ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างต้องการหาทางยกระดับศักยภาพท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง และสิ่งหนึ่งที่จะช่วยได้นั่นก็คือ Martech เครื่องมือแห่งอนาคตที่จับต้องได้ และคุณสามารถเริ่มใช้ได้เลยตอนนี้

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปส่องเทรนด์ Martech Tools ในแง่มุมของ InsightEra ผู้นำเทคโนโลยีที่เข้าใจตลาดไทย และเป็น End-to-end Martech Solution ที่มีเทคโนโลยีและบริการหลากหลายที่ตอบโจทย์ธุรกิจไทยได้อย่างครบวงจร

ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องมือตัวไหนที่กำลังมาและจะมีการพัฒนาไปในแง่มุมไหนบ้าง ไปอ่าน 6 Martech Tools Trends ในอนาคตกับแง่มุมของคุณหยก นารีรัตน์ แซ่เตียว CEO & Co-Founder บริษัท InsightEra ได้เลยค่ะ!

1. Social Listening Tools Trend

จากรายงาน Digital 2023: Thailand จาก Data Reportal ได้กล่าวไว้ว่า ประเทศไทยมีจำนวนผู้ใช้งาน Social Media ถึง 52.25 ล้าน Users ในเดือนมกราคม 2023 ซึ่งเท่ากับ 72.8% ของประชากรประเทศไทย

เรียกได้ว่าโซเชียลมีเดียแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกับคนไทย และนั่นทำให้เครื่องมืออย่าง Social Listening Tools ที่เป็นเครื่องมือทางการตลาดออนไลน์สำหรับเก็บข้อมูล Insight ของกลุ่มเป้าหมายบนโซเชียลมีเดีย มีความสำคัญสำหรับนักการตลาดเป็นอย่างมาก

Social Listening Tools ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือเอาไว้ตรวจสอบเทรนด์หรือกระแสเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ทำให้นักการตลาดได้ Insight ไปพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพได้มากกว่าเดิม

ดังนั้น Social Listening Tools จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่นักการตลาดต้องใช้ และคอยติดตามอยู่ตลอด เพื่อตามเทรนด์ให้ทัน!


Shifu แนะนำ

ใครที่กำลังใช้ Social Listening Tools อยู่ แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ Metrics ไหนในการวัดผล Business KPIs ดี? ตามไปอ่านบทความ “7 Social Listening Metrics สำคัญที่ช่วยวัดผล Business KPIs ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 

เทรนด์การพัฒนา Social Listening Tools ในมุมมอง InsightEra

  • Data Coverage – การเก็บข้อมูลให้ครบที่สุด การมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ๆ เข้ามา Social Listening Tools ต้องครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มให้ได้มากที่สุด เพราะการฟังกระแสผู้คนจากโซเชียลมีเดียต้องฟังได้หลากหลาย เพื่อให้รู้ความคิดเห็นของคนหลายกลุ่มนั่นเอง
  • Real-time – โซเชียลมีเดียมีความรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเครื่องมือก็ต้องตอบโจทย์เรื่องความเร็วไม่ต่างกัน จะต้องมอบข้อมูลให้กับผู้ใช้ได้อย่าง Real-time
  • ความแม่นยำและมุมมองในการวิเคราะห์ข้อมูล – แน่นอนว่าโซเชียลมีเดียมีข้อมูลค่อนข้างเยอะ มุมมองในการวิเคราะห์ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยธุรกิจได้มากขึ้น อย่าง InsightEra มุมมองปัจจุบันอาจจะมีแค่ Sentiment หรือ Categorization แต่อนาคตอาจมีการเชื่อมโยงมากขึ้น เช่น Context ของเรื่องที่พูด เชื่อมโยงกับตัวบุคคลที่พูด หรือวิเคราะห์ในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อเข้าใจในแนวโน้มและเทรนด์ได้มากขึ้น

ธุรกิจไหนที่เหมาะใช้งาน Social Listening Tools

  • ธุรกิจที่มีการสื่อสารหรือทำการตลาดออนไลน์ เพราะสามารถ Take Action ได้ทันทีจากการใช้เครื่องมือ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ B2C เช่น Bank, FMCG และ Insurance เป็นต้น
  • กลุ่ม Digital Agency ที่มีหน้าที่ดูแลการสื่อสารให้กับแบรนด์
  • กลุ่มธุรกิจที่กำลังจะเริ่มทำการสื่อสารออนไลน์ จำเป็นต้องใช้ Social Listening Tools เพื่อวางกลยุทธ์ได้อย่างถูกต้อง

