Blog

สาเหตุที่ธุรกิจไม่ควรคิดและทำคอนเทนต์เหมือนสื่อ

• 11 ตุลาคม 2019

Share on

Share on

คุณเห็นเว็บไซต์ที่เป็นสื่อทำคอนเทนต์ดีๆ เจ๋งๆ มากมาย และคุณมองพวกเขาเป็นแบบอย่างและอยากที่จะทำให้ได้แบบพวกเขา?

คำแนะนำของผมคือคุณควรที่จะเรียนรู้วิธีการทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจจากพวกเขา แต่เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำคอนเทนต์ คุณไม่ควรที่จะทำตามเขา

ในบทความนี้ผมจะมาอธิบายเหตุผลว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรคิดและทำเหมือนสื่อ รวมถึงผมจะมาแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่าธุรกิจควรคิดและทำอย่างไร

รับรองว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะได้ไอเดียไปทำคอนเทนต์ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

ป.ล. คำว่าธุรกิจในที่นี้ผมหมายถึงธุรกิจทั่วๆ ไปที่มีการขายสินค้าและบริการและไม่ได้เป็นสื่อที่รายได้หลักมาจากการรับโฆษณานะครับ

สาเหตุที่ธุรกิจไม่ควรคิดและทำคอนเทนต์เหมือนสื่อ

1. เป้าหมายของธุรกิจกับเป้าหมายของสื่อต่างกัน

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของสื่อคือจำนวนผู้ชมที่เข้ามาเห็นคอนเทนต์ที่พวกเขาผลิต (ไม่ว่าจะเป็นยอด View บนเว็บไซต์หรือยอด Engagement บน Social) สาเหตุนั้นเป็นเพราะว่า “จำนวนผู้ชม” นั้นคือ “สินค้า” ของพวกเขา

ยิ่งมีจำนวนผู้ชมมาก สินค้ายิ่งมีมูลค่ามาก

แต่ธุรกิจโดยทั่วๆ ไปนั้นต่างออกไป สินค้าที่ธุรกิจขายนั้นไม่ใช่ “จำนวนผู้ชม” แต่อาจจะเป็นสิ่งอื่น เช่น อาหาร เสื้อผ้า เครื่องจักร หรืออะไรก็แล้วแต่

เพราะฉะนั้นการที่ธุรกิจสามารถทำคอนเทนต์ให้มีผู้เข้าชมได้เป็นจำนวนมาก อาจจะไม่ได้ตอบเป้าหมายทางธุรกิจเสมอไป

2. ธุรกิจมีเวลาทำคอนเทนต์ที่จำกัดกว่าสื่อ

สำหรับสื่อ การทำคอนเทนต์คือหน่ึงในเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าไม่มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจก็จะไม่มีผู้เข้าชม

แต่สำหรับธุรกิจนั้นต่างออกไป

การทำคอนเทนต์นั้นไม่ใช่งานส่วนใหญ่ของธุรกิจ แต่เวลาส่วนใหญ่นั้นจะต้องเอาไปใช้กับเรื่องอื่นเช่นการผลิตสินค้าให้ดี การบริการหลังการขาย และอื่นๆ

ยิ่งธุรกิจโยกเวลามาให้การผลิตคอนเทนต์มากเท่าไหร่ หมายความว่าทรัพยากรในด้านอื่นๆ ก็จะยิ่งลดลงมากเท่านั้น

3. ทีมงานของธุรกิจกับสื่อมีความสามารถที่ต่างกัน

สำหรับสื่อ ทีมงานของพวกเขาเต็มไปด้วยนักสร้างคอนเทนต์มือฉมังไม่ว่าจะเป็นนักเขียน นักออกแบบ นักตัดต่อวีดีโอ หรือนักสัมภาษณ์ แต่สำหรับธุรกิจโดยทั่วๆ ไปแล้วอาจจะไม่ได้มีทรัพยากรตรงส่วนนี้มากนัก บริษัทที่เป็นสายวิศวกรรม ก็จะมีคนสายวิศวกรรมอยู่มาก บริษัทสายสถาปัตยกรรม ก็จะมีคนสายสถาปัตยกรรมอยู่มาก

เพราะฉะนั้นการจะไปทำให้คอนเทนต์ที่สร้างออกมานั้น ดัง! ปัง! โดน! อย่างสม่ำเสมอแบบสื่อก็อาจจะทำได้ยาก

