ตลอดปี 2022 ที่ผ่านมาข่าว Facebook หรือ Meta ประกาศพัฒนาฟีเจอร์และอัลกอริทึ่มมีให้เห็นแทบทุกวัน โดยเฉพาะการพัฒนา Reels ที่ถือเป็นอาวุธเด็ดสำหรับสู้กับคู่แข่งอย่าง TikTok ที่กำลังครองใจวัยรุ่นและผู้ใช้งานจากทั่วโลกมากขึ้นทุกวัน แต่กลับมีกระแสตีกลับ เพราะแต่ละฟีเจอร์นั้นไม่เหมาะกับผู้ใช้งาน Facebook ซักเท่าไร

ในปี 2023 นี้ Facebook / Meta จึงได้กลับมาทบทวนตัวเองใหม่อีกครั้ง จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง มีกฎและฟีเจอร์ใหม่อะไรที่นักการตลาด และ ครีเอเตอร์จำเป็นต้องรู้ รีบมาดูเพื่อเตรียมรับมือให้ทันกันค่ะ!

ยาวไปอยากเลือกอ่าน

สรุป 7 ข่าว Facebook Update เตรียมรับมือปี 2023 รวมทุกประเด็นสำคัญ ฟีเจอร์ใหม่ และ อัปเดตอัลกอริทึ่มที่จำเป็นต้องรู้ก่อนสาย!

1. ประกาศย้าย! Facebook เตรียมปิด Creator Studio แล้ว

เปิดปี 2023 มา Facebook / Meta ก็ประกาศข่าวร้อนทันที กับการปิดใช้งาน “Facebook's Creator Studio” และหันไปใช้ “Business Suite” อย่างเต็มรูปแบบ โดยในช่วงต้นปีนี้ผู้ใช้งานยังสามารถใช้ทั้งสองแพลตฟอร์มได้อยู่ แต่อีกสักพักจะเริ่มปิดอย่างถาวร

ข้อดีของการหันมาใช้ Business Suite คือ หน้าตาของ Professional Dashboard และ Insight ที่ลงลึกกว่า ฟีเจอร์ A/B Testing รวมไปถึงการตั้งเวลาโพสต์พร้อมกันได้ทั้งช่องทาง Facebook และ Instagram นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์กับนักการตลาดอีกมากมาย สำหรับใครที่เคยชินกับ Creator Studio ควรรีบปรับมาใช้ Business Suite เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ทันนะคะ

2. Facebook เรียกเก็บเงินโฆษณาใหม่เป็นแบบ “บริการตัวเอง”

เรียกได้ว่าอัปเดตกันแทบทุกเดือนสำหรับการยิงโฆษณา Facebook แต่ข่าวที่เรียกเสียงฮือฮาที่สุด คงหนีไม่พ้นประกาศ “Self-serve Advertising” หรือ “โฆษณาแบบบริการตัวเอง” ที่จะเปลี่ยนวิธีการเรียกเก็บเงิน Facebook และ ส่งผลต่อการยิงโฆษณาที่ต้องวางแผนรัดกุมมากขึ้น บอกเลยว่า งานนี้นักการตลาดมีกุมขมับกันเลยทีเดียว

ข่าว Facebook อัปเดตกฎใหม่สำหรับยิงแอด / ยิงโฆษณา Facebook 2023

1. Advertiser Balance (ผูกบัตร / เติมเงิน)

ในปี 2023 นี้อาจมีบางบัญชีที่ถูกปรับเข้าระบบ Advertiser Balance นั่นคือต้องจ่ายเงินเข้าไปก่อน หรือ ผูกบัตรถึงจะยิงโฆษณาได้ โดยแบ่งเป็น Invoiced (ผูกกับบัตรเครดิตและมีวงเงินการยิงแอด) และ non-invoiced (เติมเงินก่อนยิง)

2. สิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีโฆษณา

Facebook มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเจ้าของบัญชี เครดิตการใช้จ่ายเงินโฆษณาในขณะยิงและหลังยิงโฆษณา รวมถึงตรวจรายการเครดิตธุรกิจ เพื่อตรวจสอบการทำผิดกฎของผู้ใช้งาน ถ้า Facebook พบก็จะปฏิเสธการซื้อและโดนลบโฆษณาในทันที

3. เติมเงินแล้วขอ Refund ไม่ได้

ถ้าใช้วิธีแบบ non-invoiced (เติมเงินก่อนยิง) ในการยิงโฆษณา จะไม่สามารถขอเงินคืนได้ถ้ามีเงินค้างอยู่ในบัญชี

