานด้าน Digital Marketing หรืออาจจะอยู่ในสายงานนี้อยู่แล้ว ต้องการเติบโตในสายงานต่อไป อาจจะลองนำแนวคิด ประสบการณ์หรือสิ่งที่ Speakers ของเราได้แชร์ไปเป็นแนวทางได้

นอกจากนี้ทาง Content Shifu เราก็จะคอยอัปเดตสาระความรู้ดีๆ ด้าน Digital Marketing อย่างช่วงนี้เราก็มีแคมเปญดีๆ ที่กำลังจัดมาแนะนำค่ะ แคมเปญ ‘Up the Chance’ เป็นแคมเปญอยากจะช่วยให้คุณได้อัปสกิล เพื่อเปิดประตูเข้าสู่สายงานด้าน Digital Marketing เพื่อเพิ่มทักษะ เสริมความรู้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน อ่านรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือคุณสามารถสมัครสมาชิกเพื่อติดตามรับข่าวสารกับ Content Shifu คุณจะได้รับข่าวสาร งานอีเวนต์ดีๆ ที่เราจัด (หรือเข้าร่วม) และอีกมากมาย แล้วมาติดตาม พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยกันนะคะ 😉

เรายังมี Resource ดีๆ เป็นคู่มือเริ่มต้นสายงานด้าน Digital Marketing ไว้ให้คุณได้โหลดเก็บไปศึกษากันแบบฟรีๆ เลย สามารถดาวน์โหลดกันได้ด้านล่างเลยค่ะ

digital marketing career guide