นี่คือ 3 เหตุผลว่าทำไมธุรกิจจึงไม่ควรคิดและทำเหมือนสื่อ

แล้วถ้าไม่ทำคอนเทนต์เหมือนสื่อ ธุรกิจควรคิดและทำแบบไหน

1. เน้นทำคอนเทนต์ที่ Engagement ดี Relevant

อย่างที่บอกไปว่า…

“จำนวนผู้ชม” คอนเทนต์ของคุณไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่ “จำนวนผู้ชมที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย” ต่างหากที่สำคัญกว่า

ผมลองสมมุติตัวอย่างง่ายๆ แล้วกันนะครับ

สมมุติว่าบริษัทของคุณขายบริการทางด้านกฏหมายธุรกิจ อยู่มาวันนึงเกิดมีเรื่องราว Talk of the Town เกี่ยวกับเรื่องกฏหมายมรดก (เช่น กรณีละครเรื่องเลือดข้นคนจางที่ฮิตติดลมบนทั่วบ้านทั่วเมือง)

ถ้าเป็นสื่อ การเอาเรื่องกฏหมายมรดกมาขยี้ต่อนั้นถือเป็นเรื่องที่ทำได้และควรทำเพราะสื่อต้องการยอด Engagement ยอด View ที่จะเอาไปขายต่อ

แต่ถ้าสำหรับธุรกิจของคุณที่ขายบริการทางด้านกฏหมายธุรกิจ การที่คุณทำคอนเทนต์เรื่องกฏหมายมรดกอาจจะทำให้คอนเทนต์ของคุณมียอด Engagement และเรียกคนมาสนใจได้มากกว่าปกติ แต่มีแนวโน้มว่าคนเหล่านั้นส่วนใหญ่แล้วอาจจะไม่ได้เป็น Lead หรือลูกค้ามุ่งหวังของคุณ

ในความเห็นของผม การทำคอนเทนต์ที่ตรงประเด็น คนเห็นแค่หลักร้อยคน แต่ในร้อยคนนั้นมี Lead อยู่สัก 10 คนนั้นดีกว่าการทำคอนเทนต์ปังๆ โดนๆ คนเห็นเป็นหมื่นเป็นแสน แต่มี Lead อยู่แค่ 1-2 คนหรือไม่มี Lead ของคุณอยู่ในนั้นเลยมากนัก

[suggest title=””]ผมไม่ได้บอกว่าการทำคอนเทนต์ที่เน้น Engagement ไม่ดีนะครับ ถ้าคุณสามารถทำคอนเทนต์ที่ทั้งมี Engagement ดีและ Relevant กับธุรกิจของคุณจริงๆ มันจะเพิ่มพลังให้คอนเทนต์ของคุณอีกมากเลยครับ[/suggest]

2. เน้นทำคอนเทนต์ที่ Topical Evergreen

ผมเคยเขียน Topical vs Evergreen ไปแล้ว

ผลลัพธ์การ ทำคอนเทนต์ แบบ Topical

ซึ่งผมขอสรุปง่ายๆ อีกครั้งว่า Topical Content คือคอนเทนต์ที่ทันกระแส แต่จะเสื่อมค่าตามกาลเวลาเช่นคอนเทนต์พวกข่าว

Evergreen Content คือคอนเทนต์ที่ไม่เสื่อมค่าตามกาลเวลา เช่น คอนเทนต์ที่แก้ไขหรือตอบปัญหาให้คน

สำหรับสื่อแล้ว Topical Content เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่พวกเขาต้องนำเสนอเพราะนั่นคือหนึ่งในหน้าที่หลักของพวกเขา (สื่อสารเรื่องราวความจริงให้สังคม)

การทำคอนเทนต์ Evergreen ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

แต่สำหรับธุรกิจที่โฟกัสหลักไม่ใช่การผลิตและนำเสนอคอนเทนต์ การเอาแรงไปโฟกัสที่ Evergreen Content จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว

ถ้าคุณเลือกหัวข้อมานำเสนอให้ดี และทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์คน คอนเทนต์เพียงแค่คอนเทนต์เดียวของคุณอาจจะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมากกว่าที่คุณคาดไว้ก็ได้