ซึ่งโดยสรุปแล้ว Social Listening Tools จะทำให้ธุรกิจเข้าใจผู้บริโภคหรือตลาดได้อย่างง่ายและรวดเร็วมากขึ้น ธุรกิจสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักการตลาดควรใช้ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาด

แนะนำ DOM: Social Listening Tools

DOM (Data Opinion Mining) คือ Social Listening Tool ที่สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลความคิดเห็นจากโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์อารมณ์ (Sentiment Analysis) การวิเคราะห์แนวโน้มของความคิดเห็น (Trends Analysis) การวิเคราะห์เครือข่ายและผู้มีอิทธิพล (Influencer Analysis) และอื่นๆ แสดงผลผ่าน Interactive Dashboard ที่รองรับการรูปแบบการแสดงผลที่หลากหลาย สามารถเรียกดูข้อมูลทั้งในภาพรวมและรายละเอียดเชิงลึกได้อย่างง่ายดาย

2. Chatbot Platform Trend

บนโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปและต้องการความเร็วมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นธุรกิจจึงต้องตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที เมื่อลูกค้าต้องการคำตอบหรือมีปัญหาอะไรการที่แบรนด์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ก็จะทำให้ลูกค้าหลุดลอยจากไปนั่นเอง

การนำ Chatbot Platform เข้ามาใช้ในธุรกิจที่ต้องมีการสนทนาผ่านแชทจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าได้ เพราะสามารถตอบได้ตลอด 24/7 และใน Chatbot ที่มีความแม่นยำและพูดคุยได้อย่างธรรมชาติจะยิ่งทำให้ลูกค้าประทับใจ และทำให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนทางด้าน Customer Service ได้สูงเลยทีเดียว

ถ้าธุรกิจของคุณต้องการมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้า และรักษาเขาไว้ได้นานๆ Chatbot Platform จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ธุรกิจควรพิจารณานำมาใช้นั่นเอง

เทรนด์การพัฒนา Chatbot Platform ในมุมมอง InsightEra

  • ความเข้าใจในภาษาไทย ต้องมีการพัฒนาต่อยอด เนื่องจากภาษาไทยเป็นภาษาท้องถิ่น เครื่องมือหลายๆ อย่างที่มาจากต่างชาติอาจใช้กับภาษาไทยไม่ได้ InsightEra จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาความเข้าใจในภาษาไทยของ Chatbot เป็นอย่างแรกเพื่อทำให้ Chatbot ต่อยอดไปได้
  • การเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับ Chatbot เช่น ระบบ Automation ในการให้บริการลูกค้า หรือการ Operate งานภายในบริษัท เพราะ Chatbot ไม่ใช่แค่ถามตอบอย่างเดียวแต่สามารถทำ Activity บางอย่างให้กับเราได้อีกด้วย
  • การเชื่อมต่อ ChatGPT จะช่วยเสริมในฝั่งขององค์ความรู้ของ Chatbot ทำให้สามารถตอบคำถามได้กว้าง แม่นยำ มีความฉลาด และพูดคุยได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • การพัฒนา สามารถทำให้ User สร้าง Chatbot ได้ง่ายมากขึ้นไม่ต้องใช้ Technical ให้ยุ่งยากวุ่นวาย User-Friendly ใครก็ได้สามารถสร้าง Chatbot ได้ด้วยตัวเองได้

ธุรกิจไหนที่เหมาะใช้งาน Chatbot Platform

  • ธุรกิจที่ต้องมีการให้บริการลูกค้าทั้งภายในและภายนอก โดยมีปริมาณ Transaction ที่สูง หรือให้บริการ 24/7 Chatbot จะช่วยลด Workload ของแอดมิน และพัฒนาให้ Response Time ในแชทดีขึ้น
  • องค์กรขนาดใหญ่ มีจำนวนพนักงานเยอะจึงต้องมีการสื่อสารภายในเป็นจำนวนมาก สามารถใช้ Chabot ช่วย Operate Process ภายในได้ เช่น IT Support ถามตอบเกี่ยวกับปัญหา IT หรือรีเควสขอ Support โดยไม่ต้องโทรถามพนักงาน IT อย่างการขอ Password หรือด้านจัดซื้อจัดจ้างในองค์กร การติดตามสถานะต่างๆ ไปจนถึงการแจ้งเตือนอัตโนมัติ ก็จะช่วยลดงานของเจ้าหน้าที่ลงได้เยอะ

