ปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลดิจิทัลผ่านการใช้เทคโนโลยี Search Engine กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันสำหรับผู้คนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนที่ต้องใช้เครื่องมือนี้เพื่อหาข้อมูลในการทำการบ้าน วัยทำงานที่จำเป็นต้องหาข้อมูลในการนำเสนอผลงาน ผู้บริโภคที่ต้องการาค้นหาข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ หรือแม้แต่ธุรกิจเองก็จำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลและพฤติกรรมใหม่ๆ ให้ทันต่อยุคสมัยเช่นกัน

ซึ่ง Search Engine ยอดฮิตที่ทุกคนต่างเคยใช้งานคงหนีไม่พ้น Google แหล่งรวมข้อมูลดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานอันดับหนึ่งของโลกในเกือบทุกประเทศ รวมถึงประเทศไทย แต่บางครั้งการใช้ Google Search นั้นใช้เวลานานกว่าจะเจอข้อมูลในรูปแบบที่เราต้องการ

แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถใช้ Google เพื่อค้นหาข้อมูลได้อย่างตรงประเด็น มาหาคำตอบ พร้อมเตรียมปากกามาจดเคล็ดลับที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนได้ในบทความนี้!

Google Search คืออะไร สำคัญอย่างไร

Google Search เป็น Search Engine หรือเครื่องมือค้นหาที่ถูกพัฒนาโดย Google ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ก่อตั้งโดยลาร์รี เพจและเซร์กี้ บริน ในปี 1998 ด้วยการใช้อัลกอริทึมที่ทันสมัยและคลังข้อมูลที่มหาศาล ระบบการค้นหาของ Google จึงมีความสามารถในการค้นหาและเรียงลำดับผลการค้นหาที่อยู่ในเว็บไซต์หลายล้านเพจทั่วโลก  SleepingGIANTMedia พบว่า Google มีความสำคัญต่อผู้ใช้งานทั่วไปรวมถึงภาคธุรกิจ ได้แก่

  • เป็นประตูสู่ข้อมูลจำนวนมหาศาล โดย Google ช่วยให้สามารถหาคำตอบสำหรับคำถามของเราได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถให้ผลลัพธ์นับล้านในเวลา 0.19 วินาที และเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร เอกสารการวิจัย ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือความรู้ทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันสมัยมากที่สุด
  • มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค เนื่องจากสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จาก Goolge ทำให้ผู้บริโภคสามราถเปรียบเทียบตัวเลือก อ่านรีวิว และรวบรวมข้อมูล ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้ออย่างชาญฉลาด
  • มีเครื่องมือที่ช่วยในการโฆษณาที่ทันสมัย ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ในไม่กี่นาทีบน Google และช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Google Keyword Planner หรือ Google Ads Manager 
  • ตัวช่วยทำ Market Research หลายธุรกิจนิยมใช้ Google เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและแนวโน้มของตลาด ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคำค้นหายอดนิยม เทรนด์ที่เกิดขึ้นใหม่ และความชอบของลูกค้า เพื่อปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และแคมเปญการตลาด

เทคนิคในการค้นหาด้วย Google Search

ในการค้นหาโดยใช้ Google สามารถทำได้หลากหลายวิธี ได้แก่ ค้นหาแบบข้อความ (Text Search), ค้นหาโดยใช้ตัวกรอง, ค้นหาแบบเสียง (Voice Search) และค้นหาแบบรูปภาพ (Image Search)

ค้นหาแบบข้อความ (Text Search)

การค้นหาแบบข้อความน่าจะเป็นวิธีการค้นหาที่หลายคนคุ้นเคยกันมากที่สุดเนื่องจากเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใครๆ ต่างก็ใช้กัน ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการค้นหาไปในช่อง แล้วกดเสิร์ช หลังจากนั้น Google จะแสดงผลลัพธ์จากการค้นหาขึ้นมา

ค้นหาโดยใช้ตัวกรอง

หลังจากค้นหาด้วยข้อความจะเห็นว่าผลลัพธ์ที่ได้มีมากถึง 263,000 ซึ่งเราสามารถใช้ตัวกรอง (filter) เพื่อกรองผลการค้นหาให้แคบลงและตรงกับสิ่งที่เราต้องการรู้มากที่สุด โดยสามารถใช้วิธีการใช้ตัวกรองได้หลากหลายวิธี ได้แก่

การค้นหาแบบเว็บไซต์ที่ระบุ (Site-Specific Search)

พิมพ์ site:ชื่อเว็บไซต์(เว้นวรรค) คำที่ต้องการค้นหา หรือ คำค้นหาตามด้วย “site:” แล้วตามด้วยชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการค้นหา เพื่อจำกัดผลลัพธ์ให้เฉพาะเว็บไซต์นั้น