Note: ถ้าคุณจะทำ Evergreen Content จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องมีเว็บไซต์ ลองเข้าไปอ่านเหตุผลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้ครับ

3. วาง Editorial Calendar Funnel ให้ดี

ถ้าเป็นสื่อ สิ่งที่พวกเขาจะโฟกัสคือการวาง Editorial Calendar เพื่อให้พวกเขาสามารถคุมธีมของคอนเทนต์และผลิตคอนเทนต์ออกมาได้ตามเวลาที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ

แต่สำหรับธุรกิจที่คอนเทนต์อาจจะไม่ได้ออกมาบ่อยๆ การสร้าง Editorial Calendar อาจจะไม่ได้สำคัญเท่าการวาง Funnel ให้ดี

การวาง Funnel คือการสร้างกรวยทางเดินให้กับ Leads โดยที่เริ่มตั้งแต่การหา Traffic เข้ามายังกรวยจนกระทั่งพวกเขากลายเป็นลูกค้าของคุณ

ตัวอย่างเช่นของ Content Shifu เราดึงดูดคนเข้ามาหาเราด้วยบทความดีๆ (Awareness)

ตัวอย่างการทำคอนเทนต์ Lead Generation

จากนั้นก็ทำให้คนศึกษาหาข้อมูลและสนใจสิ่งที่พวกเขานำเสนอมากขึ้นด้วย Free Resources (Consideration)

และนำเสนอสินค้าและบริการที่เรามีอย่าง Training หรือบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ (Decision)

การวาง Funnel ที่ดีจะทำให้คุณไม่ปล่อยโอกาสให้เป็นอากาศ นอกจากดึงดูดคนที่ใช่เข้ามาหาได้แล้ว ยังสามารถทำให้พวกเขากลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้ด้วย

สรุป

บทความนี้ไม่ได้เป็นบทความที่บอกว่า “ทำเหมือนสื่อไม่ดี”

จริงๆ มีบางอย่างที่คุณสามารถเรียนรู้จากสื่อดีๆ ทั้งในและต่างประเทศได้เช่นเรื่องของการทำคอนเทนต์ให้น่าสนใจหรือเรื่องของความสม่ำเสมอ แต่สุดท้ายแล้วธุรกิจของคุณไม่ได้เติบโตหรืออยู่ได้ด้วยการขายยอด View หรือยอด Engagement แต่เป็นการขายสินค้าหรือบริการที่คุณมี เพราะฉะนั้นการคิดแผนการทำคอนเทนต์โดยอิงจากธุรกิจ สินค้า และบริการของคุณจริงๆ จึงสำคัญ

ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้แนวคิดดีๆ ไปช่วยให้คุณทำธุรกิจของคุณเติบโตได้มากขึ้นนะครับ

ตาคุณแล้ว

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้บ้าง? หรือคุณมีแนวคิดอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมมาแชร์ให้ผมและผู้อ่านคนอื่นๆ รู้อีกบ้างไหม? มาคุยกันต่อได้ในคอมเมนต์เลยครับ :)

[suggest title=”” icon=”tips note think”] เพราะคอนเทนต์และการทำ Digital Marketing ของทุกธุรกิจมีความแตกต่างกัน นอกจากการทำงานที่ไม่ควรเลียนแบบสื่อแล้ว ธุรกิจยังควรปูพื้นฐานด้านการทำการตลาดออนไลน์ให้แข็งแรงขึ้น

เรียนรู้วิธีการทำ Digital Marketing สำหรับธุรกิจด้วยการจัดอบรม Training ให้กับทีม Manager ภายในองค์กรด้วยคอร์ส In-House ที่ทุกธุรกิจควรปูพื้นฐานให้กับทีมผู้นำด้วยคอร์ส Digital Marketing for Manager

พิเศษ! สมัครเรียนตอนนี้ เราออกแบบหลักสูตรเพื่อองค์กรของคุณโดยเฉพาะ

New call-to-action [/suggest]

Share on

Bank Sitthinunt

Writer

Bank Sitthinunt

เจ้าของเว็บไซต์ Content Shifu นอกจากเรื่อง Inbound Marketing, Digital Marketing และ MarTech แล้ว ยังสนใจเรื่อง Entrepreneurship, Productivity, Self-Development และ Talent Development รวมถึงเป็นแฟนตัวยงของทีม Manchester United อีกด้วย

More From Me