แนะนำ ALICE: Automation Intelligence Chatbot

ALICE คือ AI Chatbot ที่ช่วยพัฒนาการสื่อสารออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นผู้ช่วยดูแลลูกค้า 24 ชั่วโมง พัฒนาโดยคนไทย รองรับภาษาไทยอย่างแม่นยำด้วยเทคโนโลยี AI และ NLP ทำให้ ALICE เป็นแชทบอทที่สื่อสารได้เหมือนการคุยกับมนุษย์จริงๆ!

  • AI Machine Learning ยิ่งพูดคุย ยิ่งฉลาด บริการเก่งขึ้น พร้อมให้บริการลูกค้าได้ทันที
  • Thai Natural Language Support เรียนรู้และเข้าใจภาษาไทย เข้าใจคำถามแม้สะกดผิด ไม่ใช่แค่ Keyword Matching
  • Chatbot Usage Statistics and Performance Report วิเคราะห์การใช้งาน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมเพิ่ม
Martech Report

3. Omni-Channel Management Tools Trend

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากมายเข้ามาทำให้ธุรกิจต้องบริหารจัดการช่องทางเหล่านั้น ซึ่งธุรกิจไหนที่ต้องใช้หลายแพลตฟอร์มก็จะมีความยุ่งยากในการจัดการเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะต้องตอบ Inbox ลูกค้าหรือการเผยแพร่คอนเทนต์บนช่องทางต่างๆ

ดังนั้น เครื่องมือ Omni-Channel Management จึงเข้ามาตอบโจทย์ปัญหาธุรกิจหรือแบรนด์ได้ ด้วยการเป็นตัวช่วยบริหารจัดการทุกช่องทาง Social Media ผ่านจอเดียว ไม่ว่าจะตอบข้อความข้ามแพลตฟอร์ม หรือโพสต์คอนเทนต์ไปทุกโซเชียลในคลิกเดียว เครื่องมือนี้จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ธุรกิจที่มีช่องทางโซเชียลมีเดียหลากหลายต้องใช้นั่นเอง

เทรนด์การพัฒนา Omni-Channel Management Tools ในมุมมอง InsightEra

  • Channel Coverage การพัฒนาให้เครื่องมือครอบคลุมทุกช่องทางที่ธุรกิจนิยมใช้สื่อสารมากที่สุด เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียหลากหลาย
  • Automation เพิ่มความอัตโนมัติให้กับเครื่องมือในขั้นตอนที่ทำได้ เช่น ช่วยเรื่อง Inbox ได้ ให้ระบบ Track ได้ว่าเป็นเรื่องอะไรและช่วยจัด Priority ว่าเรื่องไหนด่วน หรือช่วย Assign case ต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องนั้นๆ อนาคตอาจเชื่อมกับ Chatbot ได้เพราะ FAQ บางอย่างสามารถตอบได้เลยจะช่วยลดภาระหน้าที่ของพนักงาน

ธุรกิจไหนที่เหมาะใช้งาน Omni-Channel Management Tools

  • ธุรกิจที่มีการให้บริการหรือสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทาง Online โดยเฉพาะกลุ่ม B2C
  • Digital Agency ที่ช่วยดูแลช่องทางการสื่อสารออนไลน์ให้กับลูกค้า

แนะนำ CENT: Social Management Tool

CENT บริหารทุกช่องทางโซเชียล “หน้าเดียวจบ” หมดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ หรือ ตอบข้อความ Inbox จากหลายหลากแพลตฟอร์ม CENT จะช่วยเพิ่มโอกาสในการให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  • Incoming Messages Management ตอบทุกข้อความ ทุกคอมเมนต์ของลูกค้า จากทุกช่องทาง ได้ในหน้าจอเดียว
  • Content Publishing โพสต์คอนเทนต์ไปยังทุกช่องทาง Social Media ได้สะดวก รวดเร็ว ในครั้งเดียว
  • SLA Management ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของทีมงาน เพื่อปรับปรุงการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น

