เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลาเราเสิร์ชหาของที่อยากได้แค่ครั้งเดียว กลับเห็นโฆษณาของสิ่งนั้นไม่หยุด?

บางครั้งก็เห็นโฆษณาขึ้นมาบ่อยจนทนไม่ไหว ต้องกดสั่งซื้อ 

สิ่งเหล่านี้ที่เราเห็นกันในชีวิตประจำวันเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ “Contextual Marketing” หรือการทำการตลาดโดยใช้บริบทรรอบตัวของลูกค้า เช่น สิ่งที่ลูกค้าสนใจ สิ่งที่ลูกค้ามองหา เพื่อให้สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กับความสนใจของลูกค้า

แล้ว Contextual Marketing สำคัญกับธุรกิจอย่างไร? ทำไมบริบทรอบตัวของเราถึงกลายเป็นเครื่องมือทำการตลาดของธุรกิจ? ตามมาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้!

Contextual Marketing คืออะไร

Contextual Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้บริบทของลูกค้ามานำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความสนใจหรือพฤติกรรมของลูกค้าในขณะนั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ของลูกค้า เช่น การแสดงโฆษณาสินค้าเกี่ยวกับกีฬาบนเว็บไซต์ข่าวกีฬา การเสนอส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าประเภทเดียวกันมาก่อน หรือการยิงโฆษณาเสื้อผ้าแฟชั่นไปที่ลูกค้าที่เสิร์ชหาเสื้อผ้าแฟชั่น

บริบทแบบไหนที่สามารถนำมาทำ Contextual Marketing ได้

อย่างที่บอกว่า Contextual Marketing เป็นการนำบริบทของลูกค้ามาใช้เพื่อทำการตลาด โดยบริบทที่สามารถนำมาใช้ได้มีหลากหลายอย่าง ได้แก่

people analyze website activity

  • สถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นในโลก หรือในชีวิตของลูกค้า 
  • สิ่งที่ลูกค้าหลงใหล หรือให้ความสนใจเป็นพิเศษ
  • สถานที่ที่ลูกค้าอาศัยอยู่
  • ประวัติการค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ บนเว็บไซต์
  • ระยะเวลาในการดูสินค้าและบริการต่างๆ
  • ประวัติข้อมูลการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ
  • การมีส่วนร่วมต่างๆ เช่น ถูกใจ แชร์ หรือแสดงความคิดเห็นบนเพจ

วิธีการทำงานของ Contextual Marketing จะนำบริบทเหล่านี้มาใช้เพื่อทำการตลาด เช่น เมื่อเราเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า สาขาใกล้บ้านแล้วเจอ SMS เด้งขึ้นมาว่าห้างสรรพสินค้าดังกล่าวมีโปรโมชันพิเศษอยู่ การได้รับโฆษณาสินค้าต่างๆ ตามเทศกาลที่กำลังจะมาถึง อย่างวันวาเลนไทน์ วันตรุษจีน วันแม่

ทำไมธุรกิจควรใช้ Contextual Marketing

สร้างคอนเทนต์ได้ตรงความสนใจ

Contextual Marketing ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการและความสนใจของลูกค้าเป้าหมายได้ดีขึ้น เมื่อเข้าใจลูกค้าแล้วก็ทำให้พวกเขาสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตรงประเด็นและเกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะดึงดูดความสนใจและการมีส่วนร่วมมากกว่าคอนเทนต์ทั่วไปเพราะตรงกับความสนใจของลูกค้า ซึ่งช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ กระตุ้นการมีส่วนร่วมและสร้างฐานลูกค้า

ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น

finance concept business collecting money

การทำการตลาดตามบริบทของลูกค้าช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดเป้าหมายโฆษณาและข้อความการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงได้ สิ่งนี้จึงช่วยลดการสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการค่าใช้จ่ายในการโฆษณา เนื่องจากธุรกิจไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปกับการโฆษณาไปยังกลุ่มคนที่ไม่สนใจสินค้าหรือบริการ

เพิ่มยอดขายจากสิ่งรอบตัว

Contextual Marketing ช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในการขายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าอาจใช้ Contextual Marketing เพื่อแสดงโฆษณาสำหรับเสื้อกันหนาวเมื่อสภาพอากาศหนาวเย็น หรือร้านอาหารอาจใช้ Contextual Marketing เพื่อแสดงโฆษณาสำหรับบริการส่งอาหารเมื่อผู้ใช้กำลังอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

สร้างประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น

friends shopping shoes online

Contextual Marketing ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและเกี่ยวข้องมากขึ้นแก่ลูกค้า สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น การรักษาฐานลูกค้า และการส่งเสริมการบอกต่อหรือที่เราเรียกกันว่า Word of Mouth นั่นเอง