การค้นหาด้วยประเภทข้อมูล (File Type Search)

พิมพ์คำค้นหาตามด้วย “filetype:” แล้วตามด้วยนามสกุลไฟล์ที่ต้องการค้นหา เช่น “filetype:pdf” เพื่อค้นหาเอกสาร PDF เท่านั้น

การใช้ตัวกรองเวลาในการค้นหา (Time Range Search)

คลิกที่ “Tools” จากนั้นคลิก “Any time” จากนั้นให้เลือกเวลาของผลลัพธ์ที่ต้องการ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ในช่วงเวลาที่ต้องการ และได้ข้อมูลที่แคบลงจากการค้นหาโดยใช้ข้อความทั่วไปในครั้งแรก

การใช้ตัวกรองสถานที่ในการค้นหา (Location Search)

ในกรณีที่สิ่งที่เราต้องการค้นหาได้ระบุจังหวัดไปแล้ว อย่าง “คาเฟ่นนทบุรี” เราสามารถใช้ตัวกรองสถานที่โดยเลือกที่ “choose area” เพื่อเจาะจงสถานที่ที่ต้องการ 

ค้นหาแบบเสียง (Voice Search)

การค้นหาแบบเสียงบน Google สามารถทำได้โดยใช้คำสั่งเสียง โดยเปิดแอปพลิเคชัน Google บนอุปกรณ์มือถือหรือเลือกค้นหาด้วยเสียงบนคอมพิวเตอร์ (คำสั่งเสียงบนคอมพิวเตอร์ใช้ได้เฉพาะบางเบราว์เซอร์เท่านั้น เช่น Google Chrome)

  1. กดที่ไอคอนของไมค์รูปตัวไมค์ที่อยู่ด้านขวาของช่องค้นหาหรือใช้คีย์ลัดเสียงที่มีอยู่บนอุปกรณ์ของคุณ เช่น “Ok Google” หรือ “Hey Siri” (สำหรับอุปกรณ์ iPhone).
  1. พูดคำสั่งเสียงที่ต้องการค้นหาอย่างชัดเจน เช่น “หาข้อมูลเกี่ยวกับร้านกาแฟ” หรือ “ค้นหาร้านอาหารในพื้นที่ใกล้ๆ ฉัน”.
  1. Google จะแสดงผลลัพธ์การค้นหาตามคำสั่งเสียงที่คุณให้ โดยอาจปรากฏเป็นข้อความหรือผลการค้นหาบนหน้าจอของอุปกรณ์ของคุณ.

การค้นหาแบบเสียงบน Google ช่วยให้ค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่ต้องพิมพ์คำค้นหาเอง เพียงแค่ใช้เสียงเท่านั้น สิ่งสำคัญคือควรให้คำสั่งเสียงชัดเจนและเข้าใจง่ายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การค้นหาที่แม่นยำที่สุด

ค้นหาแบบใช้รูปภาพ (Image Search)

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ของ Google Images บนเบราว์เซอร์ของคุณ
  1. คลิกที่ไอคอนของกล้องที่อยู่ในช่องค้นหาหรือที่ปุ่ม “ค้นหาด้วยรูปภาพ” ที่อยู่ที่เมนูค้นหา
  1. เลือกวิธีค้นหาด้วยรูปภาพได้ดังนี้:
  • อัปโหลดรูปภาพ: คลิกที่ปุ่ม “อัปโหลดรูปภาพ” เพื่อเลือกรูปภาพจากคอมพิวเตอร์ของคุณและอัปโหลดลงในเครื่องค้นหา Google Images
  • ค้นหาด้วย URL: คลิกที่ปุ่ม “ค้นหาด้วย URL” เพื่อวางลิงก์รูปภาพที่คุณต้องการค้นหาหรือลากและวางลิงก์ในช่องค้นหา
  • ค้นหาด้วยการวาดหรือค้นหาด้วยเครื่องหมายที่คล้ายกัน: คลิกที่ปุ่ม “ค้นหาด้วยการวาดหรือค้นหาด้วยเครื่องหมายที่คล้ายกัน” เพื่อวาดรูปร่างหรือสัญลักษณ์ที่คล้ายกันที่คุณต้องการค้นหา
  1. เมื่อเลือกวิธีค้นหาแล้ว รอให้ Google Images ประมวลผลรูปภาพและแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพที่ให้ โดยสามารถเลือกตัวกรองเพิ่มเติม เช่น ขนาดภาพ ประเภทของภาพ

เคล็ดลับการค้นหาด้วย Google Search

การค้นหาแบบวลี (Phrase Search)