4. ยกเลิกโฆษณามีผลใน 24 ชั่วโมง และส่วนต่างนั้นผู้ใช้ต้องจ่ายเอ

กฎนี้ทำเอาเครียดนิดหน่อย ถ้ายกเลิกโฆษณาแล้ว โฆษณาจะยังรันอยู่อีก 24 ชั่วโมง แล้วจึงจะเอาออก แต่ค่าใช้จ่ายระหว่างนั้นทางผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง

5. เกินกำหนดชำระคิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน

ข้อควรระวังเลยนะคะ! ถ้าเราใช้วิธีเก็บเงินแบบ invoices (ผูกบัตรเครดิต) แล้วเกิดกรณีบัตรมีปัญหา ตัดเงินไม่ได้จนเลยกำหนดชำระเงิน ทาง Facebook จะคิดดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน

6. รักษาความปลอดภัยบัญชีตัวเอง ถ้าโดนแฮกทาง Facebook จะไม่รับผิดชอ

บัญชีใคร คนนั้นรับผิดชอบ ในกรณีที่ถูกแฮกบัญชี ทาง Facebook จะไม่รับผิดชอบใดๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เสียไปจากการถูกแฮกด้วย เป็นไปตามกฎ “Self-Serve Advertising”

กฎใหม่ Facebook มีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ม.ค. 66 นี้ ซึ่งข้อดี คือ ช่วยลดโฆษณาที่ถูกยิงแบบพร่ำเพรื่อ ไม่สร้างสรรค์ และสร้างข้อจำกัดให้นักการตลาด หรือ ครีเอเตอร์ต้องใส่ใจและรัดกุมในการยิงโฆษณามากขึ้น แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็เป็นการผลักภาระและความเสี่ยงให้กับผู้ใช้งานเช่นกัน

อ่านรายละเอียดเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ ที่นี่

3. Facebook ปรับกฎการยิงโฆษณาสำหรับกลุ่มวัยรุ่น (ต่ำกว่า 18 ปี)

โซเชียลมีเดียเป็นเหมือนดาบสองคม ในขณะที่มอบโลกอันไร้พรมแดนทางความรู้และความบันเทิง แต่ก็พร้อมจะทำร้ายผู้ใช้งานได้ทุกเมื่อ ยิ่งกับเด็กวัยรุ่นที่ยังมีวุฒิภาวะไม่พอ การรับสารทางโซเชียลที่ขาดการกลั่นกรองความเหมาะสม อาจส่งผลต่อพฤติกรรมและมุมมองความคิดในชีวิตจริงได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ Facebook จึงออกกฎมาควบคุมสื่อกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หนึ่งในนั้น คือ เรื่องการยิงโฆษณา ที่จะมีผลบังคับใช้ภายใน ก.พ. 66 นี้

ยกเลิกการระบุเพศ เหลือแต่อายุและสถานที่

Facebook อัปเดตกฎใหม่สำหรับยิงโฆษณาในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยยกเลิกการระบุเพศ ให้เหลือแต่ช่วงอายุและสถานที่อยู่ อีกทั้งยังมีแผนที่จะปรับ Interest ในกลุ่มเด็กวัยรุ่นโดยจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมหรือการติดตามของเด็กเท่านั้น แต่อิงความเหมาะสมเพิ่มด้วย โดยจะมีประกาศเพิ่มเติมในเดือน ก.พ. 66 นี้

ตั้งค่าและควบคุมการมองเห็น Ad Topics ได้

นอกจากจะควบคุมด้านการยิงโฆษณา ตัวผู้ใช้งานที่เป็นเด็กเองก็สามารถควบคุมหัวข้อ Ad Topics ที่แสดงผลหน้า Feed ได้ด้วยเช่นกัน โดยไปที่ Setting > Ad Preference > Ad Topics

การตั้งค่า Ad preferences
Hawkdive

โดยหัวข้อที่จะถูกแบนการมองเห็นอัตโนมัติจะมีกลุ่มแอลกอฮอล์, ความรุนแรง, สินค้าเกี่ยวกับการเงิน หรือ ความสวยความงามต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กที่ขาดวุฒิภาวะและวิจารณญาณลงเชื่อไปกับโฆษณาสินค้าที่สร้างค่านิยมด้านฐานะและรูปร่างหน้าตา

4. เพิ่ม Facebook Stars ในคอนเทนต์ทุกรูปแบบ พร้อมอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ช่วยสร้างรายได้ให้ครีเอเตอร์

“ชอบใครให้ส่งดาว” – Facebook Stars คือ ฟีเจอร์ที่ Facebook / Meta สร้างขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์ และ เพิ่มช่องทางให้ครีเอเตอร์มีส่วนร่วมกับผู้ติตตามมากขึ้นด้วยการพูดคุยกับคนที่ส่งดาวมาให้ โดยช่องที่สามารถเปิดให้ส่งดาวได้จะต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 1,000 Followers ภายในเวลา 60 วัน

แรกเริ่มฟีเจอร์นี้มีแค่เฉพาะ Reels และ Live Streaming เท่านั้นจึงฮิตในวงการเกม แต่ในปี 2023 นี้ Facebook จะขยายให้มีส่งดาวในคอนเทนต์ทุกรูปแบบแล้ว!

