เทคโนโลยีทางการตลาด หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า Marketing Technology (MarTech) คืออีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วมากที่สุดอีกวงการนึง
บทความนี้เป็นบทความต่อเนื่องจากบทความที่แล้ว ที่เคยเขียนอธิบายว่า Marketing Technology คืออะไรและมีกี่ประเภท สำหรับบทความนี้จะขอยกตัวอย่างฟีเจอร์และความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาให้เห็นภาพกันมากขึ้น (** แน่นอนว่าสิ่งสำคัญไม่แพ้เครื่องมือและฟีเจอร์ คือ “วิธีคิด” ซึ่งเราจะนำเสนอในคอนเทนต์ตอนต่อไป)
Disclosure (คุยกันก่อน)
- MarTech นั้นกว้างใหญ่มากและมีสิ่งที่พูดถึงได้มากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลิสต์ในบทความนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเนื้อหาในงาน Adobe Summit เป็นหลัก เนื่องจาก ณ ขณะที่เขียนบทความนี้ ผู้เขียนได้เดินทางมาดูงานที่นี่ (เครดิตรูปภาพจาก Adobe’s Media Kit)
- ฟีเจอร์ที่คัดมา 6 อย่างนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น (โดยเน้นฟีเจอร์ที่อธิบายให้เห็นภาพได้ง่าย) ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่น่าติดตาม ถ้าคุณมีความคิดเห็นหรืออยากพูดคุยเรื่องไหนกับเราเป็นพิเศษ เรายินดีหาคำตอบให้เพิ่มเติมค่ะ
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
Update ตัวอย่างเทคโนโลยีทางการตลาดและเครื่องมือที่น่าสนใจ
1. Goal Tracking & Action Suggestion
ทำการตลาดที่ดี ต้องมีการ Track เป้าหมาย
ซอฟต์แวร์ที่ดีนั้นจะช่วย Track เป้าหมายให้คุณ
แต่ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่ก้าวไกลกว่านั้น นอกจากจะเก็บตัวเลขให้คุณแล้ว ยัง “เสนอทางออก” เมื่อคุณเจอปัญหาด้วย

จากภาพด้านซ้าย สมมติว่าคุณเป็นนักการตลาดที่ต้องโปรโมตให้มีคนสมัครเข้ามารับชมสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ของคุณ
…ซอฟแวร์ได้มีการแจ้งเตือนให้คุณว่า “คุณเหลือเวลาอีก 3 วัน ซึ่งคุณน่าจะทำยอดได้ไม่ถึงเป้าหมาย” จากภาพด้านขวา เมื่อคุณคลิกต่อ โปรแกรมได้เสนอทางออกให้กับคุณ (ในที่นี้คือการเสนอให้คุณลง Ads เพิ่มเติมผ่านโปรแกรม Ads Cloud ส่งหารายชื่อ 1,575 รายชื่อที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน)
และเมื่อคุณคลิกไปต่อ โปรแกรมตัวนี้จะเสนอลงมือ Take Action นี้ให้คุณ (ทั้งนี้เนื่องจากเคยทำผ่านโปรแกรมมาก่อนแล้วจึงทราบว่าต้องทำยังไง)
นี่คือตัวอย่างของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วย ‘ติดตาม’ ‘เสนอทางออก’ และ ‘ลงมือ’ ทำให้กับคุณ
หมายเหตุ: ตัวอย่างนี้เป็น Demo จาก Marketo แพลตฟอร์มด้าน B2B Marketing Automation ซึ่ง Adobe ได้ซื้อกิจการไป
2. ขายของ Online และ In-Store คล่องกว่าเดิมด้วย AR
เราได้ยินเทรนด์ของ AR (Augmented Reality) กันมาหลายปีแล้ว แต่ก็ยังเห็น Use Cases ที่น่าสนใจกับธุรกิจไม่เยอะมากน
…ภาพแรกเป็น Use Case เป็นภาพที่พนักงานสาธิตการเ
…อีกตัวอย่างนี้น่าสนใจ