4. Thai NLP Platform Trend

Natural Language Processing (NLP) คือ การประมวลผลภาษาธรรมชาติโดยใช้คอมพิวเตอร์ โดย NLP มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและวิเคราะห์ภาษาธรรมชาติได้เช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการแปลภาษาอัตโนมัติ การสร้าง Chatbot หรือการวิเคราะห์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

Thai NLP Platform จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ภาษาธรรมชาติภาษาไทยที่มีบริบทที่ซับซ้อนได้ และเข้ามาช่วยประมวลผลข้อมูลภายในองค์กรได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

ความสำคัญของ NLP

  1. ช่วยให้เครื่องมือและแอปพลิเคชันต่างๆ เข้าใจและวิเคราะห์ภาษาธรรมชาติได้ เช่น การแปลภาษาอัตโนมัติ การสร้าง Chatbot หรือการวิเคราะห์เนื้อหาบนโซเชียลมีเดีย
  2. ช่วยให้การสื่อสารระหว่างมนุษย์และเครื่องมือด้วยภาษาธรรมชาติเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในการสื่อสารทางธุรกิจและการสื่อสารทางการแพทย์
  3. ช่วยให้การค้นหาข้อมูลในเว็บไซต์และฐานข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ภาษาธรรมชาติ เช่น การค้นหาคีย์เวิร์ด (Keyword Search) หรือการค้นหาข้อมูลโดยใช้คำถาม (Question Answering)
  4. ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลทางภาษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น  Sentiment Analysis, Semantic Analysis และ Word Association
  5. ช่วยให้การเรียนรู้และการสื่อสารทางภาษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้เทคโนโลยี NLP ในการสร้างและพัฒนาเครื่องมือการเรียนรู้และการสื่อสารทางภาษา เช่น การสร้างแอปพลิเคชันการเรียนภาษา หรือการสร้างโปรแกรมการเรียนรู้ทางภาษา

ดังนั้น NLP Platform จึงเป็นเครื่องมือที่เหมาะกับ Marketing Technologist หรือคนที่เข้าใจเทคโนโลยีและฝ่าย IT เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและประมวลผล จึงไม่ได้เหมาะกับการใช้งานของ End User

เทรนด์การพัฒนา Thai NLP Platform ในมุมมอง InsightEra

  • ความแม่นยำในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นภาษาไทย ที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม เพราะเป็นส่วนสำคัญในการเอาข้อมูลไปใช้ต่อของแบรนด์
  • ประเภท Service ที่ให้บริการ จะมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น เพิ่ม Text Summarization การสรุปเนื้อหา และ Language Generation สร้างประโยคใหม่ภายใต้ความหมายเดิม ประยุกต์ใช้กับการเขียนคอนเทนต์ และ Chatbot ได้

ธุรกิจไหนที่เหมาะใช้งาน Thai NLP Platform

  • ธุรกิจที่ต้องการประมวลผลข้อมูลภายใน เช่น ข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบข้อความภาษาไทย เพื่อวิเคราะห์หรือจัดหมวดหมู่ของข้อมูล

แนะนำ ELI: Empower Language Intelligence

ELI จะช่วยให้ Product ของคุณเข้าใจภาษาของมนุษย์ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยี NLP เข้ามาใช้งาน

สามารถเรียกใช้งานได้ง่ายผ่าน RESTful API

  • เทคโนโลยีใหม่สมัยใหม่และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ทุกบริการถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ Train ด้วยฐานข้อมูลขนาดใหญ่ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย
  • เชื่อมต่อง่ายๆ ด้วย RESTful API พร้อมเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการด้วยตนเองทุกบริการเรียกใช้งานด้วย RESTful API และมี Console เพื่อให้เข้าไป Monitor และจัดการ Quota
  • รองรับภาษาไทยและระบบจะเรียนรู้จาก Feedback ใหม่ๆ ตลอดเวลา ทุกบริการรองรับภาษาไทย และ Feedback จากการใช้งานจะถูกนำมาประมวลผลเพื่อพัฒนาบริการ

