7 กลยุทธ์ปั้นดินสู่ดาว TikTok ด้วยการแฮ็กอัลกอริทึ่ม!

ทำยังไงให้คนดู TikTok ของเราเยอะๆ กันนะ? 

ไม่มีใครไม่รู้จัก TikTok เจ้าแม่วงการวิดีโอสั้นที่กำลังครองตลาดโซเชียลอยู่ในตอนนี้ ด้วยจุดเด่นที่ว่า ‘ใครก็เป็นดาวได้’ ของ TikTok ทำให้หลายคนกดถูกใจเจ้าโซเชียลมีเดียตัวนี้ และเริ่มปั้นช่องของตัวเองเพื่อหวังจะเป็นดาวอย่างที่ใครก็เป็นกัน 

แต่มัวแต่ปั้นช่องอย่างไม่มีหลักการ อาจทำให้เราไปไม่ถึงฝัน วันนี้ขิงจะพาทุกคนมาพบกลยุทธ์เด็ดในการปั้นดินสู่ดาว ที่ใช้อัลกอริทึ่มของ TikTok ให้เป็นประโยชน์กันค่ะ! 

รู้จัก TikTok Algorithm กันก่อน

TikTok ขึ้นชื่อเรื่องคอนเทนต์ที่หลากหลาย และ อัลกอริทึ่มที่แนะนำคอนเทนต์โดนใจให้กับผู้ใช้ได้อย่างตรงจุดในแท็ก ‘For You’ เหตุผลที่เป็นอย่างนั้น เพราะ TikTok มีอัลกอริทึ่มที่ซับซ้อนและละเอียดสำหรับคำนวณความชอบของผู้ใช้งานได้อย่างลึกซึ้ง จะมีอัลกอริทึ่มอะไรบ้าง เราตามมาดูกัน

1. มีส่วนร่วมกับคลิป (Engagement)

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ค่ากับ Engagement ของผู้ใช้มาก (เพราะเขาอยากเป็นคอมมูนิตี้สำหรับสื่อสารผ่านวิดีโอนี่เนอะ) เพราะฉะนั้น ยิ่งวิดีโอสั้นตัวนั้นได้รับความสนใจมากเท่าไร TikTok ก็จะแนะนำวิดีโอตัวต่อไปของเราให้คนที่สนใจมากขึ้น

ตัวชี้วัด: 

• Likes
• Comments
• Shares
• ดูวิดีโอจบ (Completion) และ ดูซ้ำ (Re-watch)

ตรงนี้อย่าลืมนะคะ! โดยเฉพาะการดูวิดีโอให้จบ และ ดูซ้ำ เพราะมันสำคัญมากกับการวางกลยุทธ์ของเราในหัวข้อต่อไป

2. เนื้อหาของวิดีโอ (Video Information)

เราคงรู้กันดีว่า TikTok มีจุดเด่นอยู่ที่ ‘การแนะนำคลิปที่ไม่ได้ติดตาม’ ในแท็ป For You ซึ่งตรงนี้แหละ คือ สนามโอกาสของผู้เล่นมือใหม่ที่อยากปั้นช่องของตัวเอง โดย TikTok จะจำแนกวิดีโอผ่านคีย์เวิร์ดในวิดีโอนั้นๆ

ตัวชี้วัด:

• Caption Keywords
• Hashtags
• Content Detail : เนื้อหาในแคปชั่น

3. ที่อยู่และภาษา (Location and Language)

อัลกอริทึ่มนั่น ถูกสร้างมาเพื่อเรียนรู้ผู้ใช้งานทุกคนในแอป เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจ ดังนั้น การตั้งค่าที่อยู่และภาษาที่เราใช้ จะช่วยให้อัลกอริทึ่มแสดงผลวิดีโอของเราไปยังกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่หรือใช้ภาษาเดียวกันเป็นหลัก

4. ตามเทรนด์เพลงประกอบ (Trending Audio & Effect)

เพลง TikTok เป็นพายุลูกใหม่ที่กำลังโหมวงการเพลงของไทยอย่างมาก เพลงไหนที่สร้างกระแสไวรัลได้ก็จะกลายเป็นเพลงนิยมติดหูกันอีกทั้งเดือน

TikTok จึงมีอัลกอริทึ่มที่จำแนก และ แนะนำคอนเทนต์ที่ใช้เพลงยอดนิยมเป็นเพลงประกอบ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่ชอบเพลงเดียวกัน นับเป็นอัลกอริทึ่มเพื่อมือใหม่อยากเป็นดาวต็อกๆ ของจริง! 