สมมติว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะซื้อออนไลน์และอยากไปดูที่ร้านมากกว่า คุณเซฟสินค้าที่คุณสนใจไว้ในบัญชีของคุณ
เมื่อไปถึงที่ร้าน คุณสามารถหยิบกล้องมือถือของคุณ เปิดแอปของร้านค้าขึ้นมา แล้วชี้กล้องไปที่ Shelf สินค้า หน้าจอจะบอกให้คุณทราบว่าของใน shelf นั้นมีของไหนบ้างที่คุณเซฟเอาไว้บนออนไลน์ (ในภาพด้านขวาจะเห็นว่ามีเครื่องหมายติ๊กถูกที่สินค้า เป็นการสาธิตการแสดงผลว่า User เคยเซฟสินค้าเหล่านี้)
ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้เรามองห
ตัวอย่างสองอย่างนี้มาจากฟี
3. AI เพื่อช่วยลดงานซ้ำซ้อนของการทำครีเอทีฟ

4. Account-based Marketing
มาถึงเคสของ B2B กันบ้าง ล่าสุด Adobe มีการ Partnership ในหลายด้านมากๆ กับ Microsoft รวมถึงการเชื่อมต่อ LinkedIn ซึ่งช่วยให้นักการตลาดบน Marketo สามารถเข้าถึงข้อมูลของ LinkedIn ได้บนแพลตฟอร์มของ Marketo เอง
ยกตัวอย่างเช่น… คุณกำลังมองหา Account บริษัทลูกค้ารายใหม่ที่จะเข้าไปทำการตลาด คุณสามารถให้ Marketo ลิสต์รายชื่อบริษัทจากทั่วโลก Filter ตาม Criteria ต่างๆ ได้ เช่น ขนาดบริษัท อุตสาหกรรม
จากนั้นก็ค้นหาต่อว่า มีใครทำงานในบริษัทนี้บ้าง เมื่อคุณพบ User ที่คุณสนใจ คุณสามารถยิง LinkedIn Ads ส่งหาบุคคลนี้ได้ เป็นต้น
เทคนิคเช่นนี้เราเรียกกันว่า Account-based Marketing (ซึ่งใช้ได้แล้วในหลายซอฟต์แวร์ ไม่จำกัดเฉพาะรายชื่อที่ได้กล่าวไป)
5. E-Commerce Store Image Search
เราอาจคุ้นเคยฟีเจอร์ Image Search บน Google อยู่แล้ว
แต่นอกจากแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ
ปัจจุบันแพลตฟอร์ม E-Commerce อย่าง Magento ได้ออกบริการ Image search ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของร้านค้
6. Unified Advertising Platform
จะดีแค่ไหนถ้านักการตลาดสาม
สำหรับ Facebook Ads และ Google Ads ปัจจุบันนี้มีโซลูชันส์ที่ค
หมายเหตุ: บนรูปภาพเขียนว่าทีวีและวิท
7. Chatbot
ตัวอย่างความสามารถของแชทบอท เช่น การเรียนรู้ภาษาของมนุษย์ (NLP) การวางระบบ Automation
หากใครสนใจเรื่องนี้ เราเคยเขียนบทความ AI Chatbot ต่างหากไว้อีกบทความ ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้นะคะ
สรุป
จากตัวอย่างเบื้องต้นเหล่านี้ เราจะมองเห็นได้ว่าเทคโนโลยีทางการตลาดและการขายนั้นส่วนใหญ่แล้วมีการประยุกต์ใช้ในลักษณะดังต่อไปนี้
- AI เพื่อการลดงานที่ซ้ำซาก หรือเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการตัดสินใจ
- Ecosystem & Integration การเชื่อมต่อโปรแกรมต่างๆ ให้เป็นระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์
- ฟีเจอร์ใดๆ ก็ตามเพื่อเพิ่ม Customer experience ให้ดีขึ้น
ที่บอกว่าวงการนี้ยังไปได้ไกลอีกมาก ก็เพราะว่าเพียงแค่คอนเซปต์ 3 ข้อดังกล่าว ก็สามารถสร้างสรรค์ฟีเจอร์ได้มากมายไม่รู้จบแล้วค่ะ
ตาคุณแล้ว
แล้วคุณล่ะคะ ตื่นเต้นกับอะไรใหม่ๆ ของวงการเทคโนโลยีทางการตลาด/การขาย เหมือนอย่างพวกเราหรือเปล่า หากมีความคิดเห็นหรือเรื่องที่อยากแชร์เพิ่มเติม พูดคุยกับพวกเรา Content Shifu ได้เสมอนะคะ