5. Competitors Analytics Tools Trend

การวิเคราะห์คู่แข่ง คือการวิเคราะห์และติดตามกิจกรรมของคู่แข่งในตลาดเพื่อให้เข้าใจแนวโน้มและการเคลื่อนไหวของตลาด โดยการใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่ง เช่น ข้อมูลการขาย การตลาด และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดขององค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันในตลาด นอกจากนี้ การวิเคราะห์คู่แข่งยังช่วยให้องค์กรเข้าใจความแตกต่างระหว่างตนเองกับคู่แข่ง และสามารถปรับปรุงแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

แต่การวิเคราะห์คู่แข่งนั้นกว่าจะทำการรวบรวมข้อมูลมาได้ก็ต้องใช้เวลาในการเก็บและวิเคราะห์อีก การที่มีเครื่องมืออย่าง Competitors Analytics เข้ามาช่วยจะทำให้นักการตลาดสะดวกสบายมากขึ้น เพราะเครื่องมือจะมีการรวบรวมข้อมูลและสรุปผลให้เห็นภาพอย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อได้ง่ายมากขึ้น นี่จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักการตลาดต้องใช้เลยทีเดียว

เทรนด์การพัฒนา Competitors Analytics Tools Trend ในมุมมอง InsightEra

  • Industry Benchmark เพื่อวิเคราะห์ของ Positioning ของแบรนด์ได้ว่าอยู่ตรงไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ทำให้นักการตลาดสามารถวางกลยุทธ์ได้มีประสิทธิภาพและเหมาะกับตำแหน่งของตนเอง
  • Analytics View ของการวิเคราะห์คู่แข่ง จะมีการวิเคราะห์ Content Strategy หรือในแง่ของการเลือกใช้ Influencer หรือ Media เพื่อที่จะทำให้การวิเคราะห์คู่แข่งเป็นไปอย่างครบทุกมิติมากขึ้น

ธุรกิจไหนที่เหมาะใช้งาน Competitors Analytics Tools

  • ธุรกิจที่มีการแข่งขันบนสื่อออนไลน์สูง โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ Website ในการ Convert ลูกค้า เช่น Real Estate, Insurance, Airline เป็นต้น
  • Digital Agency ที่ดูแลแบรนด์ให้ลูกค้า มีการวิเคราะห์ Market Competitiveness

แนะนำ BRIAN: Brilliant Analytics for Marketing World

BRIAN วางกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่าง “รวดเร็ว” และ “แม่นยำ” Marketing Analytics ครบทุกมิติ รายแรกในประเทศไทย พร้อมตอบโจทย์ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูล Website & PR Analytics แบบครบวงจรในแพลตฟอร์มเดียว

  • Website Analytics วิเคราะห์และเปรียบเทียบสถิติเกี่ยวกับเว็บไซต์ของธุรกิจคุณและคู่แข่ง โดยบอกอันดับเว็บไซต์จากทั่วโลก หรือเลือกเฉพาะในประเทศไทย แบบเจาะจงตามกลุ่มธุรกิจ จากการค้นหา (Search), การเข้าเว็บไซต์โดยตรง (Direct), การถูกพูดถึงจากเว็บไซต์อื่นๆ (Referral) และการเข้าผ่านโซเชียล (Social)
  • PR Analytics ติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์การประชาสัมพันธ์ และการเลือกใช้สื่อบนช่องทางออนไลน์ทั้งของธุรกิจคุณและคู่แข่ง รู้กระแสตอบรับจากผู้เข้าชม พร้อมเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก วิเคราะห์หาสื่อที่ได้รับผลตอบรับสูงสุด เพื่อวัดประสิทธิภาพในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป

6. Advertising Platform Trend

เทรนด์การพัฒนา Advertising Platform ในมุมมอง InsightEra

  • Channel Coverage ครอบคลุมทุกช่องทางมากขึ้น เช่น TikTok ที่กำลังนิยม รวมไปถึง eCommerce ที่มีช่องแชทอีกด้วย
  • การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในเชิงลึก คาดเดาความต้องการของลูกค้าในอนาคตเพื่อวางแผนรองรับในอนาคตได้
  • Automation ในการยิงโฆษณาหรือซื้อ Media ผ่านช่องทางออนไลน์ ปัจจุบันยังมีความ Manual อยู่ ในอนาคตอยากจะ Automate ในการทำโฆษณาให้ได้มากขึ้น เช่น การ Schedule โพสต์หรือ Optimize Ads