 ใส่วลีที่ต้องการค้นหาในเครื่องหมายคำพูด (” “) เพื่อค้นหาแต่ละคำในวลีตามลำดับ

การยกเว้นคำ (Exclude Words)

 ใส่เครื่องหมายลบ (-) หน้าคำที่ต้องการยกเว้น เพื่อเอาออกจากผลลัพธ์การค้นหา

การค้นหาตั๋วเครื่องบิน

คลิกที่ Google Flight เพื่อค้นหาตั๋วเครื่องบิน โดยเลือกวันไป-กลับ และสถานที่ที่ต้องการได้

การค้นหาที่พัก

เทรนด์ในอนาคตของ Google Search

การมีบทบาทของ technologies และอิทธิพลต่อการ search

จากข้อมูลของ LinkedIn ปัจจุบัน Search Engine ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวัน และการตัดสินใจซื้อสินค้าของผู้บริโภค ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า วิธีในการใช้เพื่อค้นหาข้อมูลก็ได้พัฒนาตามไปด้วย โดยอนาคตจะมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยในการค้นหาข้อมูลมากขึ้น ได้แก่

  • Voice Search: การใช้ลำโพงอัจฉริยะ (smart speaker) และผู้ช่วยเสมือน (virtual assistants)  เช่น Siri และ Alexa ได้รับความนิยมมากขึ้น ในอนาคตการค้นหาด้วยเสียงจะมีความแม่นยำและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นและรับผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องได้มากขึ้น
  • Augmented reality (AR): ในอนาคต AR จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสินค้าได้แบบเรียลไทม์และแสดงภาพให้เห็นได้ว่าสินค้าเหล่านั้นจะมีหน้าตาอย่างไร จะช่วยมอบประสบการณ์การ shopping ให้น่าสนใจขึ้น
  • Artificial intelligence (AI): AI จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาล ระบุรูปแบบ และทำนายพฤติกรรมของผู้ใช้ ทำให้ได้ผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
  • Natural language processing (NLP): ในอนาคต NLP จะช่วยให้ Search Engine แสดงผลการค้นหาที่มีความเป็นภาษาของมนุษย์ได้มากขึ้น ทำให้การค้นหาเป็นธรรมชาติและเข้าถึงได้ดีขึ้น
  • Visual Search: ในอนาคตผู้ใช้อาจสามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยการค้นหาด้วยวิดิโอที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถค้นหาข้อมูลที่ซับซ้อนได้ดีมากขึ้น

การระมัดระวังเรื่อง Privacy ใน Search Technologies

ข้อมูลจาก Springerlink พบว่า อนาคตของเทคโนโลยีการค้นหา (Search Technologies) มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่การยกระดับการปกป้องความเป็นส่วนตัว (Privacy Protection) จัดการกับ Bias ของอัลกอริทึม (Algorithmic Bias) และเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) ดังนี้

  • Privacy Protection: ปรับปรุงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้โดยใช้มาตรการปกป้องข้อมูลที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลดการรวบรวมและการเก็บรักษาข้อมูลผู้ใช้ นอกจากนี้ อาจมีการใช้ Search Engine ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งให้ความสำคัญกับการไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ใช้และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
  • Algorithmic Bias: มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงความโปร่งใสของอัลกอริทึม โดยการกระจายแหล่งข้อมูล นำกลไกการตรวจจับและแก้ไข bias ไปใช้เพื่อจัดการความลำเอียงของอัลกอริทึม
  • Data Security: ลงทุนในโปรโตคอลการเข้ารหัสขั้นสูง การจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัย และการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำเพื่อปกป้องข้อมูลผู้ใช้จากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต การละเมิด และการใช้ข้อมูลในทางที่ผิด นอกจากนี้ อาจมีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อกระจายและรักษาความปลอดภัยข้อมูลผู้ใช้

สรุป

ปัจจุบันวิธีการค้นหาข้อมูลบน Google นั้นมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาผ่านข้อความ ค้นหาโดยใช้ตัวกรอง ค้นหาโดยใช้เสียง ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการค้นหาแบบเดิมๆ อีกทั้งยังมีเทคนิคมากมายที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาตั๋วเครื่องบิน สถานที่ท่องเที่ยว ที่พักต่างๆ เพียงแค่ใช้ Google เว็บไซต์เดียว 

ตาคุณแล้ว

อ่านบทความนี้จบแล้วอย่าลืมลองนำเทคนิคการค้นหาบน Google ไปลองใช้กัน ใครมีเทคนิคดีๆ ที่ช่วยในการค้นหา สามารถแชร์กันได้ใต้คอมเมนต์เลย!