แล้วสรุปว่าการทำธุรกิจบน Social Media เพียงอย่างเดียวมันไม่ดียังไง?
ก่อนหน้านี้ผมเขียนเหตุผลที่อยู่ในใจคุณออกมาแล้ว ทีนี้ตาผมเขียนเหตุผลที่อยู่ในใจผมออกมาบ้างนะ ว่าปัญหาของ Social Media หรือข้อเสียของ Social Media ที่ผมศึกษาและมองเห็นมา มีอะไรบ้าง
แพล็ตฟอร์ม Social Media ต่างๆ อย่าง Facebook, Instagram หรือ LINE นั้นมีคนไทยใช้อยู่มากกว่า 41 ล้านคน (60% ของจำนวนประชากร) และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นอีกเรื่อยๆ
แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปอีกขั้น คุณจะรู้ว่า มันไม่ใช่แค่ลูกค้าหรอกที่จะเพิ่มขึ้นมา คู่แข่งของคุณเองก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาลด้วย เพราะอย่างที่ได้บอกไป การเริ่มต้นซื้อขายผ่านช่องทาง Social Media นั้นสามารถทำได้ง่ายมาก
เอ้อ แล้วก็ไม่ใช่แค่ Facebook นะครับ ตัวอื่นๆ ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการที่เราขาดการควบคุมได้ด้วยตัวเองนี้ ถือเป็นปัญหาหรือข้อเสียสำคัญข้อหนึ่งของ Social Media เลย
Shifu แนะนำ
สิ่งที่คุณคิดว่าเป็น Asset บนโซเชียลมีเดียอย่างเช่น จำนวน Like อาจจะเสื่อมค่าเร็วกว่าที่คุณคาดคิดไว้ ผมรู้สึกเสียดายแทนทุกครั้งที่เห็นคนกระหน่ำซื้อ Like บน Facebook Page โอเค มันอาจจะมีคุณค่าในแบบ Social Proof ที่บอกให้คนรู้ว่าคุณมีผู้ติดตามเยอะ แต่ในความคิดเห็นของผม ผมคิดว่าคุณไม่ควรจะไปเสียเงินจำนวนมากให้กับสิ่งที่ไม่ได้สร้างธุรกิจในระยะยาว แถมยังเสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย (10,000 Like ในวันนี้ของปีนี้มีค่าน้อยกว่า 10,000 Like ในวันนี้ของปีที่แล่้วเยอะเลยครับ)
สู้เอาเงินที่ลงกับ Like ไป Boost Post, ทำ Lead Ads หรือถ้าจะให้ดี เอาไปทำคอนเทนต์ให้มันเจ๋งๆ น่าจะเข้าท่ากว่าเยอะเลยครับ
ได้โปรดอย่าเข้าใจผมผิด
ผมเชื่อว่า Social Media ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างการรับรู้ให้กับลูกค้าในยุคนี้ และคุณควรจะใช้ประโยชน์จากมันให้ดี
แต่ถ้าสิ่งที่คุณทำคือการเปิดร้านบน Facebook โชว์สินค้าผ่าน Instagram หรือการขายของผ่าน LINE เพียงเท่านั้น ผมคิดว่าไม่ใช่แนวคิดที่เหมาะสมในระยะยาวครับ
“แล้วถ้าไม่ทำธุรกิจผ่าน Social Media แล้วจะให้ไปทำธุรกิจที่ไหนล่ะ?”
ทางเลือกที่คุณควรใช้ควบคู่กับ Social Media
ดังสุภาษิตที่ว่าไว้ว่า “Don’t put all your eggs in one basket” หรือ “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดของคุณไว้ในตระกร้าใบเดียว” ยิ่งเป็นตระกร้าที่เรียกว่า Social Media ที่เป็นเหมือนบ้านเช่าแล้วนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตเสนอตระกร้าใบอื่นที่มันแข็งแรง และยั่งยืนกว่าให้คุณบ้างแล้วกันนะ
คุณสามารถสร้าง และออกแบบเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ในการทำธุรกิจของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขาย หรืออื่นๆ ในขณะที่ Social Media ต่างๆ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขาย;Facebook ถูกสร้างมาเพื่อให้คุณเชื่อมต่อกับเพื่อน, Instagram ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คุณแบ่งปันรูปภาพ และ LINE ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้คุณพูดคุยกับเพื่อน
ความคุ้มค่าในระยะยาว
การที่คุณเข้ามาอ่านบทความนี้ของ Content Shifu ผมคิดว่าคุณน่าจะเป็นคนที่เชื่อในการสร้างคอนเทนต์เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับกลุ่มเป้าหมายอยู่ไม่มากก็น้อยแน่ๆ ซึ่งการที่มีเว็บไซต์นั้น จะทำให้คุณค่าที่คุณส่งมอบออกไปอยู่นานมากยิ่งขึ้น เพราะอายุเฉลี่ยของโพสต์บน Social Media ต่างๆ จะอยู่ที่ราวๆ 2-7 ชั่วโมง ในขณะที่บทความบนเว็บไซต์นั้นจะอยู่ได้เป็นหลักเดือน หรือปี โดยการที่ถูกค้นหาผ่าน Google ครับ (สำหรับคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ตราบใดที่คอนเทนต์คุณติด Google แล้ว และยังมีคนอยากรู้ในเรื่องที่คุณพูดถึงอยู่ คอนเทนต์นั้นๆ ของคุณจะไม่หมดอายุเลยครับ)
พฤติกรรมการซื้อขายของคนไทยในปัจจุบันนั้นจะอยู่ที่ Social Media และการโอนเงินเป็นหลัก ผมเองนั้นก็บอกแน่ๆ ไม่ได้หรอกว่าพฤติกรรมการซื้อขายในประเทศเรานั้นจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นเหมือนเมืองนอกเมื่อไหร่ (หรือจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นแบบไหน)
ถ้าคุณอยู่ในโลกออฟไลน์อยู่แล้ว ดีเลย ผสานเอาข้อดีของทั้งโลกออฟไลน์ และโลกออนไลน์อย่างเว็บไซต์ และ Social Media มาไว้ด้วยกัน ใช้ประโยชน์จากจุดเด่นของแต่ละช่องทางให้ดี แล้วธุรกิจของคุณจะอยู่ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวครับ
สรุป
โซเชียลมีเดียก็ยังคงเป็นช่องทางที่สำคัญ และเป็นช่องทางที่คนที่อยากทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ควรจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ แต่ Social Media ไม่ควรเป็นเพียงช่องทางเดียวในการทำธุรกิจของคุณเพราะว่าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของ และยิ่งนานวันไป การทำธุรกิจบนโซเชียลมีเดียจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
การผสาน Social Media กับเว็บไซต์ และช่องทางออฟไลน์จะเป็นวิธีที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น และอยู่ได้ในระยะยาว
อ่านเพลินเลยครับ
ขอบคุณครับ 🙂
ดีมากเลยครับ ฃ
ขอบคุณครับ 🙂