5.  ไม่สนใจและเปิดข้าม (Not Interested and Skip)

บางครั้ง TikTok อาจจะแนะนำวิดีโอที่ไม่ถูกใจเรามาซ้ำๆ แม้เราจะข้ามซ้ำๆ แต่บางครั้งระบบก็ยังไม่เรียนรู้ ทาง TikTok จึงมีปุ่ม ‘Not Interested’ ให้กดเพื่อที่อัลกอริทึ่มจะเลิกแสดงผลคอนเทนต์นั้นๆ ในหน้าฟีดของผู้ใช้ไปอีกนาน

และปุ่มนี้เอง ทำให้หน้า ‘For You’ ของแต่ละคนมีความเฉพาะตัว และ Personalize มากๆ 

ตัวชี้วัดที่ไม่มีผลกับ TikTok Algorithm

ไม่เหมือนกับโซเชียลมีเดียคู่แข่งอย่าง Facebook, Instagram ที่ยอดไลค์ ยอดฟอล เป็นปัจจัยสำคัญในการขึ้นเป็นดาว เพราะ TikTok เน้นจุดยืนของคอมมูนิตี้พูดคุยและกระแสไวรัล เพราะฉะนั้น

• Followers หรือ ยอดฟอลจึงไม่มีผลกับการแสดงเนื้อหาในหน้าฟี้ด

แต่ในทางกลับกัน 

• วิดีโอที่เคยมีกระแสดีจนขึ้นแท่นไวรัล อัลกอริทึ่มจะไม่ได้แสดงเนื้อหาของเราซ้ำๆ เช่นกัน 

ถือได้ว่าสนามคอนเทนต์ของ TikTok นั้นเปิดกว้างต่อมือใหม่ และ ครีเอเตอร์อย่างมาก และเป็นสนามที่แข่งกันที่คุณภาพของคอนเทนต์ว่าใครจะสามารถจับกระแส สร้างไวรัลและเทรนด์ได้มากกว่ากันนั่นเอง 

เอาล่ะ รู้จักน้องอัลกอริทึ่มกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ขิงจะพาทุกคนมาตะลุยกลยุทธ์เด็ดทั้ง 7 ในการแฮ็กอัลกอริทึ่มเพื่อปั้น TikTok กัน (ว่าที่) ดาว TikTok ทั้งหลาย ตามมาเลยค่ะ!

7 กลยุทธ์แฮ็กอัลกอริทึ่ม ปั้นดาว TikTok

Hack#1 จับใจให้ได้ใน 3 วิ และ ความยาวไม่เกิน 30 วิ

ปัจจุบัน TikTok ขยายความยาววิดีโอจากแต่ก่อน 15-30 วินาที เป็น 10 นาทีเพื่อรองรับครีเอเตอร์ที่อยากเล่าเรื่องยาว แต่อย่างที่เราบอกไปว่าอัลกอริทึ่มของ TikTok จะให้คะแนนวิดีโอที่ “ดูจบ” เป็นหลัก

เราจึงควรทำให้คนดูคลิปของเราจนจบให้ได้ ทริคสำคัญ คือ 

• ควรฮุคใจคนดูให้ได้ใน 3 วิแรกของวิดีโอ ถึงคลิปจะยาวแต่คนก็อยากดูต่อจนจบ
• หรือจำกัดความยาวให้ไม่เกิน 15-30 วินาที เป็นความยาวที่ต่อให้คลิปไม่น่าสนใจมาก ก็ใช้เวลาดูไม่นาน

นอกไปจากความยาว คอนเทนต์ก็สำคัญนะคะ เพราะถ้าคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะสร้างความรู้สึกแบบไหนก็ทำให้คนดูอยากดูจนจบเหมือนกัน