ธุรกิจไหนที่เหมาะใช้งาน Advertising Platform

  • ธุรกิจ Social Commerce ขายผ่าน LINE หรือ Instagram พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ จะตอบโจทย์ เพราะเข้าไปช่วยวิเคราะห์ข้อมูลในช่องทางต่างๆ เพื่อนำมา Segment กลุ่มลูกค้าให้แบรนด์ได้ และแบรนด์ก็เลือกสื่อสารไปยังกลุ่มที่ต้องการได้เช่นกัน
  • Digital Agency ที่ดูแลลูกค้าที่เป็น Social Commerce

แนะนำ 1palette: Advertising AI

1palette ยิง Ads แม่นยำ ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่สร้างจากผู้ซื้อตัวจริง สร้างกลุ่มเป้าหมายตาม Sales Funnel ให้คุณ 5 กลุ่ม เลือกกลุ่มเป้าหมายตามกลยุทธ์การยิงโฆษณาของคุณ ได้แก่ Retargeting Buyer กลุ่มคนที่เคยซื้อสินค้า, Lookalike Buyer กลุ่มคนคล้ายกันกับคนที่เคยซื้อสินค้า, Retargeting Interact กลุ่มคนที่สนใจสินค้า, Retargeting Engage กลุ่มคนที่เคยเห็นสินค้า, Lookalike All กลุ่มคนคล้ายกันกับลูกค้าและคนที่สนใจสินค้า

  • จัดกลุ่มเป้าหมายตาม Sales Funnel ด้วยเทคโนโลยี Big data และ AI กลุ่มเป้าหมายจะถูกสร้างให้อัตโนมัติ พร้อมแนะนำกลยุทธ์ในการนำไปใช้ทำโฆษณาให้ประสบความสำเร็จ
  • ทำงานร่วมกับ Facebook AI ด้วยวิธีการพิเศษที่ทำให้ Facebook AI สามารถค้นหากลุ่มเป้าหมายแบบ Custom audience และ Lookalike audience ได้อย่างแม่นยำ เมื่อเทียบกับการอัพโหลดไฟล์
  • Ready-to-use ให้คุณยิง Ads แบบมืออาชีพ สมัครเสร็จ ได้กลุ่มเป้าหมาย พร้อมยิง Ads ได้ทันที

แนวโน้มการใช้งาน Martech ที่มากขึ้นในทุกธุรกิจ

ในปัจจุบันองค์กรในไทยต่างใช้เครื่องมือ Martech กันในหลายมิติ และจากข้อมูลของ Thailand’s Martech Report 2023 ก็ได้สรุปไว้ว่า องค์กรในไทยมีแนวโน้มวางแผนที่จะใช้เครื่องมือ Martech เพิ่มมากขึ้นในปีนี้อีกด้วย เรียกได้ว่า Martech คือเครื่องมือที่คุณเองก็ต้องเคยใช้แน่นอน!

มาถึงจุดสุดท้ายแล้วทาง Content Shifu ได้ถามความเห็นของคุณหยกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแวดวง Martech ในไทย จะเป็นยังไงตามไปอ่านกันต่อได้เลย!

คุณหยก นารีรัตน์ แซ่เตียว CEO & Co-Founder บริษัท InsightEra

Q: ธุรกิจประเภทไหนบ้างที่มีการใช้ Martech?

A: Martech ไม่ใช่แค่เครื่องมือที่ใช้สื่อสารภายนอกเท่านั้น แต่ช่วยจัดการภายในองค์กรด้วย ซึ่งเครื่องมือ Martech สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มธุรกิจเลย อยู่ที่ว่าเราจะนำ Martech มาตอบโจทย์ธุรกิจส่วนไหนมากกว่า เช่น กลุ่ม B2C พวก Martech ที่ช่วยวิเคราะห์ Customer Insight ค่อนข้างสำคัญ และเป็นส่วนหลักที่ช่วยให้เขาสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้า หรือกลุ่ม B2B ก็มีการใช้ Chatbot ช่วยในการให้บริการลูกค้า ในการเก็บ Lead หรือใช้งานภายในองค์กรเพื่อ Automate Process บางอย่างให้มีประสิทธิภาพ

Q: Martech ส่งผลต่อการทำการตลาดในธุรกิจมากขนาดไหน?