ความท้าทายในการใช้ Contextual Marketing

แม้ว่าการใช้กลยุทธ์ Contextual Marketing จะมีประโยชน์ต่อธุรกิจมากมายแต่ก็ยังมีสิ่งที่ค่อนข้างจะท้าทายแก่ธุรกิจเช่นเดียวกัน ได้แก่

Privacy Concerns

handshake-after-signing-medical-data-form

แน่นอนว่าเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องที่หลายคนค่อนข้างซีเรียส โดยเฉพาะในการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ ถ้าสังเกตเรามักจะเห็น Pop Up ที่ให้เรายอมรับ cookies ต่างๆ ซึ่ง Contextual Marketing มักใช้ cookies เหล่านี้ในการติดตามพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของลูกค้า โดยลูกค้าบางกลุ่มอาจรู้สึกไม่สบายใจและมองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว ปัจจุบันมีกฎหมายที่ เช่น ข้อบังคับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป (General Data Protection Regulation: GDPR) ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนที่จะเก็บข้อมูลด้วย cookies ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็อาจจะทำให้ไม่สามารถเก็บข้อมูลจากลูกค้ากลุ่มนั้นได้ทำให้ส่งผลต่อ Contextual Marketing

Lack of Standardisation

ด้วยความที่ Contextual Marketing เพิ่งจะมาบูมในไม่กี่ปีที่ผ่านมาจึงเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างใหม่ ดังนั้นจึงยังไม่มีรูปแบบตายตัวในการใช้งานเนื่องจากบริบทที่สามารถนำมาใช้งานได้มีหลากหลายประเภททำให้ธุรกิจประสบปัญหาในการตัดสินใจว่าจะใช้การตลาดเชิงบริบทอย่างไรให้เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง  นอกจากนี้การใช้งานที่ไม่ถูกต้องยังเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายอีกด้วย

Measuring Success

measure of success representing a review or asses

ในการวัดผลความสำเร็จของกลยุทธ์ Contextual Marketing หลายคนอาจจะวัดผลโดยใช้แค่จำนวนการคลิกและการแสดงผล แต่จริงๆ แล้วควรให้ความสำคัญกับตัวชี้วัด เช่น ระดับการมีส่วนร่วม เวลาที่ใช้ในการเข้าชม และยอดขายจริง เพื่อวัดประสิทธิภาพที่แท้จริงของ Contextual Marketing แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายในการเก็บข้อมูลทั้งหมดอย่างแม่นยำ บางธุรกิจจึงจำเป็นต้องหาตัวช่วยสำหรับนักการตลาดเพื่อประหยัดเวลาและทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

5 เทคนิคในการทำ Contextual Marketing

1. สร้างสรรค์แคมเปญตามแต่ละช่วงของการตัดสินใจซื้อ

Customer Journey

Cr. Prasad Keni

ในทุกๆ การตัดสินใจซื้อแน่นอนว่าธุรกิจจำเป็นต้องศึกษา Customer Journey ของลูกค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะทุกๆ Touchpoint นั้นมีความสำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ การกดเพิ่มสินค้าลงตะกร้า หรือการเลือกวิธีการชำระเงิน ดังนั้นการมีแค่โฆษณาแนะนำสินค้าอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ธุรกิจจะต้องมองจากมุมมองของลูกค้าตลอด Customer Journey อาจใช้โมเดล AIDA (Awareness, Interest, Desire, Action) เพื่อเข้าถึงผู้ใช้ที่สนใจผ่านทุกจุด Touchpoints 

2. ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ต่างๆ 

ร่วมมือกับแพลตฟอร์มที่เสนอต่างๆ อย่าง Google, Instagram, Facebook หรือ YouTube เพื่อนำเสนอโฆษณาบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่ตรงกับความสนใจและบริบทของกลุ่มเป้าหมาย เช่น ถ้าธุรกิจของคุณขายเสื้อผ้าออกกำลังกาย คุณอาจจะร่วมมือกับ YouTube ช่องที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเพื่อที่จะเสนอขายสินค้าให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในด้านกีฬาและการออกกำลังกายอยู่แล้ว

3. ใช้กลยุทธ์ Content Marketing

ลองสร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบของบทความ, คำถามที่พบบ่อย (FAQ), วิดีโอสอนการใช้งาน (Tutorial Video), และ Testimonials จากลูกค้า, เทรนด์ในอุตสาหกรรม, หรือปัญหาที่พบบ่อยของกลุ่มเป้าหมายเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญให้กับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ยังสามารถสื่อสารกับลูกค้าด้วยวิธีที่น่าสนใจมากขึ้น เช่น สร้างอินโฟกราฟิก หรือวิดีโอที่น่าสนใจเพื่อแบ่งปันข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย

4. ปรับใช้ Email Marketing

cropped view of man holding digital tablet

การทำการตลาดผ่านอีเมลอาจจะเป็นวิธีที่มีมานานแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีความสำคัญกับธุรกิจในยุคนี้ เนื่องจากธุรกิจสามารถปรับแต่งข้อความให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนได้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและผลักดันให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ เช่น อีเมลต้อนรับ, อีเมลสำหรับคนที่ทิ้งสินค้าไว้ในตะกร้า และอีเมลสำหรับลูกค้าเก่าที่ห่างหายจากการซื้อสินค้าไปนานเพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี

5.ทดลองและวัดผล

เช่นเดียวกับกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ การทดสอบและวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องมีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นการวัดผลกระทบต่อตัวชี้วัดสำคัญ เช่น การมีส่วนร่วม อัตรา conversion และผลตอบแทนการลงทุน (ROI) จึงเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการวัดผลของกลยุทธ์นี้ และควรพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

5. หาจุดสมดุลที่เหมาะสม

Contextual Marketing เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการทำการตลาดแต่ถ้ามากเกินไปก็อาจส่งผลเสียได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ บางครั้งเราอาจเผลอไปใช้โฆษณาในช่องทางที่รบกวนลูกค้าทำให้ลูกค้าเกิดความรำคาญ หรือการส่งข้อความการแจ้งเตือนที่บ่อยมากเกินไปสุดท้ายอาจทำให้ลูกค้าต้องถอนการติดตั้งแอป ดังนั้นธุรกิจจึงต้องหาจุดสมดุลที่เหมาะสมสำหรับกลยุทธ์นี้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

ตัวอย่าง Contextual Marketing

Google’s Product Ads Carousel

Google’s Product Ads Carousel

Cr. Hubspot

เคยค้นหาสินค้าบน Google แล้วเห็นแถบโฆษณาแทนที่จะเป็นผลการค้นหาแบบธรรมดาไหม? สินค้าที่เราเห็นเหล่านั้นมักจะเป็นโฆษณาสินค้าที่เราค้นหา และเป็นตัวอย่างที่ดีของกลยุทธ์นี้ Google ใช้พฤติกรรมและคำค้นหาของเราในการแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องตามบริบทที่เราสนใจในเวลาที่ใช่พอดี ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการต่างๆ ให้กับลูกค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย

LinkedIn Company Page Sidebar Ad

LinkedIn Company Page Sidebar Ad

Cr. Hubspot

เคยสังเกตมั้ยว่าเวลาที่เข้าไปดูหน้าบริษัทบน LinkedIn จะมีโฆษณาแถบข้างคอยแนะนำให้ลองหางานที่ตรงกับทักษะของเราในบริษัทนั้น LinkedIn ทำแบบนี้เพราะเขารู้ว่าเราอาจจะเปิดรับโอกาสใหม่ๆ และถ้าเรากำลังดูหน้าของบริษัทก็หมายความว่าเราอาจสนใจที่จะทำงานในบริษัทนั้น LinkedIn จึงใช้บริบทนี้ในการนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้เราอาจคลิกสมัครงานในบริษัทนั้น

M&M 

M&M

Cr. Snack and Bakery

M&M ช็อกโกแลตยอดนิยมในวัยเด็กของใครหลายๆ คนเผชิญกับปัญหาที่กลุ่ม Millennials มีความสนใจในลูกอมช็อกโกแลตลดลง M&M จึงดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย Millennials โดยเปิดโอกาสให้ Millennials ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือก M&M รสชาติใหม่ ซึ่งช่วยให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น ผลลัพธ์คือแคมเปญนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากโดยมี Millennials เข้าร่วมโหวตเลือก M&M รสชาติใหม่เป็นจำนวนมาก และยังสร้างกระแสบนโซเชียลมีเดียช่วยให้แบรนด์ M&M เป็นที่รู้จักมากขึ้น

สรุป

Contextual Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำบริบทต่างๆ รอบตัวของลูกค้ามาใช้ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปกับการโฆษณาราคาแพงที่เข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่สามารถใช้วิธีออร์แกนิกอย่าง Content Marketing หรือ Email Marketing เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดตามพฤติกรรมแต่ละคน

ตาคุณแล้ว

อ่านบทความจบแล้วหลายคนคงเห็นภาพของ Contextual Marketing ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เคยตกเป็นทาสของกลยุทธ์นี้ลองมาแชร์กันว่าโดนตกจากช่องทางไหน!