Hack#2 ใส่ Hashtag ที่เกี่ยวข้องและขึ้นเทรนด์

ย้อนไปดูอัลกอริทึ่มข้อที่ 2 กันสักหน่อย การใช้คีย์เวิร์ดใน Caption และ Hashtag มีส่วนช่วยในการคัดแยกและนำเสนอวิดีโอให้กับผู้ใช้หน้า ‘For You’ 

วิธีเลือกใช้ Hashtag

1. เลือก Hashtag ที่กำลังติดเทรนด์ในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรา เช่น เราทำช่องสอนแต่งหน้า ก็ลองค้นหาคำคีย์เวิร์ด ‘Make up Tutorial’ แล้วไปที่ Hashtag จะมีแท็กที่เราน่าเอามาใช้อย่าง #makeuptutorials #makeuptutorial 
2. ใส่ Brand Hashtag ด้วย นอกจากตามกระแส ก็ควรมี Hashtag สำหรับแบรนด์ของเรา ให้คนสามารถกดค้นหาต่อไป เช่น #NamkhingPaSorn 
3. ติดแท็ก #fyp #foryoupage #foryou ที่จะช่วยแนะนำวิดีโอของเราที่หน้า For You

Hack #3 ใช้เพลงตามเทรนด์

อาจจะกล่าวในพาร์ทอัลกอริทึ่มไปแล้ว แต่จะย้ำกันอีกสักรอบ สำหรับครีเอเตอร์มือใหม่ที่อยากจะเป็นดาว นี่คือสนามโอกาสที่ใหญ่มากๆ เพราะ TikTok จะมีการแสดงวิดีโอให้กับคนที่ชอบเพลงยอดนิยมเหมือนๆ กัน ทำให้คนเห็นวิดีโอของเรามากขึ้น

อีกหนึ่ง Benefit จากกลยุทธ์นี้ คือ เพลงยอดนิยมนั้น ใช้ร่วมกับคอนเทนต์ได้หลากหลายแบบ คอนเทนต์แนวความรู้ก็นำมาใช้ได้ บอกแล้วว่าเป็นสนามโอกาสจริงๆ !

Hack #4 อย่าลืมโฟกัสที่ความ Niche ของเรา 

จากทั้งสามกลยุทธ์ที่พูดมา เราจะเน้นตามกระแสเทรนด์ เพื่อเพิ่มพื้นที่การมองเห็นและโอกาส แต่อย่าลืมนะว่าช่องและวิดีโอของเราก็ต้องมีจุดยืนด้วย 

เช่น ช่องของ Content Shifu เป็นช่องสอนทำการตลาดดิจิทัล และ ทริค Career Tips เฉพาะคนในวงการดิจิทัล คอนเทนต์ของเราก็จะเน้นสอนและแนะนำเครื่องมือ MarTech เป็นหลัก 

นี่แหละคือ จุดยืน และ ความแตกต่างของ Content Shifu กับช่องอื่นๆ และเมื่อเราเลือกความ Niche ของเราแล้ว เราก็จะเลือกใช้ Keyword และ Hashtag ใน Caption ได้ตรงจุดมากขึ้น และยังไม่ถูกกระแสความไวรัลกลืนจนขาดความเป็นตัวเอง

Hack #5 คุยกับผู้ติดตาม ให้เป็นคอมมูนิตี้สื่อสาร

TikTok อยากเป็นโซเชียลมีเดียที่คนสื่อสารและพูดคุยกัน เพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น อัลกอริทึ่มของ TikTok จึงให้ความสำคัญกับวิดีโอที่มี Engagement ระหว่างผู้ชมและครีเอเตอร์

เพื่อกระตุ้นให้คนรู้สึกว่าช่องของเราเฟรนด์ลี่ น่าคุยด้วย ครีเอเตอร์มือใหม่ควรพูดคุยเล่นกับผู้ติดตามที่มาคอมเมนต์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราดูเป็นช่องที่เข้าถึงง่าย นอกจากจะแฮ็กอัลกอริทึ่ม ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของช่องเราด้วย

Hack #6 ปรับแต่งโปรไฟล์ TikTok

เอาล่ะ มาโฟกัสที่ช่องของเรากันมากขึ้น หลายคนมักโฟกัสที่ตัววิดีโอ แต่หน้า Bio ของครีเอเตอร์ก็สำคัญมากเหมือนกันนะ เพราะ Hashtag หรือ คำที่เราเขียนช่วยในการเลือกแสดงผลของ TikTok เช่นกัน

เทคนิคปรับหน้าโปรไฟล์

• แปะ CTA (Call to Action) ลิงก์ช่องทางอื่นๆ ของเรา เพื่อให้คนรู้จักเรามากขึ้น
• ติด Hashtag ที่เกี่ยวกับช่องของเรา หรือ Hashtag เฉพาะของช่องของเรา เพื่อให้คนที่ตามเข้ามา เลือกดูคอนเทนต์ตาม Hashtag นั้นๆ
• ภาพโปรไฟล์คุณภาพ สื่อถึงตัวตนและช่องของเรา (ถ้าเป็นช่องสอนทำการตลาด แต่เป็นภาพหมาน้อย ก็จะงงๆ นิดนึง)
• คำอธิบายใน Bio ต้องชัดเจน ว่าเป็นช่องเกี่ยวกับอะไร หรือ เราเป็นใคร ลองสร้างสรรค์คำอธิบายสวยๆ ไม่เกิน 80 ตัวอักษร

Hack #7 เลือกเวลาโพสต์ที่ดีที่สุด

ยิ่งเราโพสต์วิดีโอในช่วงเวลาที่ผู้ติดตาม หรือ กลุ่มเป้าหมายของเราออนไลน์มากที่สุด โอกาสที่คนจะเห็นวิดีโอของเราก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน แต่เราจะหาช่วงเวลาโพสต์ที่เหมาะสมกับเราได้ยังไง ให้ทุกคนไปที่ Analytics นะคะ ขิงมี 3 เมทริกซ์จาก TikTok ที่จะช่วยหาคำตอบให้กับเรากันค่ะ

1. Territories

เข้าไปใน Analytics จะมีเมทริกซ์ Territories ที่แสดงพื้นที่ของ Followers ว่าส่วนใหญ่พวกเขาอยู่ไหนกัน แต่ทาง TikTok จะแบ่งเป็นประเทศ ไม่ได้แบ่งเป็นเมืองเหมือนของ Instagram ค่ะ

2. Follower Activity

ตัวนี้สำคัญเลย เพราะเราสามารถดูพฤติกรรมของผู้ติดตามได้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่ออนไลน์กันกี่โมง วันไหนมากที่สุด เมทริกซ์นี้แหละ คือตัวชี้วัดเวลาโพสต์ที่ดีที่สุดของเรา

แต่เวลา Time Zone ของ TikTok เป็น UTC (Universal  Time Co-ordinated) หรือ เวลามาตรฐานของโลก ดังนั้น ถ้าจะปรับให้เป็นเวลาของไทยต้องคำนวณเป็น ICT (Indochina Time) 

3. Content Performance

อีกวิธีคือ เราสามารถดูจากแต่ละวิดีโอที่ได้รับความสนใจว่ามี Performance เป็นอย่างไรบ้าง ส่วนใหญ่คนสนใจและ Engagement ช่วงเวลาไหน จากพื้นที่อะไรมากที่สุด จะช่วยประกอบการวิเคราะห์ร่วมกับข้อที่ 2 นะคะ

และนี่คือทั้ง 3 เมทริกซ์ที่จะช่วยให้เราตามหา The Best Post Time หรือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์คลิปของเรากันค่ะ

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างคะกับทั้ง 7 กลยุทธ์แฮ็กอัลกอริทึ่มของ TikTok ที่จะช่วยให้ครีเอเตอร์มือใหม่ที่อยากปั้นช่องสู่ดาว ทำตามกันได้ไม่ยาก แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้ยึดเอาไว้เลยคือ ‘การหาจุดยืนและ Key message ที่อยากสื่อสารของช่องเราให้เจอ' และ ใช้กลยุทธ์เหล่านี้เป็นเพียงใบเบิกทางให้กับช่องนะคะ เพราะคอนเทนต์คุณภาพที่มีความหมายย่อมให้คุณค่ากับผู้ชมของเราเสมอ 

แล้วเรามาเจอกันในบทความหน้า สำหรับใครที่อยากได้กลยุทธ์ เคล็ดลับ หรืออยากให้ Content Shifu นำเรื่องอะไรมาเล่าให้ฟังกันอีก คอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ 🤗