Facebook Stars นอกจากเป็นช่องทางสร้างรายได้แล้ว ยังเป็นเสมือนกำลังใจให้กับเหล่าครีเอเตอร์ที่ลงแรงสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ Facebook จึงพยายามเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ติดตามส่งดาวให้ครีเอเตอร์มากขึ้น โดยในปี 2023 มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ดังนี้

  • เพิ่ม Facebook Stars ในคอนเทนต์รูปภาพและข้อความ
  • ฟีเจอร์ Stars Party คล้ายกับ Challenge ที่ถ้าครีเอเตอร์ได้ดาวครบตามเป้าหมาย ก็จะมีรางวัลเฉลิมฉลองให้
  • สร้างดาวในรูปแบบของขวัญออนไลน์ (Virtual Gifts) ที่ใช้ส่งให้กับครีเอเตอร์สำหรับคอนเทนต์กลุ่มพิเศษ เช่น ของขวัญรูปอาหารสุนัขสำหรับครีเอเตอร์สาย Pet Lover เพื่อให้ผู้ติดตามรู้สึกอยากส่งของขวัญมากขึ้น
  • เพิ่มการ filter Comment Manager ให้สามารถแสดงคอมเมนต์ของคนที่ส่งดาวมาให้ และยังสามารถตอบคอมเมนต์ได้ทีละหลายคอมเมนต์ในครั้งเดียว ให้ครีเอเตอร์มีส่วนร่วมกับผู้ติดตามมากขึ้น

อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

5. โพสต์ Reels ข้ามแพลตฟอร์มจาก IG มา Facebook ได้แล้ว

ข่าว Facebook โพสต์ Reels ใน Facebook ได้แล้ว
Facebook

ในยุคที่คนดูคอนเทนต์หลายรูปแบบมากขึ้น โดยเฉพาะประเภท Short-form Video หรือวิดีโอสั้นที่กลายเป็นเทรนด์กระแสหลักไปแล้ว เพื่อให้คนมองเห็น Shorts ของคุณมากขึ้น Facebook จึงเปิดให้สามารถแชร์ Reels มาที่ Facebook และยังสามารถสร้าง Reels ใน Facebook ได้แล้วเช่นกัน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเล่นช่องทางไหนก็ต้องเห็นคลิปของเราแน่นอน

วิธีการเปิด Cross-post จาก Reels มาที่ Facebook อัตโนมัติ

  1. ไปที่ Facebook > Setting > Account Centre
  2. กดทำตาม Step ในการ Add Account ที่อยากจะแชร์คอนเทนต์ร่วมกัน
  3. หลังจากนี้สามารถโพสต์ Reels ใน Instagram แล้วจะแชร์อัตโนมัติมาที่ Facebook ได้เลย

หรือใครที่ไม่ได้มี Instagram เป็นช่องทางหลัก ก็สามารถสร้าง Reels ใน Facebook Reels ได้ เพื่อขยายฐานคนดูคลิปประเภท Short-form Video มากขึ้น

6. ครีเอเตอร์เฮ! ยิงโฆษณาบน Reels ได้แล้วทั้ง 3 รูปแบบ

ข่าว Facebook อัปเดตฟีเจอร์ 2023 ยิงแอดใน Reels ได้ทั้งแบบ Overlay ads และ Post loop ads
Interstitial ads (ซ้าย) , Overlay ads (ตรงกลาง) , Post loop ads (ขวา)
Facebook

Reels กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางทำเงินสำหรับแบรนด์ธุรกิจต่างๆ นอกจากการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและตรงใจกลุ่มเป้าหมายแล้ว อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ คือ การยิงโฆษณาให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่ง Reels ก็สามารถลงโฆษณาได้ถึง 3 รูปแบบ

  • Interstitial ads : โฆษณาวิดีโอหรือภาพนิ่งที่จะขึ้นคั่นระหว่างเลื่อนดู Reels แบบเต็มหน้าจอ
  • Overlay ads : โฆษณาในลักษณะ Banner ที่จะขึ้นอยู่ใต้แคปชั่นเป็นตัวแรกทันทีที่ Reels เริ่มเล่น
  • Post loop ads : โฆษณาวิดีโอที่จะเล่นคั่นระหว่างที่ Reels นั้นๆ กำลังเล่นอยู่ โดยจะแสดงก็ต่อเมื่อวิดีโอ Reels นั้นถูกเล่มซ้ำเป็นครั้งที่สอง

อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

7. เตรียมตัวรับมือ New Pages Experience หน้าตาเพจใหม่ที่อาจถูกบังคับเปลี่ยนแบบกะทันหัน

ข่าวเรื่อง New Pages Experience หรือ รูปแบบหน้าตาใหม่ของเพจ ที่เปลี่ยนตั้งแต่การแสดงผลรูปภาพไปจนถึง Insight หล้งบ้าน ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเป็นกระแสมาตั้งแต่ปีที่ 2021 แล้ว

แต่ในช่วงปลายปี 2022 ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ มีหลายเพจที่ ‘ถูกบังคับเปลี่ยนแบบกะทันหัน' จากรูปแบบ Classic Page ให้กลายเป็น New Pages Experience โดยไม่ทันตั้งตัว จนทำให้รูปภาพที่โพสต์ทั้งแบบภาพเดี่ยว และ อัลบั้มเด้งไปตามๆ กัน

New Page Experience คืออะไร? เตรียมรับมืออะไร?
ที่มารูป: Facebook

แม้ว่าการเปลี่ยนกลับไปเป็น Classic Page จะสามารถทำได้ แต่ไม่แนะนำนะคะ เพราะพวกโพสต์และโฆษณาที่ยิงในช่วงที่เพจเป็น New Pages Experience จะหายไปทั้งหมด (แต่เก็บเป็นไฟล์ไว้ให้หลังบ้านนะ)

เพื่อป้องกันปัญหาถูกเปลี่ยนหน้าตาเป็น New Pages Experience แบบกะทันหัน เราก็ชิงเปลี่ยนก่อนด้วยตัวเองตามวิธีการนี้เลยค่ะ โดยมีเงื่อนไขคือ “ต้องได้รับ Eligiable จากทาง Facebook” โดยจะมีหน้าต่าง (ตามภาพข้างบน) ขึ้นมาที่หน้าเพจ หรือถ้าใครไม่มีลองทำตามวิธีนี้ค่ะ

  1. ไปที่ Setting > New Page Experience
  2. เลือก Get Start > Next > Update and use Page now

สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังปรับเป็น New Pages Experience

ขนาดรูป Facebook 2023
20 ขนาดรูป Facebook 2023 ครบจบทุกขนาดที่คุณต้องการ พร้อมตัวอย่างวิธีใช้ 
  • Album Layout ที่เปลี่ยนไปจากรูปแบบเดิม โดยที่รูปแบบอัลบั้มแบบเก่าจะเด้งทั้งหมด (ในส่วนโพสต์เก่าๆ เราอาจจะต้องทำใจนะคะ นอกจากจะเข้าไปเปลี่ยนขนาดภายหลัง) สามารถอ่านอัปเดต 20 Facebook size 2023 ได้ ที่นี่ เลยค่ะ
  • สามารถเปลี่ยนหน้าจากเพจสาธารณะเป็นโปรไฟล์ส่วนตัวได้ง่ายขึ้น
  • Professional Dashboard และ Insight หลังบ้านที่ละเอียดมากขึ้น
  • ตั้งเวลาโพสต์ได้ผ่านทางเพจ หรือ Business suite (แต่ถ้าต้องการตั้งเวลาอัลบั้มที่มีแคปชั่นใต้ภาพ จะไม่สามารถตั้งล่วงหน้าได้ ต้องลงแบบ Real-time เท่านั้นนะคะ)

สำหรับใครที่ยังไม่ได้รับ Permission จากทาง Facebook ให้เปลี่ยนเป็น New Pages Experience แต่ไม่อยากรอ สามารถทำได้ 2 วิธี

  1. ส่งอีเมลหา Facebook โดยแนบ Page URL ไปทาง Help Center เพื่อขออนุมัติ
  2. ถ้ายังไม่ได้ ให้โพสต์ภาพทั้ง Single และ Album ตาม Layout ของ New Pages Experience เพื่อในวันที่สามารถเปลี่ยนได้ จะได้ไม่กระทบกับโพสต์เก่าๆ ของเราค่ะ

 

สรุป

แล้วนี้ก็คือทั้ง 7 ข่าว Facebook Update สำคัญๆ ที่ทุกคนควรรู้เพื่อเตรียมรับมือปี 2023 กันนะคะ ใครที่อยากให้เอาความรู้ด้านไหนมาเขียนอีก คอมเมนต์ที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะ และ ติดตามความรู้ดีๆ ด้าน Digital Marketing ได้ใน Content Shifu นะคะ บทความนี้ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ ขอให้ปี 2566 เป็นปีที่ดีของทุกคนค่ะ 😉