A: ช่วยทำงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ่งที่ช่วยแน่ๆ คือ 

  1. ลดงาน Manual ลง
  2. ทำให้ในระยะเวลาเท่าเดิม Budget เท่าเดิม แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ส่งผลกระทบขนาดไหนในการเอามาใช้กับองค์กร? ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกันทุกวันนี้หลายองค์กรก็มีการ Adopt เอา Martech เข้ามาใช้มากขึ้น การที่เราไม่ใช้อาจเป็นการเสียโอกาสของเรา ที่จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันก็จะด้อยกว่าองค์กรอื่นที่นำมาใช้แล้ว

Q: หลายองค์กรยังมีปัญหาที่ทีมงานอาจจะยังใช้ Martech ไม่เชี่ยวชาญ คุณหยกคิดว่าประเด็นนี้เป็นอุปสรรคในการนำ Martech มาใช้ไหมคะ?

A: การปรับตัวของบุคลากรยังเป็น Challenge ที่หลายๆ องค์กรต้องเจอ แต่ต้องบอกว่าตอนนี้ Tools หลายตัวในตลาด รวมไปถึงในอนาคตจะพัฒนาไปในทิศทางที่ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็น Technical ก็ใช้งานได้ เชื่อว่าในอนาคต Challenge ตรงนี้จะน้อยลงเรื่อยๆ และคนรุ่นใหม่มีสกิลในการ Adopt เทคโนโลยีอยู่แล้ว 

สิ่งที่คิดว่าเป็น Challenge จริงๆ สำหรับ Martech จะไม่ใช่เรื่องคนแต่เป็นเรื่องของ Process ที่องค์กรต้องปรับเพื่อ Adopt เทคโนโลยีเข้ามา ถ้า Process อำนวยให้ใช้แล้ว เชื่อว่าคนเรามีเครื่องมือให้ทำงานง่ายมากขึ้นก็ต้องอยากใช้กันอยู่แล้ว ความยากจะอยู่ที่ Process ที่องค์กรต้องปรับให้เข้ากับ Martech เช่น ก่อนที่เราจะมี Tools คนก็ต้องทำงานด้วยการส่งเอกสาร ส่งอีเมลเพื่อคอนเฟิร์มเรื่องต่างๆ ในการทำงาน แต่พอมี Tools เข้ามาทุกอย่างสามารถทำได้อัตโนมัติ คนที่ยังยึดติดกับ Process เดิมๆ จะทำให้ลำบาก เพราะขั้นตอนเดิมก็ต้องทำ ขั้นตอนใหม่ก็ต้องทำ มันไม่ Make Sense สุดท้าย Martech จะถูกใช้น้อยลงเพราะคนในองค์กรไม่ปรับ Process

Q: สุดท้ายแล้ว Martech จำเป็นกับธุรกิจจริงๆ หรอ?

A: แต่ละธุรกิจมี Pain Point และความต้องการที่แตกต่างกันไป การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแก้ปัญหากลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรจะทำเพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในตลาด ซึ่ง Marketing ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมาก ทำให้ Martech กลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่องค์กรควร Adopt ใช้ให้เป็นปกติ

ทำไมถึงเป็นเรื่องปกติ? เพราะ Martech หลากหลายมากๆ และเชื่อว่าทุกวันนี้ แบรนด์ 80-90% สื่อสารผ่านออนไลน์กันหมด ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกองค์กรล้วนแล้วแต่ใช้ช่องทางออนไลน์ทั้งนั้น จึงทำให้ Martech เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น การที่เรานำ Martech เข้ามาใช้ จึงเป็นเรื่องที่ทำไมถึงจะไม่ทำ? มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทำแล้วได้ประโยชน์กับธุรกิจ ในขณะที่ถ้าเราไม่ทำจะเป็นการเสียโอกาส และทำให้ความสามารถในการแข่งขันด้อยกว่าแบรนด์อื่นที่ใช้ Martech

เพราะฉะนั้นวันนี้ การเข้าถึง Martech และการศึกษาเรียนรู้ ทำได้ง่ายมากขึ้นแล้ว มี Case Study มากมายที่ประสบความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศ เชื่อว่าการ Adopt ใช้มีข้อดีมากกว่าข้อเสียแน่นอน ถ้าอยากผลักดันธุรกิจให้เติบโตและแข่งขันได้ในตลาดการนำ Martech มาใช้จึงเป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรจะทำ